ว่าด้วยเรื่อง 'โชห่วย' และการขยายตัวของร้านสะดวกซื้อ

ว่าด้วยเรื่อง 'โชห่วย' และการขยายตัวของร้านสะดวกซื้อ

ว่าต่อกันด้วยเรื่องของร้าน "โชห่วย" หรือ ร้านขายของชำ ท่ามกลางคลื่นคู่แข่งเชนสโตร์ ร้านค้าปลีกขนาดเล็ก

หรือ "ร้านสะดวกซื้อ" รวมไปถึงมินิ-ซูเปอร์มาร์เก็ตทั้งหลาย หากจะมองเป็นคลื่นลูกใหญ่กว่าเดิมก็ไม่ผิดนัก ด้วย "ขนาด" ของร้านใกล้เคียงกัน "สินค้า" วางจำหน่ายไม่แตกต่างกัน แต่กลับคืบคลานประจันหน้าบรรดาร้านโชห่วย และเคาะประตูบ้านลูกค้า!! ยิ่งกว่าครั้งดิสเคาน์สโตร์ใหญ่บุกปูพรม

คำถามถึงการอยู่รอดของโชห่วย? ขณะที่การรุกขยายอาณาจักรของร้านค้าปลีกขนาดเล็ก สดและครบทั้งสินค้า เสริมทัพ "บริการ" เรียกว่า "วันสต็อปชอปปิง" แทบไม่ต่างจากร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ ลูกค้าเข้ามาหากไม่ครบก็เกือบครบ

เชนสโตร์อย่าง "มินิ-ซูเปอร์มาร์เก็ต" มีอาหารสด หมู เป็น ไก่ ผัก ผลไม้ เพียบพร้อมเช่นเดียวกับหน้าร้านโชห่วยบางแห่งแปลงพื้นที่บางส่วนขายผัก-หมูสด เสริมรายได้จากสินค้าอุปโภค-บริโภคที่ทำอย่างไรก็ "สู้ราคา" และ "แคมเปญ" ดึงลูกค้าของร้านค้าปลีกสมัยใหม่เหล่านี้ไม่ได้

ในแต่ละปีประมาณการ "ร้านสะดวกซื้อ" เปิดใหม่กว่า 1,000 แห่ง โดยเจ้าตลาดยักษ์ใหญ่เซเว่นอีเลฟเว่นยึดพื้นที่ปูพรมรายเดียวร่วม 500-550 สาขาต่อปี ผู้ท้าชิงเบอร์ 2 ทั้ง แฟมิลี่มาร์ท และ เทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส มีแผนขยายสาขาร่วม 300 แห่งต่อปี ยังไม่นับรวมผู้ประกอบการอีกหลายรายที่ต่างให้ความสำคัญกับการขยายเครือข่ายร้านค้าปลีกขนาดเล็ก ทั้งมินิบิ๊กซี ท็อปส์ เดลี่ 108 ช็อป ที่กำลังจะเปลี่ยนเป็น "ลอว์สัน" ในอนาคตอันใกล้

นอกจากนี้ยังมีทันใจ ฟูจิ จิฟฟี่ เครือเจริญโภคภัณฑ์แม้จะมีเซเว่นอีเลฟเว่นครองตลาดอยู่แล้ว แต่ยังพัฒนาร้านค้าปลีกขนาดเล็กออกมาเจาะตรงแต่ละตลาดไม่ว่าจะเป็น ซีพีเฟรชมาร์ท ซีพีฟู้ดมาร์เก็ต ที่มีแผนเปิดสาขาจำนวนไม่น้อย

อนาคตโชห่วยไทยจะเป็นอย่างไร? ยังยืนหยัดอยู่ได้ หรือจะเห็นภาพล้มหายตายจาก?

หากมองย้อนไปในรอบ 20 ปี การขยายตัวของเมือง สังคม และชุมชน "เกิดใหม่" ที่ไหน เราจะเห็นร้านโชห่วย และร้านสะดวกซื้อผุดไล่เรียงคู่กันมาโดยตลอด แม้ในถนนสายเศรษฐกิจของกรุงเทพมหานครยังมีร้านโชห่วยแทรกตัวเปิดบริการอยู่เป็นระยะสลับกับร้านสะดวกซื้อที่ให้บริการ 24 ชั่วโมง ใน 20 ปีข้างหน้าภาพนี้จะเปลี่ยนไปอย่างไร ไม่มีใครตอบได้

โชห่วยนับเป็นธุรกิจการค้าที่มีความเก่าแก่มากที่สุดของเมืองไทย จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลง ปรับปรุง ตามกาลเวลาและภาวการณ์ที่เปลี่ยนไป นั่นคือ การใช้ "การบริหารจัดการ" เข้ามาช่วย ไม่ต้องถึงขนาดถอดโมเดลองค์กรยักษ์ใหญ่มืออาชีพ แค่ "รุ่นลูก" ที่สืบทอดกิจการต่อจาก รุ่นปู่-รุ่นพ่อ ลุกขึ้นปฏิวัติ "สินค้า"

อะไรที่ "ขายได้-ขายดี" จัดการให้ "ขายได้สะดวกมือ" หรือ "ลูกค้าซื้อสะดวก" ที่สุดเท่าที่จะทำได้

สร้าง "จุดขาย" ไม่ต้องแข่งกับใคร แต่ต้องรู้ว่า "ลูกค้าคือใคร" ส่วนใหญ่มาซื้ออะไรที่ร้านคุณ ไม่จำเป็นต้องมีสินค้าครบทุกอย่าง ทุกประเภท ทุกขนาด ทุกราคา แต่ต้อง "ไม่ขาด" ในสิ่งที่ลูกค้าเลือกมาหาคุณ เป็นจุดเริ่มต้นที่จะทำให้เจ้าของร้านโชห่วยยุคใหม่สามารถบริหารจัดการสินค้าที่เป็นจุดขายนั้นๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่การเลือกสินค้าเข้าร้าน สั่งซื้อ เก็บสต็อก สินค้าซื้อก่อน-ขายออกก่อน เป็น "พื้นฐาน"

โชห่วยบางร้านเหลือเพียงตู้ขายน้ำ!! ยังอยู่ได้ เทียบเครือข่ายร้านเล็กของรายใหญ่ต้องบริหาร "กำไร" หากติด "สีแดง" ก็อยู่ไม่ได้เช่นกัน