นกกรุงเทพฯ vs นกต่างจังหวัด

นกกรุงเทพฯ vs นกต่างจังหวัด

สงกรานต์ปีนี้ โควิดมา ใครก็ไม่กล้าไปไหน แต่ผมยังโชคดี ที่ก่อนนั้นได้ไปปฏิบัติธรรม ที่กาญจนบุรี

ธรรมดาของการปฎิบัติธรรม จะต้องตื่นเช้า เดินจงกรม และมีโอกาสเดินชมธรรมชาติ ทั้งเช้าและเย็น เห็นนกนานาชนิด บินส่งเสียงเจี้อยแจ้ว ตั้งแต่เช้าตรู่จวบจนตะวันตกดิน   

ระหว่างเดินชมนก ผมเกิดคำถามแปลกๆขึ้นมาในใจว่า เจ้านกน้อยที่บินอยู่บนท้องฟ้า จำนวนมากมายนั้น… เมื่อเทียบกับนก ที่บินอยู่รอบบ้านผมที่กรุงเทพฯ ซึ่งพื้นที่สีเขียวมีจำกัด  

 

อยากรู้จัง ว่านกกรุงเทพฯ กับ นกต่างจังหวัด นกไหนจะมีความสุขมากกว่ากัน? 

ถามอะไรประหลาดๆก็ไม่รู้ ผมเป็นคนถามเอง ยังคิดว่าประหลาดเลย ไม่รู้ถามไปทำไม ถามแล้วได้อะไร แล้วจะเอาคำตอบมาจากไหน แต่เมื่ออยากรู้ ก็ถาม และเมื่อถาม ก็ต้องหาคำตอบเอาเอง 

เริ่มแรกนั้น ผมตอบแบบไม่ต้องคิดเลยว่า นกต่างจังหวัด ย่อมมีความสุขกว่านกกรุงเทพฯ แน่นอน เพราะพื้นที่บิน มีกว้างขวาง ต้นไม้ก็มีให้เลือกเกาะมากมาย อิสระเสรีก็มีแบบไม่จำกัด  

ผู้คนที่จะไปรบกวนชีวิตของพวกเขา ก็มีไม่มาก เพราะคนต่างจังหวัดไม่ได้อยู่อย่างหนาแน่น เขากระจายกันอยู่อย่างเงียบสงบ ต่างคนต่างทำมาหากิน

แต่พอมานึกเปรียบเทียบ กับนกที่บินอยู่รอบบ้านผมในกรุงเทพฯ ซึ่งบังเอิญว่านอกรั้วบ้านผมนั้น มีพื้นที่ว่างเปล่าของใครก็ไม่ทราบ ประมาณ 9-10 ไร่ ปล่อยทิ้งไว้เป็นพงหญ้าและบึงตื้นๆมานาน ความคิดผมก็เริ่มเปลี่ยนไป  

เพราะยามว่างเช้าวันหยุด ผมมักเห็นนกจำนวนหนึ่ง พาลูกนกเดินดุ่มๆ หาเศษอาหารในบึง จิกกินอย่างมีความสุข เลยเห็นว่าน้องนกก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร กับการหาอาหารในกรุงเลยนะ 

ถ้าเป็นนกแถวสุขุมวิท หรือนกสีลม ผมว่าน้องนกก็คงไปจิกเศษอาหาร ที่แม่ค้าทิ้งไว้ในถังหรือถุงริมถนน สามารถดำรงชีพได้อยู่ดี 

อีกอย่างคือ คนกรุงเทพฯ ถึงแม้จะมีมากมาย ก็ไม่มีเวลาไปรบกวนชีวิตของนกหรอกครับ เพราะวันๆแค่การเดินทาง และทำมาหากิน ก็เหนื่อยแย่แล้ว 

ยามตะวันตกดิน ผมเห็นนกข้างบ้านผม บินกลับรัง ดูเหมือนว่านกกรุงก็ไม่ได้ทุกข์ร้อนอะไร พื้นที่บินก็กว้างขวาง มีอิสระเสรีที่จะบินไปไหนก็ได้ เลยทำให้ผมเริ่มเปลี่ยนใจว่า.. เอ! หรือนกกรุงเทพฯก็มีความสุข ไม่น้อยกว่านกต่างจังหวัดนะ 

