เทคนิคการใช้โซเชียลมีเดีย

เทคนิคการใช้โซเชียลมีเดีย

วันนี้ ลองบริษัทไหนทำการตลาดผ่านสื่อกระแสหลัก (Mainstream Media) อย่างวิทยุ โทรทัศน์ เพียงอย่างเดียว ต้องเรียกได้ว่า เชยสุดๆ

(หรือควรจะเป็น ฝุดฝุด ดี วัยรุ่นยุคดิจิทัลที่พิมพ์ผิดจนกลายเป็นถูกจะได้เข้าใจ) เพราะทุกวันนี้ เป็นที่ทราบกันดีว่า ผู้บริโภคไม่ได้บริโภคเพียงแค่สื่อกระแสหลักเท่านั้น แต่หลายๆ คน ยังบริโภคสื่อสังคม หรือ โซเชียลมีเดีย ควบคู่กันไปอีกด้วย สำหรับอาจารย์นิเทศศาสตร์ เราก็ต้องหาความรู้ใหม่ๆ ทางด้านโซเชียลมีเดียเพิ่มเติมด้วยเช่นกันเพื่อให้สอดคล้องกับยุคสมัย เพราะสอนมาตั้งแต่อินเทอร์เน็ตยังใหม่เอี่ยม ดูได้จาก e-mail address ของผมคือ [email protected] ไม่หวือหวา ฟู่ฟ่าเหมือนเด็กๆ รุ่นใหม่เขาเลย และผมก็โชคดีมากที่ได้ไปพบกับหนังสือขายดีเล่มหนึ่ง ทาง Kindle ของเว็บไซต์ Amazon ที่ชื่อ 500 Social Media Marketing Tips : Essential Advice, Hints and Strategy for Business : Facebook, Twitter, Pinterest, Google+, YouTube, Instragram, LinkedIn, and More! เป็นหนังสือที่ชื่อยาวสองบรรทัด แต่เรียกได้ว่า ครอบคลุม โซเชียลมีเดีย เกือบทั้งหมดและน่าอ่านมาก วันนี้ผมจึงอยากพูดถึงหนังสือเล่มนี้สักหน่อยครับ

ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้คือ Mr. Andrew Macarthy ครับ เขาได้ให้ Tips หรือข้อแนะนำเล็กๆ น้อยแก่บุคคลหรือบริษัทที่ใช้ โซเชียลมีเดีย ไว้มากมายหลายประเด็นและสามารถช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นเวลาใช้โซเชียลมีเดียได้ดี ซึ่งผมขอแอบนำมาเล่าให้ฟังบางส่วนตรงนี้ครับ เริ่มจากการที่มีหลายบริษัทตั้งคำถามว่า จะทำอย่างไรให้ลูกค้าไม่หนี และติดตาม Facebook ของเราอยู่เรื่อยๆ ปัญหานี้ ผู้เขียนแนะนำว่า เราสามารถนำ กฎ 80/20 มาใช้กับโซเชียลมีเดียได้ครับ นั่นคือ บริษัทควรจะโพสต์ข้อความที่ไม่ใช่การโปรโมทสินค้าหรือการขายสินค้าโดยตรงสัก 80% ของการโพสต์ โดยเลี่ยงไปโพสต์ข้อความเพื่อสร้างความสัมพันธ์ หรือเรื่องราวที่มีประโยชน์มากกว่า ไม่เช่นนั้นก็โพสต์ลิงค์ต่างๆ ที่มีประโยชน์แทน โดยเก็บ 20% ให้เป็นเรื่องราวที่เกี่ยวกับการขายสินค้าเบาๆ ตรงนี้จะทำให้การโพสต์ Facebook ของคุณน่าติดตามครับ

ข้อแนะนำที่น่าสนใจอีกข้อ ได้แก่ “Re-purpose content across social media” ความหมายคือ การนำข้อมูลหรือเนื้อหาสาระ (content) ใดๆ ก็ตามที่บริษัทมี มาใช้ซ้ำผ่านทางโซเชียลมีเดียต่างๆ ซึ่งถ้าเป็นสมัยก่อน ข้อมูลเนื้อหาเหล่านี้ อาจนำไปใช้ได้เพียงครั้งเดียว เช่น หากเป็น press release ก็จะทำเป็น press release หนเดียวแล้วจบ พับเก็บเข้าลิ้นชัก และบริษัทมักไม่นำข้อมูลนี้กลับมาใช้กับสื่ออื่น แต่หากเป็นยุคของ โซเชียลมีเดียแล้ว ข้อมูลเนื้อหาดังกล่าวนี้ สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ หลายครั้ง หลายหน เช่น ดัดแปลงเนื้อหาใส่ blog, tweet, ทำเป็น VDO แชร์บน Facebook หรือเปลี่ยนข้อมูลให้เป็น Infographic สำหรับ Pinterest กลยุทธ์การนำ เนื้อหาข้อมูล มาเปลี่ยน หรือ ดัดแปลงให้เหมาะสม และนำไปใช้กับสื่อออนไลน์ต่างๆ เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง เพราะจะทำให้ประหยัดเวลาและทรัพยากรของบริษัทได้มาก

ดังนั้น หากบริษัทคุณจัดงานอะไรสักอย่าง งานเดียวที่คุณจัดนี้ คุณต้องรู้จัก นำเนื้อหา ข้อมูล ภาพต่างๆ มาประยุกต์ใช้กับโซเชียลมีเดียให้ครบถ้วน เปรียบกับคำพูดโบราณที่กล่าวว่า “ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว” แต่สำหรับยุคนี้แล้ว ต้องมากกว่าสองตัวนะครับ

