ภารกิจ “พลิก.... เขาหัวโล้น” สู่ป่าเขียว เขาพระยาเดินธง

ยุทธศาสตร์กรมป่าไม้ พ.ศ. 2559-2564 กำหนดเป้าหมายเพิ่มพื้นที่ปลูกป่าของประเทศไทยมีสัดส่วน 40% ของพื้นที่ทั้งหมดของประเทศ (หรือ128 ล้านไร่)
เป็นป่าเพื่อการอนุรักษ์ 25%(80 ล้านไร่ ) และป่าเพื่อประโยชน์ทางเศรษกิจ 15%(48ล้านไร่)
ขณะที่ข้อมูลล่าสุด เมื่อปี 2561 พื้นที่ป่าไม้อยู่ที่ประมาณ 31-32% ของพื้นที่ทั้งหมดของประเทศ ภาครัฐจึงได้เร่งรณรงค์ทุกภาคส่วนร่วมมือกันอนุรักษ์ ฟื้นฟู และ ปลูกป่าใหม่ เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับประเทศไทย เพราะป่าไม้เป็นทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญต่อเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมของประเทศ
โดยตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นมา กรมป่าไม้ดำเนินการใน 2 แนวทางหลักควบคู่กัน เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับประเทศ คือ 1.ฟื้นฟูสภาพป่า และ 2. เพิ่มพื้นที่ป่าซึ่งได้ดำเนินการคืบหน้าไปแล้วหลายพื้นที่
ป่าเขาพระยาเดินธง ต.พัฒนานิคม อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี เป็นพื้นที่ป่าไม้ถาวรของชาติที่ได้รับการฟื้นฟูโดยความร่วมมือระหว่างกรมป่าไม้องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน) เอกชนที่เห็นความสำคัญกับทรัพยากรธรรมชาติของชาติ ได้ร่วมกับชุมชนในพื้นที่อนุรักษ์ ฟื้นฟู และปลูกป่าใหม่ ในขอบเขตพื้นที่ 5,971 ไร่ ภายใต้โครงการ “ซีพีเอฟ รักษ์นิเวศ ลุ่มน้ำป่าสัก เขาพระยาเดินธง”
ผืนป่าเขาพระยาเดินธง เป็นป่าต้นน้ำลุ่มน้ำป่าสัก แหล่งน้ำสำคัญสำหรับการเกษตรและอุตสาหกรรมของพื้นที่ 5 จังหวัดได้แก่ จ.เลย เพชรบูรณ์ ลพบุรี สระบุรี และพระนครศรีอยุธยา ย้อนกลับไปเมื่อ 4 ปีที่แล้ว สภาพพื้นที่ป่าเขาพระยาเดินธงไม่ต่างจากเขาหัวโล้นเต็มไปด้วยวัชพืชหนามสนิมหลังจากที่พื้นที่ป่าถูกบุกรุกแผ้วถางจนไม่เหลือต้นไม้ใหญ่ กรมป่าไม้ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ และภาคเอกชนเข้ามาฟื้นฟู หัวใจสำคัญ คือ สร้างการมีส่วนร่วมของชุมชนในพื้นที่ตระหนักถึงประโยชน์ของการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่า
จากสภาพเขาหัวโล้นมาจนถึงวันนี้ พื้นที่ป่า 5,971ไร่ที่เขาพระยาเดินธง เป็นป่าเขียวชะอุ่ม ผลจากการร่วมแรงร่วมใจฟื้นฟูและดูแลป่าอย่างต่อเนื่องและจริงจังตั้งแต่กระบวนการเพาะกล้าไม้ ทำฝายชะลอน้ำกำจัดวัชพืชและหญ้าซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการเจริญเติบโตของต้นไม้ การทำแนวกันไฟเพื่อป้องกันไฟป่าทำSeed Ballซึ่งเป็นอีกรูปแบบหนึ่งของการฟื้นฟูป่าที่เลียนแบบธรรมชาติช่วยเพิ่มอัตราการรอดตายของกล้าที่งอกในพื้นที่ป่า
