เมื่อสีจิ้นผิงขอกิน Fish & Chips กับเดวิด คาเมรอนในผับอังกฤษ

ประจำชาติของอังกฤษ Fish & Chips หรือยัง แต่ที่ยืนยันได้คือผู้นำจีนได้ส่งคำขอไปยังฝ่ายนายกฯ อังกฤษ ว่าจะขอกินอาหารจานนี้ระหว่างไปเยือนอย่างเป็นทางการครั้งนี้ด้วย

การขอกิน Fish & Chips ที่อังกฤษก็จะละม้ายกับมานั่งกิน “ส้มตำผัดไทย” กับนายกฯไทยทำนองนั้น

แน่นอนว่าคงไม่ใช่อาหารจานที่ปรากฏในงาน state banquet อันอลังการที่พระราชินี Queen Elizabeth II ทรงเป็นเจ้าภาพ ณ ราชวัง Buckingham

แต่จะเป็นอาหาร “แบบชาวบ้านอังกฤษ” ในร้านเหล้าที่เรียกว่า English pub ที่เมือง Chequers ห่างจากลอนดอนไปทางตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 50 กิโลเมตรในเมือง Buckinghamshire อันเป็นจุดที่นายกฯอังกฤษใช้รับแขกบ้านแขกเมืองคนสำคัญนอกเมืองหลวง

สีจิ้นผิงไปเยือนอังกฤษครั้งนี้เป็นข่าวใหญ่ในสื่อของจีนทุกแขนง กระบอกเสียงทางการลงรายละเอียดล่วงหน้าทุกเม็ดของการไปเยือน ซึ่งแน่นอนว่าล้วนแล้วแต่สะท้อนถึงด้านบวก ของการพบปะระหว่างผู้นำจีนกับอังกฤษครั้งนี้ทั้งสิ้น 

เห็นได้ชัดว่าผู้นำจีนต้องการจะตอกย้ำให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างจีนกับอังกฤษ

ประธานาธิบดีจีนถึงกับยกย่องชื่นชมนายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน ว่าเป็นผู้นำที่ได้เลือกนโยบายที่ “มีวิสัยทัศน์และแนวทางยุทธศาสตร์ที่ดีเยี่ยม” (“visionary and strategic choice”) ที่มีจุดยืน “เป็นมิตรที่ดีที่สุดของจีนในโลกตะวันตก”

สีจิ้นผิงจงใจที่จะเน้นท่าทีของจีนที่มีความแตกต่างระหว่างสหรัฐกับอังกฤษ เพราะในการไปเยือนสหรัฐเมื่อเดือนที่แล้ว ผู้นำจีนไม่ได้แสดงท่าทีเป็นมิตรสนิทสนมเท่ากับไปอังกฤษเที่ยวนี้

เพราะบารัก โอบามา ยกประเด็นที่มีความขัดแย้งกับจีนหลาย ๆ เรื่องไม่ว่าจะเป็นเรื่องสิทธิมนุษยชนหรือการขโมยข้อมูลทางไซเบอร์รวมไปถึงความตึงเครียดในทะเลจีนใต้

อีกทั้งไปวอชิงตันครั้งนี้ สีจิ้นผิงก็ถูกกลบด้วยการเยือนของสันตะปาปาในช่วงใกล้ ๆ กัน ข่าวใหญ่ที่อเมริกาจึงไม่ใช่ผู้นำจีน หากแต่เป็นเสน่ห์และวาทะที่คนอเมริกันชื่นชมของผู้นำวาติกัน

อีกทั้งช่วงที่อยู่สหรัฐ สีจิ้นผิงก็ไม่ได้ขอมีช่วงที่แสดงความใกล้ชิดสนิทสนมกับโอบามา เหมือนที่จะไปพบกับแคมารอน

ไปอเมริกา ผู้นำจีนไม่ได้ขอกิน “ฮ็อทดอก” อันเป็นอาหารประจำชาติของคนอเมริกัน แต่มาอังกฤษกลับขอนั่งกินปลาทอดกับมันฝรั่งหรือ Fish & Chips หน้าตาเฉย

แต่ผู้นำอังกฤษพยายามจะเน้นแต่เรื่องความร่วมมือในการค้าและการลงทุนกับจีน ไม่ยกเรื่องที่อาจจะทำให้เกิดความบาดหมางทางความรู้สึก

สีจิ้นผิงมาอังกฤษครั้งนี้นำเอาคณะนักธุรกิจระดับแถวหน้าของจีนถึง 150 คนและเตรียมจะมีคำประกาศลงทุนของจีนในอังกฤษอย่างเป็นกอบเป็น-ไม่น้อยกว่า 150,000 ล้านดอลลาร์หรือ 5.2 ล้านล้านบาทในสิบปีข้างหน้า

ก่อนออกเดินทางจากปักกิ่ง สีจิ้นผิงได้รับการบอกกล่าวจากกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ว่าอัตราโตของผลผลิตมวลรวมเศรษฐกิจจีนในไตรมาสที่ 3 อยู่ที่ 6.9% ซึ่งถือว่าต่ำที่สุดใน 6 ปีแต่ก็สูงกว่าที่นักวิเคราะห์เคยทำนายเอาไว้

ประเด็นนี้คงจะเป็นหัวข้อการเจรจาระหว่างสองผู้นำในระหว่างการเยือน 4 วันซึ่งคงจะรวมไปถึงการที่จีนกับอังกฤษจะร่วมมือกันในด้านต่าง ๆ เพื่อแสดงถึงความพร้อมของสองประเทศ ในการช่วยแก้ปัญหาระหว่างประเทศ

ผมรอดูว่าสีจิ้นผิงจะประกาศช่วยเหลือผู้ลี้ภัยชาวซีเรีย ที่แห่กันเข้าไปในยุโรปอย่างไร และจะย้ำถึง “บทบาทในเวทีสากล” ที่ปักกิ่งกำลังเร่งเครื่องอย่างเต็มที่ทุกวิถีทางอย่างไร

เมื่อผู้นำคอมมิวนิสต์ใหญ่ที่สุดของโลกเข้าเฝ้ากษัตริย์อังกฤษ อันเป็นต้นแบบของทุนนิยมตะวันตก บรรยากาศจะมีสีสันไม่น้อยไปกว่าเนื้อหา ที่สองผู้นำทางการเมืองจะปิดประตูจับเข่าคุยกันแน่นอน