2C ง่ายๆ สำหรับใช้ในสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ!

 2C ง่ายๆ สำหรับใช้ในสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ!

ไม่ว่าสภาวะเศรษฐกิจของโลก เศรษฐกิจไทยในปัจจุบันที่มีหลายสาเหตุทำให้กำลังซื้อหดหายไปส่งผลให้หลายๆ ธุรกิจ อยู่ในสภาวะยอดขายไม่เป็นไปตามเป้า

ขณะที่หลายๆ ที่ ยอดขายก็ต่ำกว่าเป้ามานานแล้ว! (และยังไม่เห็นแนวโน้มว่ายอดขายจะถึงเป้าหมายในอนาคตอันใกล้)

การเตรียมรับมือวิกฤติทางเศรษฐกิจที่อาจจะเกิดขึ้นเป็นสิ่งที่ทุกที่คงจะเตรียมตัวกันบ้างไม่มากก็น้อย ไม่ใช่รอดูไปเรื่อยๆ แบบเฉื่อยแฉะ หรือรอให้เกิดผลกระทบแล้วค่อยมาตาลีตาเหลือกแก้ไข เพราะมันไม่มีทางที่จะรับมือได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเตรียมตั้งแต่วันนี้ ถือว่ายังไม่ช้าเกินไป

มองในแง่ดี ในสภาวะปัจจุบันก็ช่วยให้เราทำธุรกิจแบบประมาทน้อยลง ไม่เพ้อฝัน และมีโอกาสได้ใช้ศักยภาพของตัวเราในฐานะผู้นำองค์กรหรือหน่วยงาน และใช้ศักยภาพของทีมงานได้อย่างที่ควรจะเป็น

ลองพิจารณาแนวทางนี้ดูนะครับ แล้วลองนำไปปรับใช้ เผื่อจะเป็นประโยชน์กับองค์กรของท่านไว้ใช้รับมือกับสภาวะในปัจจุบัน..

แนวทางที่ถือว่าจำเป็นต้องทำ เพราะเป็นเรื่องใกล้ตัว “ที่ส่งผลอย่างมาก” และที่สำคัญ ไม่ต้องใช้เงินให้สิ้นเปลือง ใช้แค่ความทุ่มเทอย่างจริงจังก็จะเห็นผลแล้วครับ!

ผมขออนุญาตแนะนำให้เริ่มที่ “2C” เพราะ สองแกนนี้คือเส้นเลือดใหญ่ที่สร้างรายได้หล่อเลี้ยงให้องค์กรอยู่รอดในทุกสภาวะ ไปจนถึงรุ่งโรจน์!

แต่ C ตัวที่ผม ไม่แนะนำให้ใช้ (ที่หลายๆ องค์กรมักจะใช้เป็น C แรกในสภาวะเศรษฐกิจถดถอย หรือตกต่ำมากๆ) ก็คือ C ที่เป็นเรื่องของ Cut Cost !

การประหยัดค่าใช้จ่ายเป็นเรื่องที่ดี แต่การตัดค่าใช้จ่ายแบบไร้ทิศทาง ตัดแบบกระต่ายตื่นตูม โดยเฉพาะการตัดค่าใช้จ่ายที่ส่งผลถึงคุณภาพและการบริการที่ลูกค้าจะได้รับ และการตัดค่าใช้จ่ายที่ส่งผลถึงการทำลายขวัญและกำลังใจของทีมงาน..เพราะมันจะเกิดผลดีระยะสั้น (สั้นจริงๆ) แต่เกิดผลเสียหายอย่างรุนแรง ทั้งระยะสั้น กลางไปจนถึงระยะยาว เพราะทั้งลูกค้าและทีมงานของท่าน จะเป็นฝ่ายทอดทิ้งท่านไปในอนาคตอันใกล้นี้

C แรก ที่ท่านจำเป็นต้องใช้และให้ความสำคัญก็คือ Core Customer

C กลุ่มนี้ หมายถึงกลุ่มลูกค้าหลักที่สร้างรายได้ให้กับองค์กรของท่านอย่างต่อเนื่อง และยังหมายถึงกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพสูง ที่ท่านจะต้องรักษาความสัมพันธ์ เพิ่มคุณค่าเพื่อให้ลูกค้าหลักกลุ่มนี้..อยู่กับท่านให้นานที่สุด

แต่ C กลุ่มนี้ จะไม่รวมถึงกลุ่มลูกค้าที่สร้างภาระ มากกว่าสร้างรายได้ ลูกค้าที่ซื้อน้อยแต่ปัญหาเยอะ กลุ่มที่รอซื้อเฉพาะช่วงที่ลดราคาแบบสุดๆ ประเภทขายได้แต่ไม่คุ้มกับค่าใช้จ่ายที่ท่านต้องเสีย เพราะต่อไปท่านจะไม่มีเวลามาทุ่มเทให้กับลูกค้าทุกประเภท เพราะฉะนั้นท่านต้องรู้ให้ได้ว่า ธุรกิจของท่าน ใครคือลูกค้าที่ท่านควรรักษา และใครคือลูกค้าที่ท่านควรตัดทิ้งไปได้แล้ว

เพราะฉะนั้น ถ้าองค์กรของท่าน สามารถ รักษา Core Customer ที่เป็นกลุ่มลูกค้าหลักไว้ได้ ท่านก็การันตีเรื่องรายได้ที่จะเข้ามาหล่อเลี้ยงองค์กรของท่านอย่างต่อเนื่อง ส่วนการต่อยอดขยายผลสร้างลูกค้าใหม่ ก็เป็นอีกแรงเสริมที่จะสร้างรายได้เพิ่ม แล้วค่อยๆ พัฒนา ลูกค้าใหม่ ไปสู่กลุ่มลูกค้าประจำ ไปจนถึงลูกค้าหลัก

C ตัวที่สอง ที่หลายๆ องค์กรกำลังเร่งเรียนรู้และนำไปใช้อย่างจริงจังในขณะนี้ ก็คือ Coach For Change หลายๆ องค์กรที่ปรับตัวได้เร็ว เริ่มประเมินศักยภาพของหัวหน้างานทุกระดับโดยใส่ COACHING SKILL เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดศักยภาพและประเมินผลปลายปี นั่นหมายความว่า ใครที่ไม่สามารถเป็น COACH ให้ทีมงานได้ ย่อมไม่เหมาะสมที่จะเป็นผู้นำ

การจะรักษากลุ่มลูกค้าหลัก และสร้างลูกค้าใหม่ได้ ทีมงานของท่านในแต่ละระดับ และทุกหน่วยงานไม่ว่าจะเป็นฝ่ายที่สร้างลูกค้าทางตรงหรือฝ่ายประสานงานที่ถือว่ามีส่วนในการสร้างและทำลายลูกค้าทางอ้อม

ตั้งแต่ระดับ Supervisor ไปจนถึง Manager และ Director แม้กระทั่ง CEO ก็จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีความสามารถที่จะ COACHING มือรอง และทีมงาน เพื่อให้ทีมงานสามารถไปสร้างและรักษาลูกค้าแต่ละกลุ่ม

นี่ก็คือการ ผสมผสาน 2 C ที่จำเป็นต้องเดินควบคู่กัน ขาด C ตัวไหนไป โอกาสขาดใจตาย ก็จะมาถึงเร็วยิ่งขึ้น!

ลองพิจารณาและใช้ 2C อย่างจริงจัง…แล้วท่านจะพบทางรอดมากกว่าทางตัน!