ปัจจุบัน“ป่าเขาพระยาเดินธง” สามารถเป็นต้นแบบของการฟื้นฟูป่าให้กับพื้นที่อื่นๆของประเทศ เป็นป่าผืนแรกของประเทศไทยที่มีการนำการปลูกป่า 4 รูปแบบมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ที่ปลูก ได้แก่ 1 .ปลูกป่าแบบพิถีพิถันจัดทำระบบให้น้ำแบบหยดทั่วทั้งแปลง 2.ปลูกป่าเชิงนิเวศ เป็นการปลูกป่าเลียนแบบธรรมชาติไม่มีระบบน้ำหยด 3.ปลูกป่าแบบเสริมป่า พื้นที่มีแม่ไม้และลูกไม้เกิดขึ้นตามธรรมชาติ แต่ไม่กระจายทั่วพื้นที่จึงต้องปลูกต้นไม้เสริมและกำจัดเถาวัลย์ที่ปกคลุมเรือนยอดเพื่อเปิดให้แสงส่องถึงลูกไม้ที่อยู่พื้นดิน และ 4.การส่งเสริมการสืบพันธุ์ตามธรรมชาติส่งผลให้มีอัตราการรอดตายของต้นไม้สูงถึง90 %ความหลากหลายทางชีวภาพสู่พื้นที่ทั้งพันธุ์พืชและสัตว์นานาชนิดสะท้อนความอุดมสมบูรณ์ที่กลับคืนสู่ป่าจากเดิมที่แทบไม่เหลือสัตว์ที่อาศัยอยู่ในป่าแห่งนี้เลย
ภายใต้ระยะเวลาดำเนินโครงการปลูกป่า5 ปี(ปี2559 -2563)ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากจิตอาสาซีพีเอฟ ชุมชนรอบพื้นที่เขาพระยาเดินธง ผู้นำในพื้นที่อาสาสมัครเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ซึ่งไม่ใช่กิจกรรมที่ทำครั้งเดียวจบ แต่จิตอาสาเหล่านี้เสียสละเวลาเพราะตระหนักถึงความสำคัญของการมีส่วนร่วมเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับประเทศ
วันนี้...ต้นกล้าเล็กๆ ที่จิตอาสาช่วยกันเพาะไว้เป็นแสนๆกล้า เพื่อนำไปปลูกเติบโตเป็นลำดับ ฝายชะลอน้ำ
จากหยาดเหงื่อที่ร่วมกันทำกักเก็บน้ำช่วยรักษาความชุ่มชื้นให้ผืนป่าโดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนนี้ ต้นไม้ได้รับน้ำฝนเต็มที่ทำให้ต้นไม้เติบโตได้ดี ท้ายที่สุดพื้นที่ป่าไม้ที่ได้รับการฟื้นฟูจนกลับมามีความอุดมสมบูรณ์จะช่วยลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากชั้นบรรยากาศโดยการกักเก็บไว้ในต้นไม้อินทรียวัตถุในดิน เป็นการลดและบรรเทาปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลกได้อีกทางหนึ่ง
‘เขาพระยาเดินธง’ พื้นที่ป่าไม้ของชาติ ต้นแบบของการฟื้นฟูป่าที่เกิดจากความร่วมมือระหว่าง ภาครัฐภาคเอกชน และชุมชนนอกจากช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับประเทศตามยุทธศาสตร์ของกรมป่าไม้แล้ว ในอนาคตป่าแห่งนี้ ยังเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติป่าไม้ของชาติแบบมีส่วนร่วม และในระยะต่อไปหากสามารถพัฒนาสู่แหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ จะเป็นการช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมที่ดีให้กับประเทศอีกด้วย
โดย...
ถนอมพงษ์ สังข์ธูป
หัวหน้าโครงการฟื้นฟูสภาพป่าไม้ ป่าเขาพระยาเดินธง







