ของขวัญปีใหม่

ใกล้เทศกาลปีใหม่ คิดว่าใคร ๆ ก็คงอยากได้ “ของขวัญปีใหม่”
ซึ่ง “รัฐบาล คสช.” ก็ไม่พลาดที่จะสนองความต้องการประชาชนด้วยการ ระดมแต่ละกระทรวง แต่ละหน่วยงานให้คิด“มาตรการ” หรือ “บริการ” ที่เป็นประโยชน์กับประชาชน
+++ เมื่อวานในที่ประชุม ครม. แต่ละกระทรวง จึง “ประชัน” กันเสนอ“ ของขวัญปีใหม่” ให้กับประชาชน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยกตัวอย่างว่า ของขวัญปีใหม่ของรัฐบาลที่ให้กับประชาชน อาทิ การที่ภาคเอกชนมาร่วมขายของลดราคาถึง 80% โดยได้ขอให้เจ้าของธุรกิจนำของในสต๊อกมาจับสลาก โดยนำใบเสร็จที่ซื้อสินค้ามาร่วมชิงรางวัลได้ เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ที่สำคัญต้องให้กำลังใจกับคนทุกพวกทุกฝ่าย ถ้าเราให้อะไรใครไม่ได้ก็ให้ใจ ก็จะดีขึ้นเอง
+++ พล.อ.ประยุทธ์ บอกว่า นอกจากการนำของมาลดราคาแล้ว ยังห่วงว่าทำอย่างไรเขาจะมีเงินมาซื้อ ซึ่งกำลังคิดอยู่ว่าจะมีเม็ดเงินอะไรลงไป เพื่อเป็นของขวัญอีกก้อน วันนี้ได้ดูภาคชนบทเกษตรกรไปแล้ว และจะต้องมาดูชุมชนที่กทม.อีกหรือไม่ แม้เขาจะมีกองทุนเหมือนกองทุนหมู่บ้านแต่ก็ใช้ไปแล้ว จะต้องดูแลใหม่อีกหรือไม่ ก็เลยให้ไปคิดมา จะต้องมีการเตรียมการเป็นของขวัญหลังปีใหม่
+++ “ของขวัญปีใหม่” ชิ้นหนึ่งที่รัฐบาลมอบให้ น่าจะเป็นที่พออกพอใจสำหรับ“เอ็นจีโอ” และ “เกษตรกร” ก็คือ การยกเลิกร่างพ.ร.บ.ความปลอดภัยทางชีวภาพ หรือ “พ.ร.บ.จีเอ็มโอ” ที่ก่อนหน้านี้เอ็นจีโอและเกษตรกรในหลายจังหวัดเคลื่อนไหวยื่นหนังสือเรียกร้องไปยังรัฐบาล เพราะหวั่นเกรงถึงผลกระทบต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้น หากปล่อยให้มี “ผลไม้ตัดแต่งพันธุกรรม”เกิดขึ้นในบ้านเรา
+++ “วันนี้ได้สั่งให้ยกเลิกพ.ร.บ.จีเอ็มโอ ไปแล้ว ซึ่งเป็นพันธสัญญา คุยกันมาตั้งแต่ปี 2540 เมื่อเห็นว่าไม่เกิดประโยชน์ก็ยกเลิกไป เลิกพิจารณาพอแล้ว อย่าส่งกลับไป ในต่างประเทศที่ทำมีข้อยกเว้น ในกรณีที่มีสงคราม หรือผลิตสินค้าทางการเกษตรไม่ได้ เพราะเกรงจะเกิดการปนเปื้อน เชื้อโรคระบาด แต่จีเอ็มโอ ป้องกันโรคระบาดตัวได้เอง ซึ่งบ้านเรายังไม่มีความชัดเจน และหวังอย่างเดียวบ้านเราอย่าเกิดสงคราม" นี่คือเหตุผลที่นายกฯ บอกถึงการยกเลิกร่างพ.ร.บ.จีเอ็มโอ ที่ผ่านครม.ไปแล้ว และอยู่ในชั้นการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา
+++ หันไปดูเกี่ยวกับเรื่อง “ภัยแล้ง” ที่คาดว่าจะ “หนักหนาสาหัส” ในปีหน้า ข้อมูลของกรมชลประทาน ระบุถึงสถานการณ์น้ำ 4 เขื่อนใหญ่ในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาครอบคลุมพื้นที่ 22 จังหวัด รวมถึงกรุงเทพฯ ข้อมูล ณ วันที่ 1 พ.ย. ว่า ในปี 2559 จะมีน้ำใช้การได้ราว 4,247 ล้านลูกบาศก์เมตร(ลบ.ม.) จัดสรรไว้เพื่ออุปโภคบริโภคและการประปา 1,100ล้าน ลบ.ม. สำหรับรักษาระบบนิเวศ 1,400 ล้าน ลบ.ม. สำรองไว้ใช้ก่อนต้นฤดูฝนในช่วงพ.ค.-ก.ค. 1,347 ล้านลบ.ม. น้ำเพื่อการเกษตร 400 ล้านลบ.ม.
+++ กรมชลฯ จึงได้กำหนดมาตรการควบคุมการบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูแล้งปี 2559 อาทิ ขอความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ให้สูบน้ำด้วยไฟฟ้าเพื่อการเกษตร สูบน้ำเข้าพื้นที่เพาะปลูกรวมถึงไม่ให้เกษตรกรปิดกั้นลำน้ำหรือสูบน้ำเข้าพื้นที่เพาะปลูก และให้หน่วยงานเกี่ยวข้องเฝ้าระวังและควบคุมไม่ให้มีการปล่อยน้ำเสียลงในแม่น้ำคูคลองและแหล่งน้ำต่างๆ เนื่องจากทำให้ต้องระบายน้ำเพิ่มขึ้นเพื่อเจือจางน้ำเสีย
+++ “ภัยแล้ง” กำลังจะมาเยือน คงต้องช่วยกันประหยัดน้ำ และเตรียมการรับมือตั้งแต่บัดนี้เป็นดีที่สุด
.......................................
แหลมเชิงดอย : [email protected]