ที่เห็นอีกอย่างก็คือ ผมปลูกต้นบุหงาส่าหรี ไว้ริมหน้าต่างห้องนอน แล้วก็มักได้ยินเสียงนกร้องจิ๊บจิ๊บๆๆ ทั้งวัน แถมช่วงสงกรานต์ ก็มีนกมาสร้างรังบนต้นไม้นี้ บินไปมาหากิ่งไม้ใบหญ้า มาทักถอเพื่อสร้างบ้านหลังใหม่ให้ครอบครัว  

ผมแอบไปดูบ่อยๆ และเอาใจช่วยให้นกสร้างรังสำเร็จโดยเร็ว นี่ก็แสดงว่า นกในกรุงก็ไม่ได้แร้นแค้นที่อยู่อาศัย อาหารก็มี ที่อยู่ก็มี ประชาธิปไตย …เอ๊ย! อิสระเสรี ก็มี ความปลอดภัยก็มี งั้นก็ต้องมีความสุข ไม่น้อยไปกว่านกต่างจังหวัด สิครับ 

แต่หลังสงกรานต์ ผมมองไปที่พงหญ้าข้างบ้าน ก็พบว่าที่ดินเดิมซึ่งเป็นพงหญ้าว่างเปล่า เจ้าของทิ้งไว้นับสิบปีนั้น ได้มีรถไถมาเกรดดิน จนพงหญ้าราบเรียบไปแล้ว

ทีแรกก็ตกใจ นึกว่าจะมีการก่อสร้างคอนโดมิเนียมสูง มาค้ำบ้านเรา 

เพราะที่ดินแถวนี้ราคาแพง หมู่บ้านจัดสรร 2-3 โครงการ ที่เพิ่งเกิดขึ้นใหม่ ที่ดินเพียง 70 ตารางวา บ้าน 3 ชั้น ขายกันราคา 40 ล้านบาทแล้ว 

แต่ก็สบายใจขึ้น เมื่อ รปภ. บอกว่าเจ้าของที่ดิน เขากำลังจะทำเป็นบ่อปลาและปลูกผัก เฮ้อ! โล่งใจไป 

แต่ความเปลี่ยนแปลงนี้ ก็ทำให้ผมกลับไปนึกถึงคำถามเดิมที่ว่า นกกรุงเทพฯ กับนกต่างจังหวัดนั้น นกไหนมีความสุขมากกว่ากัน ที่ผมต้องถามตัวเองอีกครั้งก็เพราะ นกข้างบ้านผม วันนี้ไม่มีบึงตื้นๆ ไม่มีพงหญ้า ให้ทำมาหากิน และวันนี้ก็ไร้บ้านเสียแล้ว ความสุขของน้องนก ลดลงหรือเปล่านะ? 

ผมว่า ถ้ายังพอมีอาหารกิน และพอบินไหว ก็อยากแนะน้องนก ให้บินไปเรื่อยๆเถอะ ไปหาถิ่นที่อยู่ใหม่ ให้ไกลเมืองกรุงสักหน่อย เป็นนกต่างจังหวัด น่าจะมีความสุขมากกว่านี้ เพราะคงไม่ค่อยมีโอกาสถูกเบียดเบียน ไล่ที่ ไล่บ้าน เหมือนนกกรุงเทพฯ แถมไม่มีศูนย์ดำรงธรรม ให้บินไปร้องเรียน ซะอีกด้วย 

แต่ถ้าน้องนก มีสองขาสวย สูง 165 ขึ้นไป มีถิ่นพำนักแถวทองหล่อ หรือรัชดา มีปีกสวย และขนงาม ถึงแม้แถวนั้น จะไม่มีต้นไม้ให้เกาะสักต้น ผมก็จะแนะนำว่า ไม่ต้องบินลี้ภัยไปไหนหรอกนะน้อง 

จะบินหนีลี้ภัย ไปให้ยากลำบากทำไม ถ้าน้องนกน่ารักขนาดนั้น รับรองว่า จะมีใครต่อใคร แย่งกันหาบ้านให้น้องอยู่ เลี้ยงดูอย่างดี 

เพราะ “นก กับ ฟ้า” เป็นของคู่กัน เมื่อ “น้องฟ้า” ทำได้ แล้วทำไม “น้องนก” จะทำไม่ได้ล่ะจ๊ะ... 

อ้าว…วกมาจบแบบนี้จนได้!