เบื้องหลัง "คณะรัฐบุคคล"

เบื้องหลัง "คณะรัฐบุคคล"

กลุ่มทหารเก่าและนักวิชาการปีก "ไม่เอาระบอบทักษิณ" ขยับขับเคลื่อนขายแนวคิด "พึ่งพระบารมี" กันมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว

แต่สื่อส่วนใหญ่ไม่สนใจ เพราะตัวละครกลุ่มนี้ไม่ได้มีบทบาทโดดเด่นอะไร จนกระทั่ง พล.อ.สายหยุด เกิดผล อดีต ผบ.สส. ในนาม "คณะรัฐบุคคล" ได้เข้าพบ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว สื่อเล็กสื่อใหญ่ก็ให้ความสนใจทันที

000 จริงๆ แล้วผู้ก่อการคณะรัฐบุคคล ได้เปิดตัวครั้งแรกเมื่อ 28 ม.ค.2557 ณ ร้านอาหารภายใน ราชกรีฑาสโมสร โปโลคลับ โดยมี ปราโมทย์ นาครทรรพ ตุลาการรัฐธรรมนูญ ปี 2517 เป็นแกนนำ ซึ่งได้ชักชวน พล.อ.สายหยุด เกิดผล อดีต ผบ.สส., พล.อ.วิมล วงศ์วานิช อดีต ผบ.ทบ., พล.อ.อ.กันต์ พิมานทิพย์ อดีต ผบ.ทอ., พล.ร.อ.วิเชษฐ การุณยวนิช อดีต ผบ.ทร., อมร จันทรสมบูรณ์ อดีตเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา, ชัยอนันต์ สมุทวณิช ตุลาการรัฐธรรมนูญ ปี 2543 ฯลฯ มาพูดคุยเรื่องทางออกของบ้านเมือง

000 ทีมงานของคณะรัฐบุคคลได้เผยแพร่คลิปการหารือดังกล่าวผ่านยูทูบ ซึ่งบรรยากาศการถกปัญหาบ้านเมืองในวันนั้น กลายเป็นว่า "ฝ่ายพลเรือน" เรียกร้องให้กองทัพทำ "รัฐประหาร" เพื่อสถาปนารัฏฐาธิปัตย์ แต่ "ฝ่ายทหารเก่า" ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยที่จะให้ทหารปฏิวัติ เพราะทหารจะตกเป็น "จำเลย" เหมือนหลายครั้งที่ผ่านมา

000 จากปลายเดือน ม.ค.มาถึงปลายเดือน เม.ย. เมื่อไม่มี "สัญญาณบวกจากกองทัพ" คณะรัฐบุคคลจึงดำเนินกลยุทธ์ใหม่ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ในฐานะ "รัฐบุรุษ" ทำหน้าที่พูดคุยกับองค์กรต่างๆ ทั้งตุลาการ ทหาร และผู้นำทางสังคม เพื่อร่างพระบรมราชโองการทูลเกล้าฯถวาย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เพื่อให้ลงปรมาภิไธยในการเสนอทางออกให้กับประเทศ

000 จะว่าไปแล้วแนวคิด "พึ่งพระบารมี" ได้มีการเคลื่อนไหวมาตั้งแต่ปี 2549 โดยครั้งหนึ่ง ปราโมทย์ นาครทรรพ ผู้ที่มีบทบาททางการเมืองมากมาย ทั้งหน้าม่านและหลังม่าน ซึ่งหลังเหตุการณ์ 14 ต.ค.2516 อาจารย์ปราโมทย์ได้รับเลือกเป็น "สมาชิกนิติบัญญัติ" และเป็นที่ปรึกษา อาจารย์สัญญา ธรรมศักดิ์ "นายกรัฐมนตรีพระราชทาน" จึงฝังใจจำกับแนวทางพึ่งพระบารมี เมื่อ 40 ปีที่แล้ว

000 แนวทางพึ่งพระบารมีนั้นในฝ่ายไม่เอาระบอบทักษิณ มีหลายแนวทางอย่างกลุ่ม กปปส.ภาค 7 ที่ชุมนุมอยู่ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ โดยการนำของ หลวงปู่พุทธะอิสระ เตรียมแผนการ "เราจะไปเฝ้าฯพระเจ้าอยู่หัวด้วยกัน" โดยจะนำมวลชนเดินทางไป "ถวายฎีกา" ที่พระราชวังไกลกังวลหัวหิน ช่วงต้นเดือน พ.ค.2557

000 หลวงปู่พุทธะอิสระ อธิบายว่า จะไปทูลเกล้าฯถวายอำนาจอธิปไตยของปวงชนชาวไทย เพื่อพระองค์จะได้มีพระราชวินิจฉัย แก้ปัญหาของชาติบ้านเมืองตามหลัก "ราชประชาสมาสัย" คือพระมหากษัตริย์ และประชาชนอาศัยซึ่งกันและกัน โดยหลวงปู่พุทธะอิสระให้มวลชน กปปส.เตรียมเดินทางไปพร้อมกัน โดยวันเวลาจะนัดหมายกันอีกครั้ง

000 วิกฤติการเมืองไทยมาถึง "จุดหัวเลี้ยวหัวต่อ" อีกครั้ง เมื่อฝ่ายหนึ่งเชื่อว่า "ตุลาการภิวัตน์" จะแสดงบทบาทในการผ่าทางตันทางการเมือง แต่อีกฝ่ายกลับเห็นตรงข้าม หากตุลาการใช้อำนาจเกินขอบเขต จะก่อให้เกิดจลาจลเลือดนองแผ่นดิน