กรณีอื้อฉาว : การกู้ยืมเงินของพรรคการเมืองในอังกฤษ

กรณีอื้อฉาว : การกู้ยืมเงินของพรรคการเมืองในอังกฤษ

มี.ค. 2006 นายโทนี่ แบลร์ นายกรัฐมนตรีได้เสนอชื่อบุคคลจำนวนหนึ่ง ให้ดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาขุนนางตลอดชีพ แต่ถูกคณะกรรมาธิการฯ ปฏิเสธ

คณะกรรมาธิการพิจารณาพิจารณาแต่งตั้งสมาชิกสภาสูงได้ปฏิเสธต่อข้อเสนอดังกล่าว และต่อมามีการเปิดเผยว่า บุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นผู้ให้เงินกู้เป็นจำนวนมหาศาลแก่พรรคแรงงานที่เป็นรัฐบาลขณะนั้น

    การกู้มาจากคำแนะนำของลอร์ดเลวี่ผู้ระดมหาทุนให้พรรค  ทำให้มีการตั้งข้อสงสัยว่าการเสนอชื่อดังกล่าวนั้นเป็นการแลกเปลี่ยนกับการให้กู้  ทำให้นายแองกัส แมคนีล สภาสามัญจากพรรคชาติสก๊อต และนายเอลเวน ชูอิช หัวหน้าพรรคแห่งเวลส์ ฯ ได้ไปแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจในข้อหามีการละเมิดกฎหมายในการซื้อขายตำแหน่ง หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการสอบปากคำสมาชิกพรรคแรงงานหลายคนรวมทั้งนายโทนี่ แบลร์ และรวมทั้งบุคคลในพรรคอนุรักษ์นิยมและพรรคเสรีประชาธิปไตย  ได้มีการจับกุมตัวลอร์ดเลวี่ ข้อมูลจากการสืบสวนสอบสวนที่รั่วไหลออกมาส่งผลให้รัฐบาลและพรรคแรงงานได้รับความเสียหายอย่างยิ่ง                                                                                                                                                                                                เรื่องเริ่มมากจากเดือนมีนาคม ค.ศ. 2006  คณะกรรมาธิการฯได้พบเบาะแสเกี่ยวกับการกู้เงิน  และประธานคณะกรรมาธิการฯคือ ลอร์ดสตีเวนสัน ได้ทำหนังสือแจ้งไปยังนายกรัฐมนตรีขอให้ถอนชื่อเซอร์กูลัมออกจากการเสนอแต่งตั้งให้เป็นสมาชิกสภาสูง

           อีกหนึ่งในบุคคลที่ให้พรรคแรงงานกู้เงินคือนายชัย ปาเตล ได้บริจาคเงินจำนวน 100,000 ปอนด์ให้กับพรรคแรงาน และในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2006 เขาได้ร้องเรียนการถูกปฏิเสธการแต่งตั้งให้เป็นสมาชิกสภาสูง โดยอ้างว่า ในตอนแรก เขาได้บริจาคเงินให้พรรค  ต่อมาเกรงว่าจะถูกมองว่าหวังได้รับการตอบแทนเสนอชื่อให้เป็นสมาชิกสภาสูง  ซึ่งตัวเขาเองไม่ได้เคยขอหรือคาดหวังอะไรในการบริจาค ดังนั้น ลูกๆของเขาจึงแนะนำให้เปลี่ยนจากการบริจาคมาเป็นการให้กู้ เพื่อสังคมก็จะได้ไม่เข้าใจผิด  เขายืนยันว่า สาเหตุที่เขาบริจาคเงินให้พรรคก็เพราะเขาเชื่อในอุดมการณ์และนโยบายของพรรค และบังเอิญพรรคที่เขาสนับสนุนก็เป็นรัฐบาลพรรคแรงงานในขณะนั้น

            ในวันที่ 29 มีนาคม ค.ศ. 2006 นายปาเตลได้ขอถอนชื่อออกจากรายนามผู้ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นสมาชิกสภาสูง  และยืนยันว่า ไม่เคยหวังสิ่งตอบแทนใดๆจากการบริจาค แต่กระนั้น เขาก็ให้สัมภาษณ์กับบีบีซีว่าเขาต้องการรับใช้บ้านเมืองโดยการทำหน้าที่ในสภาสูง เพราะเขาคิดว่า จากประสบการณ์ในชีวิตของเขาน่าเป็นประโยชน์ต่อการทำหน้าที่นั้น และเขายังได้กล่าวในจดหมายที่มีไปยังคณะกรรมาธิการการแต่งตั้งสมาชิกสภาสูงว่า จากประสบการณ์ที่สั่งสมมานานและการมีสำนึกสาธารณะอย่างมาก เขาเชื่อว่าจะสามารถเป็นประโยชน์แก่กระบวนการรัฐสภาได้

    ก่อนหน้านั้น วันที่ 12 มีนาคม ค.ศ. 2006   หนังสือพิมพ์ซันเดย์ไทม์ได้รายงานล่วงหน้าก่อนที่จะรับทราบว่านายปาเตลจะได้รับการเสนอชื่อให้เป็นสมาชิกสภาสูงว่า นายปาเตลกำลังจะเปลี่ยนการบริจาคมาเป็นการให้พรรคกู้แบบไม่ต้องมีหลักประกัน (unsecured loan) และในวันที่ 26 มีนาคม หนังสือพิมพ์อินดีเพนเดนท์ ยืนยันว่า ลอร์ดเลวี่คือบุคคลที่ขอให้นายปาเตลเปลี่ยนจากการบริจาคเป็นการให้กู้โดยไม่มีสินทรัพย์ค้ำประกันแทน และนายปาเตลก็เห็นด้วยและให้พรรคแรงงานกู้เป็นเงิน 1.5 ล้านปอนด์  และได้แจ้งแก่พรรคว่า ตัวเขาพร้อมที่จะเปลี่ยนจากการบริจาคมาเป็นให้กู้

