ผลงานพิสูจน์คน ‘ผู้ว่าแบงก์ชาติคนใหม่' การเมืองแทรกแซงยาก

ผลงานพิสูจน์คน ‘ผู้ว่าแบงก์ชาติคนใหม่' การเมืองแทรกแซงยาก

“ว่าด้วยเรื่อง ผู้ว่าการแบงก์ชาติ คนต่อไปนั่งคุยกับผู้ใหญ่ในแวดวงการเงินหลายท่าน ว่าระหว่าง “คุณรุ่ง” กับ “คุณวิทัย” ใครเหมาะสม จะเป็นผู้ว่าการแบงก์ชาติคนต่อไปมากกว่ากัน

คำตอบที่ได้รับคือ ระหว่างสองคนนี้เป็นใครก็ได้ เพราะเชื่อว่าจะไม่สร้างความเสียหายให้กับบ้านเมือง แต่ละคนมีจุดเด่นต่างกัน 

ถ้าเป็นคุณรุ่ง เราจะได้นักธนาคารกลาง นักเศรษฐศาสตร์ ที่เป็นนักวิชาการ รู้เรื่องแบงก์ชาติดีมาก เหมือนกับอดีตผู้ว่าฯ ลูกหม้อแบงก์ชาติ ที่เติบโตจากภายในองค์กร

ถ้าเป็นคุณวิทัย เราจะได้นักการเงินที่เน้นการปฏิบัติให้เกิดผลจริง บริหารจัดการเก่ง คงเหมือนกับอดีตผู้ว่าฯ ปรีดิยาธร เทวกุล ที่ผ่านประสบการณ์ ผ่านร้อนผ่านหนาว มาหลายองค์กร หลายความท้าทาย

ถามต่อไปว่า “ไม่กลัวคุณวิทัยจะอยู่ใต้คำสั่งนักการเมืองพรรคเพื่อไทย จนทำให้เสถียรภาพเศรษฐกิจไทยสั่นคลอนหรือ”

คำตอบที่ได้รับคือ ถ้าดูจากการทำงานในช่วง 5-6 ปีที่ผ่าน คุณวิทัยมีหลักการ เป็นตัวของตัวเอง และเป็นผู้บริหารในภาคการเงินที่คำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนรวมมากที่สุดคนหนึ่ง รวมทั้งสามารถบริหารจัดการแรงกดดันทางการเมืองได้ดีมาก แบบไม่ต้องมาชนออกหน้าสื่อ

ที่เห็นได้ชัดเจน คือ สมัยนายกฯ เศรษฐา (ซึ่งเป็นรัฐมนตรีคลังด้วย) พยายามกดดันให้ธนาคารออมสินสนับสนุนนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ทั้งต้องจัดวงเงินกู้ให้รัฐบาล และต้องทำระบบ IT ให้ แต่เรื่องก็เงียบหายไป ธนาคารออมสินสามารถเอาตัวรอดไปได้ ออมสินไม่ต้องรับภาระให้เกิดความเสียหาย และก็ไม่ทำให้ใครต้องเสียหน้า

ช่วงห้าปีนี้ ในแวดวงการเงินไม่ได้ยินข่าวว่าธนาคารออมสินต้องเข้าไปสนับสนุนสินเชื่อโครงการขนาดใหญ่(หลายพันล้านบาท)ของรัฐบาล หรือของคนใกล้ชิดรัฐบาลเลย ต่างจากสมัยก่อนที่ผ่านไปไม่กี่ปีก็เกิดเป็นหนี้เสียมากมาย

ในทางตรงกันข้าม ธนาคารออมสินสมัยนี้ เป็น social bank ที่เน้นเพื่อสังคมอย่างจริงจัง (ไม่ต้องเสียเงินโฆษณาปีละหลายร้อยล้านบาท จัด events แข่งกับธนาคารพาณิชย์เหมือนสมัยก่อน) คุณวิทัยสามารถเจรจาให้กระทรวงการคลัง ยอมลดกำไรที่ต้องนำส่ง เพื่อทำโครงการช่วยคนตัวเล็กตัวน้อยให้มีทางออกจากหนี้นอกระบบ ช่วยแก้ไขหนี้สินภาคประชาชน และ SSMEs หลายล้านคน โดยเฉพาะในช่วงโควิด

คุณวิทัยสามารถซื้อใจคนออมสินกว่าสองหมื่นคนให้เปลี่ยนจากมุ่งหากำไร ไปเป็นธนาคารเพื่อสังคมได้ ไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ง่ายๆ เลย

คนทั่วไปคงไม่ค่อยรู้ด้วยว่า ธนาคารออมสินในสมัยคุณวิทัย ได้เข้ามาทุบตลาดจำนำทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ จนทำให้ดอกเบี้ยที่เคยสูงถึง 28% ลดเหลือ 18-20% สร้างความปั่นป่วนให้สถาบันการเงินหลายแห่งที่เคยผูกขาด ในขณะที่ธนาคารออมสินก็สามารถบริหารจัดการได้ดีมีกำไร (ถ้าคุณวิทัยได้เป็นผู้ว่าการแบงก์ชาติ อาจจะเห็นปรากฏการณ์ทำนองนี้อีกก็ได้)

ที่กลัวกันว่าถ้าหากคุณวิทัยได้เป็นผู้ว่าการแบงก์ชาติคนต่อไป จะต้องอยู่ใต้อาณัติพรรคเพื่อไทย ก็คงจะไม่จริง เพราะคุณวิทัยได้ดีจากสมัยท่านนายกฯประยุทธ์ จันทร์โอชา  และอดีตรัฐมนตรีคลังอภิศักดิ์ ที่แต่งตั้งคุณวิทัยเป็นเลขาธิการ กองทุนบำเหน็จบำนาญราชการ (กบข.) ในปี 2561 และอดีตรัฐมนตรีคลังอีกท่านรัฐมนตรีอุตตมะ แต่งตั้งให้คุณวิทัยเป็นผู้อำนวยการธนาคารออมสินในปี 2563 ไม่เห็นว่าเคยมีประวัติช่วงไหนที่สนิทสนมกับผู้ใหญ่ในพรรคเพื่อไทย

 ผมถามย้ำอีกครั้งว่าถ้าเลือกได้เพียงคนเดียว ระหว่างคุณรุ่งกับคุณวิทัย ท่านผู้ใหญ่กลุ่มนี้อยากได้คนไหนเป็นผู้ว่าการแบงก์ชาติคนต่อไป

คำตอบที่ได้รับตรงกันว่า

“อยากได้สองคนบวกกันแล้วหารสอง”

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์