โควิดกับวิกฤติรัฐล้มเหลว

โควิดกับวิกฤติรัฐล้มเหลว

วิกฤติโควิด-19 เป็นวิกฤติระดับอินเตอร์ ทำให้เราได้เห็นศักยภาพของทุกองคาพยพในประเทศว่าเราไม่สามารถรับมือกับปัญหาระดับนี้ได้จริงๆ

จะว่าไปโครงสร้างต่างๆ ในประเทศไทยผุพังมานานแล้ว แต่ทุกวิกฤติทุกปัญหาที่เราเผชิญผ่านมา สุดท้ายก็ปล่อยให้จบกันไปแบบไทยๆ หรือไม่ก็ปล่อยให้มันยืดเยื้อไปเรื่อยๆ จนเบื่อกันไปเอง โดยที่ต้นตอของปัญหาไม่ได้ถูกแก้ไขจริงๆ

มองแบบรวบรัดในห้วง 20-25 ปี ซึ่งอาจจะเรียกได้ว่าเป็น 1 เจนเนอเรชั่น แทบไม่มีปัญหาไหนที่เราแก้ไขได้สำเร็จเลย ไม่ว่าจะวิกฤติเศรษฐกิจปี 40 ปัญหารถติด ปัญหาน้ำท่วม หรือแม้แต่ปัญหาภาคใต้ มิพักต้องไปคิดถึงปัญหาคลาสสิกอย่างปัญหาความเหลื่อมล้ำ ปัญหาความยากจน และปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน เพราะไม่ใช่แค่แก้ไม่ได้เท่านั้น แต่ทุกปัญหายังหนักหน่วงรุนแรงขึ้นกว่าเก่า

แต่เราก็อยู่กันมาแบบไทยๆ เลือกตั้งบ้าง ปลุกม็อบบ้าง ปฏิวัติบ้าง สลับๆ กันไป โดยที่ทุกรัฐบาลและทุกคณะรัฐประหารต่างหาเสียงเรื่องการปฏิรูปประเทศ แต่มันไม่เกิดขึ้นจริง

วิกฤติโควิดจึงเท่ากับมาเปลือยทุกองคาพยพในประเทศว่ามันอ่อนแอ ผุพัง และเน่าเฟะ ใกล้เคียงภาวะ รัฐล้มเหลวมากขนาดไหน

ใครจะคิดว่าหน้ากากอนามัยขาดตลาดมาเป็นเดือน ประโคมข่าวก็แล้ว แฉภาพแฉข้อมูลตั้งข้อสงสัยว่ามีแก๊งกักตุนหน้ากากกันก็แล้ว ตรวจโรงงาน ตรวจกำลังการผลิตกันหมดแล้ว แต่สุดท้ายหน้ากากอนามัยก็ยังหาซื้อไม่ได้อยู่ดี

แปลกไหมที่บ้านนี้เมืองนี้ คนระดับปลัด ระดับอธิบดี ระดับโฆษกของหน่วยงาน พูดอะไรออกมาไม่มีใครเชื่อ เอาคำพูดของคนเหล่านั้นมาวางเทียบกับข้อมูลลบๆ ที่แชร์ต่อๆ กันในโลกออนไลน์ ปรากฏว่าคนเชื่อออนไลน์มากกว่า

2-3 เดือนที่ต้องเจอกับวิกฤติอู่ฮั่นที่พัฒนามาเป็นโควิด-19 ใครจะเชื่อว่ารัฐบาลที่มีเครื่องไม้เครื่องมือพร้อมที่สุด กลับสร้างช่องทางการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพเป็นหนึ่งเดียวไม่ได้ แถลงอะไรออกไปก็ต้องมีคำถามกลับมา หรือไม่ก็เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาจนประชาชนสับสน ก่อความวุ่นวายหนักขึ้นไปอีก

คนบางกลุ่มบางพวกก็ฉวยวิกฤติเป็นโอกาส ไม่ได้สนใจเพื่อนร่วมชาติ เข้าทำนองมือใครยาวสาวได้สาวเอา บ้างก็หาช่องรวย กักตุนโก่งราคาสินค้า ขณะที่พวกนักการเมืองก็เอาแต่หาช่องสร้างพื้นที่ข่าว เหยียบย่ำซ้ำเติมสถานการณ์เพื่อกอบโกยคะแนนนิยม โดยที่ไม่มีใครคิดช่วยกันแก้ไขปัญหา

ถึงคราวหยุดผลประโยชน์ส่วนตัวแล้วหันมาแคร์ส่วนรวมกันบ้างหรือยัง จะดีกว่าไหมถ้าเราหยุดทุกความขัดแย้งเพื่อสร้างพลังฝ่าวิกฤติ และสรุปบทเรียนจากวิกฤติเพื่อการปฏิรูปประเทศจริงๆ กันเสียที