     ต่อมา มีการรายงานข่าวว่า พรรคแรงงานได้เคยกู้เงิน 3.5 ล้านปอนด์จากบุคคลคนหนึ่งในช่วงระหว่าง ค.ศ. 2005 ซึ่งเป็นปีที่มีการเลือกตั้งทั่วไป  และต่อมาได้มีการเปิดเผยอีกว่า ได้มีการกู้ยืมเงินเป็นจำนวนทั้งสิ้น 13.95 ล้านปอนด์จากบุคคลจำนวนหนึ่งเพื่อสนับสนุนการรณรงค์เลือกตั้งของพรรคแรงงาน   ดังนั้น เมื่อรวมตัวเลขทั้งสิ้นจะเป็นจำนวนเงิน 17.94 ล้านปอนด์ที่พรรคใช้ไปในการเลือกตั้งทั่วไปครั้งนั้นที่เป็นเงินที่กู้ยืมมาจากปัจเจกบุคคลจำนวนหนึ่ง และเงื่อนไขการกู้ก็เป็นความลับ  เพราะกฎหมายไม่ได้กำหนดไว้ว่าจะต้องเปิดเผยตามกฎหมายขณะนั้น การที่พรรคการเมืองกู้บุคคลทั่วไปในเชิงพาณิชย์ที่คิดอัตราดอกเบี้ยมากกว่าการกู้ธนาคารประมาณร้อยละ 1 ถึง 3 อย่างในกรณีที่เกิดขึ้นนี้ ไม่จำเป็นต้องรายงานให้คณะกรรมการการเลือกตั้งทราบ   

อย่างไรก็ตาม  นายแจ๊ค โดรมมี่ เหรัญญิกของพรรคแรงงานได้กล่าวต่อสาธารณะว่า  ตัวเขาและเซอร์เจเรมี บีแชม ประธานคณะกรรมการบริหารพรรค ไม่ทราบเรื่องหรือมีส่วนรับรู้เกี่ยวข้องในการกู้ดังกล่าวและมารู้เรื่องเมื่อเป็นข่าวในหนังสือพิมพ์เท่านั้น   นายโดรมมี่ได้กล่าวอีกว่า  โดยปกติ  จะมีการปรึกษากับเขาเฉพาะกรณีการกู้ยืมธนาคารตามปกติเท่านั้น (conventional bank loans)   เขาได้ประกาศว่าเขาจะดำเนินการสอบสวนเรื่องนี้ ขณะเดียวกัน เขาก็ได้แจ้งไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้งให้สอบสวนกรณีที่พรรคการเมืองต่างๆกู้ยืมเงินจากแหล่งที่ไม่ใช่การกู้ยืมเงินเชิงพาณิชย์

จากข้างต้น ประเด็นคำถามสำคัญต่อกรณีการทำธุรกรรมในการระดมทุนทางการเมืองของพรรคแรงงานจึงมี 2 ประเด็น

1.มีนัยยะในความสัมพันธ์ที่เชื่อมโยงกันมากน้อยแค่ไหน ระหว่างการบริจาคเงินเป็นจำนวนมากและผลที่เกิดขึ้นตามมาเกี่ยวกับการแต่งตั้งตำแหน่งสมาชิกสภาสูง

2.กฎข้อบังคับเกี่ยวกับเงินทุนของพรรค (ที่ใช้กับพรรคการเมืองทุกพรรคในสหราชอาณาจักร) ที่กำหนดไว้ว่า ใครก็ตามที่บริจาคเงินตั้งแต่ 500 ปอนด์ขึ้นไป จะต้องมีการประกาศชื่อ  แต่การกู้ยืมเงินไม่ว่าจะจำนวนเท่าใดไม่จำเป็นต้องประกาศ หากการกู้ยืมเงินนั้นกระทำบนเงื่อนไขของการกู้ยืมเงินเชิงพาณิชย์   ข้อบังคับนี้ถือเป็นช่องโหว่ทางกฎหมาย และทำให้เกิดการกล่าวหาเกี่ยวกับการเก็บงำเป็นความลับที่ไม่เหมาะสมและทำให้เกิดการตั้งคำถามต่อความซื่อสัตย์ของบรรดาผู้เกี่ยวข้องในการจัดหาและจัดการกับเงินก้อนใหญ่มหาศาลและไม่รู้ว่าได้มาจากใคร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เหรัญญิกของพรรคก็ไม่รู้ที่มาของการกู้เงินดังกล่าวนี้ด้วย

        หลังจากกรณีอื้อฉาวการกู้เงินของพรรคแรงงานดังกล่าว ส่งผลให้มีการตราพระราชบัญญัติ Electoral Administration Act  2006  โดยออกมาในเดือนกรกฎาคม  พ.ศ. 2549  เป็นเวลาประมาณสี่เดือนให้หลังจากการเกิดกรณีอื้อฉาวดังกล่าว และเมื่อพบว่ายังไม่รัดกุมพอ ในปี พ.ศ. 2552 ได้มีการตราพระราชบัญญัติพรรคการเมืองและการเลือกตั้ง พ.ศ. 2552 the Political Parties and Election Act 2009  เพื่อควบคุมการบริจาคและการกู้ยืมของพรรคให้รัดกุมขึ้น ไม่ให้ถูกใช้ไปเพื่อซื้อตำแหน่งหรือความไม่เป็นธรรมในการแข่งขันในการเลือกตั้ง