สงบ หรือ น่าเบื่อ!? เมื่อ PANTONE พลิกประวัติศาสตร์ เลือก 'สีขาว' (Cloud Dancer) เป็นสีแห่งปี 2026

สถาบันสีแพนโทน (Pantone Color Institute) สร้างแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ให้กับวงการสร้างสรรค์ทั่วโลก ด้วยการประกาศให้ "สีขาว" ในชื่อเรียกว่า "Cloud Dancer" (รหัส 11-4201) เป็น สีแห่งปี 2026 (Color of the Year 2026) โดยการประกาศครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ นับตั้งแต่เริ่มจัดทำเนียบ "สีแห่งปี" ในปี 1999 ที่เฉดสีในกลุ่ม "สีขาว" (White/Neutral) ได้รับเลือกให้ครองตำแหน่งนี้

‘Cloud Dancer’: สีแห่งความเงียบสงบ

การประกาศให้สีขาว “Cloud Dancer” เป็นสีแห่งปี 2026 โดยแพนโทนในครั้งนี้ ถูกนำเสนอผ่านภาพก้อนเมฆปุยขาวนวล ให้ความรู้สึก เบาสบาย-เงียบสงบ

โดย "Cloud Dancer" ถูกนิยามว่าเป็น "สีขาวที่ล่องลอยและสมดุล" (Billowy, balanced white) ไม่ใช่สีขาวสว่างจ้าที่ดูเย็นชาหรือแข็งกระด้าง แต่เป็นขาวนวลที่อยู่ตรงกลางระหว่างโทนอุ่นและโทนเย็น

Pantone เปรียบสีนี้เสมือน “เสียงกระซิบแห่งความสงบและสันติ” ในโลกที่เต็มไปด้วยเสียงรบกวนและความวุ่นวาย

ทำไมต้องเป็น "สีขาว" ในปี 2026?

การเลือกสีขาวในปีนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นการส่งสารเชิงสัญลักษณ์ที่ตอบโจทย์สภาพสังคมโลกในปัจจุบัน

Leatrice Eiseman ผู้อำนวยการบริหารของ Pantone ระบุว่า

ในช่วงเวลาแห่ง “ความเปลี่ยนแปลง” โลกต้องการ  “รีเซ็ต” หรือ “เริ่มต้นใหม่”
สีขาวเลยเปรียบเสมือนผืนผ้าใบที่ว่างเปล่า เพื่อเปิดรับสิ่งใหม่ๆ และสลัดทิ้งความคิดแบบเดิมๆ

ทั้งนี้ ในแง่งานดีไซน์ สีขาว ถือเป็นสีที่เข้ากับอะไรได้ง่ายที่สุด ส่งให้สีอื่นโดดเด่นได้ยิ่งขึ้น เนื่องจากเป็น “สีโครงสร้างหลัก” ที่ยอมให้สีอื่นๆ ได้เฉิดฉาย เป็นความสงบที่อนุญาตให้ความคิดสร้างสรรค์ได้หายใจ

ขณะที่ในปีที่ผ่านมา โลกเผชิญเหตุการณ์ความรุนแรงทางการเมืองและความวุ่นวายทางสังคม สี Cloud Dancer จึงทำหน้าที่เป็นตัวแทนของ “ความปรารถนาที่จะหยุดพัก” และลดทอนข้อมูลข่าวสารที่ถาโถมเข้ามา เปรียบเสมือน “ความสงบกลางพายุ”​

กระแสตอบรับถล่มทั้ง แง่บวก-แง่ลบ

แม้ Pantone จะให้ความหมายที่ลึกซึ้ง แต่ในแวดวงนักออกแบบ แฟชั่น และโลกโซเชียลมีเดีย กลับมีปฏิกิริยาที่ “เสียงแตก” อย่างชัดเจน โดยแบ่งเป็น 2 ฝั่งหลักๆ ดังนี้:

"น่าเบื่อ" และ "Pantonedeaf"

กระแสลบมองว่าการเลือกสีขาวเป็นการเพิกเฉยต่อความต้องการความสดใสของโลก โดยมีการวิจารณ์ที่น่าสนใจดังนี้:

• "Landlord Special" (สีบ้านเช่า) : ในชุมชนออนไลน์อย่าง Reddit และนักวิจารณ์บางส่วน เปรียบเทียบสีนี้ว่าเป็นสีขาวขุ่นๆ เหมือนสีที่เจ้าของหอพักใช้ทาทับผนังเก่าๆ เพื่อให้ห้องดูใหม่แต่ไร้รสนิยม หรือเป็นสีของ "ออฟฟิศกล่องสี่เหลี่ยม" ที่น่าเบื่อหน่าย
• Pantonedeaf (หูหนวกต่อบริบทโลก): มีการเล่นคำว่า Pantone กำลัง "Pantonedeaf" (ล้อจาก Tone-deaf) โดยมองว่า โลกที่กำลังหดหู่ต้องการสีสันที่ช่วยชุบชูจิตใจ ไม่ใช่สีที่ดูจืดชืดเหมือนการยอมจำนน
• ดัชนีเศรษฐกิจถดถอย (Recession Indicator): นักออกแบบบางส่วนตั้งข้อสังเกตว่า เทรนด์สีที่กลับมาสู่ความเรียบง่ายหรือจืดจาง มักจะสัมพันธ์กับภาวะเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งผู้คนเน้นการประหยัดและไม่กล้าใช้จ่ายกับแฟชั่นที่ฉูดฉาด

ทั้งนี้ การคัดเลือกสีแห่งปีของ Pantone ในครั้งนี้ เรียกได้ว่า สวนทางกับสถาบันเทรนด์และการออกแบบอื่นๆ เลยก็ว่าได้ เช่น ของ World Global Style Network (WGSN) อีกสถาบันพยากรณ์เทรนด์โลก บอกว่า ปี 2026 จะเป็นปีของ "สีสันจัดจ้าน" หรือ สีที่สวยงามอย่าง "Transformative Teal" (สีเขียวน้ำทะเล) เป็นต้น

"ความยั่งยืน" และ "ความจริงแท้"

ในทางกลับกัน ดีไซเนอร์สายมินิมอลและสายรักษ์โลกกลับมองเห็นข้อดีของสีขาวนวลแบบปุยเมฆ ในหลายเหตุผลและมุมมอง ยกตัวอย่างเช่น 

• ความยั่งยืน (Sustainability) : Cloud Dancer ถูกมองว่าเป็นทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่สุด เพราะผู้บริโภคส่วนใหญ่มีเสื้อผ้าหรือของใช้สีนี้อยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องซื้อใหม่ (Anti-consumption) สอดคล้องกับเทรนด์ Quiet Luxury
• ความไร้กาลเวลา (Timelessness) : นักออกแบบภายในมองว่านี่คือสีที่ใช้งานได้จริงที่สุด (Practical) เป็นสีที่ไม่เคยตกยุค และช่วยสร้างความรู้สึกกว้างขวาง ผ่อนคลาย ให้กับที่อยู่อาศัย

อย่างไรก็ตาม ปรากฏการณ์ Cloud Dancer ในปี 2026 คือ การเดิมพันครั้งสำคัญของ Pantone ที่กล้าฉีกกฎเกณฑ์เดิม โดยเลือกที่จะนำเสนอ "ความว่างเปล่า" ท่ามกลางโลกที่เรียกร้อง "สีสัน" แม้จะมีเสียงวิจารณ์ว่าน่าเบื่อ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่านี่คือสีที่สะท้อนความจริงของยุคสมัยที่ผู้คนโหยหาความสงบและการหยุดพักอย่างแท้จริง