Andrew Macarthy ยังได้กล่าวอีกว่า แบบทดสอบที่สำคัญอย่างหนึ่งสำหรับการทำการประชาสัมพันธ์ผ่าน โซเชียลมีเดีย ก็คือ การที่บริษัทสามารถโพสต์เนื้อหาสาระ ที่มีคุณภาพ มีประโยชน์ต่อสังคมหรือกลุ่มเป้าหมายได้อย่างไม่ขาดตอน และอยู่ในระดับมาตรฐานที่เท่าเดิมตลอดเวลา สาเหตุที่สิ่งนี้คือ แบบทดสอบสำคัญ เพราะ ผู้ติดตาม (follower) มักจะตื่นเต้นกับเนื้อหาในช่วงแรกๆ แต่พอนานๆ ไป ผู้ติดตามเริ่มที่จะทยอยเลิกติดตามและกลายเป็น เฟสร้าง ลงไปในที่สุด เทคนิคที่จะช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้ คือ การจัดทำปฏิทินการใช้สื่อโซเชียล

เพื่อไม่ให้ลูกค้าคิดว่า เราปิดบริษัทไปแล้ว เพราะเฟซบุ๊คตายแล้ว บริษัทควรจะจัดทำปฏิทินการใช้สื่อโซเชียล โดยปฏิทินนี้จะต้องกำหนดเนื้อหาสาระ และผู้ที่รับผิดชอบเขียนบทความลง blog, Facebook, twitter และสื่ออื่นๆ ล่วงหน้าอย่างน้อยเป็นอาทิตย์ หรือ ถ้าเป็นไปได้เตรียมเนื้อหาล่วงหน้าเป็นเดือนได้ยิ่งดี ข้อดีของการทำ ปฏิทินสื่อโซเชียลนี้ ยังทำให้ เนื้อหาสาระ สอดคล้องกับบรรยากาศ ฤดูกาล เทศกาลต่างๆ ในสังคมนั้นๆ อีกด้วย เมื่อเป็นเช่นนี้ หลายท่านคงเห็นแล้วว่า บริษัทใดก็ตามที่จะใช้โซเชียลมีเดีย เป็นเครื่องมือเพื่อการโฆษณาประชาสัมพันธ์ บริษัทต้องทำอย่างจริงจัง และหาผู้รับผิดชอบตายตัว หลายๆ บริษัทมักคิดว่า หน้าที่ดูแลการใช้โซเชียลมีเดีย เป็นเรื่องง่ายๆ เหมือนพนักงานเล่นเฟซบุ๊ค แต่จริงๆ แล้ว การใช้สื่อโซเชียลของบริษัท เป็นเรื่องใหญ่ครับ ต้องมีการวางแผน การสร้างเป้าหมาย เพราะเราไม่ได้สื่อกับคนเล่นๆ นินทาเพื่อน ระบายอารมณ์ โชว์ข้าวกลางวันที่กำลังจะกิน แต่เราใช้สื่อเหล่านี้เพื่อบรรลุเป้าหมายของเราที่ตั้งไว้ครับ

เทคนิคและข้อเสนอแนะเหล่านี้ยังมีอีกมาก สำหรับใครที่สนใจเรื่องการใช้สื่อโซเชียล ผมอยากแนะนำหนังสือเล่มนี้ไว้ให้อ่านนะครับ เป็นหนังสือ ภาษาอังกฤษครับ แต่สำหรับผู้ที่ไม่มีเวลาอ่านหรือไม่เก่งด้านภาษา ผมขอแนะนำและเชิญชวนเข้าร่วมสัมมนา ม.เนชั่น แนะทางรวยออนไลน์ ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 24, 31 พ.ค. 57 และ 7 มิ.ย. 57 โดยผมจะเป็นวิทยากรในวันนั้นครับ แน่นอนว่าผมจะพูดถึง วิเคราะห์ และให้ตัวอย่างเพิ่มเติมจากหนังสือเล่มนี้ครับ เราจะร่วมกันถกประเด็น และหาแนวทางการใช้สื่อโซเชียล ให้ได้ประโยชน์มากที่สุด ไม่ว่าคุณจะอยู่ในองค์กรเล็ก ใหญ่ หรือค้าขายอิสระและไม่ว่าคุณจะขายสินค้าใดๆ คุณสามารถเข้าฟังได้ครับ

นอกจากนั้น ผมยังเชิญผู้ที่มีประสบการณ์การใช้สื่อโซเชียลเพื่อการขายสินค้าที่ประสบความสำเร็จมาแบ่งปันเรื่องราวให้ฟังอีกด้วยครับ การจัดครั้งนี้จัดขึ้น 3 วัน แต่ละวันจะมีหัวข้อที่แตกต่างกันออกไป วันแรก พูดถึง การวางแผนการใช้สื่อออนไลน์ครับ วันที่สองเรื่องการถ่ายภาพสินค้าเพื่อประชาสัมพันธ์ทางสื่อออนไลน์ และวันสุดท้ายว่าด้วยการเขียนโฆษณา เพื่อใช้ในสื่อออนไลน์ 3 วัน 3 คอร์ส 3,200 บาทต่อคอร์สครับ ใครสนใจ ลงทะเบียนได้ตาม QR Code ที่ให้ไว้ได้ครับ หรือคลิกที่ http://goo.gl/kjKQkK หรือโทรมาที่ 02 338 3777 ได้ครับ ...แล้วเจอกันครับ