บิล เกตส์ ทานและการเรียนรู้ตลอดชีวิต

บิล เกตส์ ทานและการเรียนรู้ตลอดชีวิต

ต่อเนื่องจากบทความเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนอ้างถึงการกลับมาให้สื่อสัมภาษณ์ของ “บิล เกตส์” หลังจากหายไปนาน 

ในบทความเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน ผมอ้างถึงการกลับมาให้สื่อสัมภาษณ์ของ “บิล เกตส์” หลังจากหายไปนาน เนื้อหาของบทความนั้นมาจากการสัมภาษณ์ที่ตีพิมพ์ในนิตยสาร Bloomberg Businessweek วันนี้ขอพูดถึงสาระบางส่วนของการสัมภาษณ์ที่ตีพิมพ์ในนิตยสาร Fortune ฉบับประจำเดือน ต.ค.นี้ เสริมด้วยเรื่องราวเกี่ยวกับเขาซึ่งบางอย่างอาจไม่เป็นที่รับรู้กันอย่างกว้างขวางนัก

ผมติดตามเรื่องราวของบิล เกตส์ มานานและได้นำบางส่วนมาเสนอไว้ในหนังสือเรื่อง “เสือ สิงห์ กระทิง แรด” (พิมพ์ ธ.ค.2543 และดาวน์โหลดได้ฟรีที่เว็บไซต์ของมูลนิธินักอ่านบ้านนา www.bannareader.com) ในการให้สัมภาษณ์ล่าสุดนี้เป็นครั้งแรกที่เขาพูดตรงๆ ว่า เขาเป็นนักเรียนที่ต้องจัดเวลาไว้สำหรับอ่าน เขียน และพูดคุยกับผู้รอบรู้ ดังที่หนังสือเล่มนั้นพูดถึง

ตามธรรมดา บิล เกตส์ ตัดขาดจากโลกภายนอกปีละ 2 ครั้ง ครั้งละ 1 สัปดาห์ เพื่อทุ่มเทเวลาทั้งหมดอ่านหนังสือที่เขามองว่าน่าจะอ่าน เพื่อติดตามความก้าวหน้าในหลากหลายด้านให้ทัน เขาบอกว่าหลังจากเกษียณจากงานหัวหน้าผู้บริหารไมโครซอฟท์มา 12 ปี เขาหาเวลาอ่านหนังสือได้ง่ายขึ้นและอ่านมากขึ้น ยิ่งกว่านั้น ปีนี้ไวรัสโควิด-19 ทำให้เขาต้องลดการเดินทาง จึงหาเวลาอ่านได้ง่ายขึ้นอีก

นอกจากการอ่านแล้ว เขาพยายามเตือนตัวเองเสมอว่าได้เขียนหรือยัง เขามองว่าการเขียนมีความสำคัญยิ่งเพราะทำให้เข้าใจสิ่งต่างๆ อย่างทะลุปรุโปร่ง จนสามารถเขียนออกมาให้ผู้อื่นเข้าใจได้ ถ้าเราไม่ทำเช่นนั้น เราอาจจะสะเพร่า คิดว่าตนเองเข้าใจ แต่ในความเป็นจริงไม่เข้าใจอย่างทะลุปรุโปร่ง

บิล เกตส์ เขียนหนังสือออกมาแล้ว 2 เล่มชื่อ The Road Ahead และ Business @the Speed of Thought ซึ่งผมทำบทคัดย่อภาษาไทยไว้ให้ดาวน์โหลดได้ฟรีที่เว็บไซต์ดังกล่าวเช่นกัน เล่มที่ 3 ชื่อ How to Avoid a Climate Disaster จะพิมพ์ออกมาปีหน้า นอกจากนั้นในปัจจุบันเขายังเขียน “บล็อก” ส่วนตัวเผยแพร่เรื่องราวต่างๆ ทางอินเทอร์เน็ตชื่อ Gates Notes (www.gatesnotes.com) อย่างต่อเนื่องอีกด้วย

สำหรับด้านการพูดคุยกับผู้รอบรู้ ในการให้สัมภาษณ์ครั้งนี้ บิล เกตส์ พูดถึงการพูดคุยกับ วอร์เรน บัฟเฟตต์ ซึ่งปีนี้อายุครบ 90 ปี วอร์เรน บัฟเฟตต์และบิล เกตส์ ซึ่งอายุ 65 ปีเป็นเพื่อนสนิทกันมาเกือบ 30 ปี บิล เกตส์ บอกว่าปีนี้เขามีเวลาพูดคุยกับวอร์เรน บัฟเฟตต์มากขึ้น เป็นการพูดคุยที่มีประโยชน์มาก เนื่องจากวอร์เรน บัฟเฟตต์ เป็นผู้ที่มีความรู้กว้างและลึกในหลายด้านและสามารถมองประเด็นต่างๆ ได้อย่างกระจ่างแจ้ง

อนึ่ง คอลัมน์นี้ได้อ้างถึงแล้วหลายครั้งว่าวอร์เรน บัฟเฟตต์ได้เริ่มสละทรัพย์สินมูลค่าหลายหมื่นล้านดอลลาร์เป็นทานเพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ โดยส่วนใหญ่มอบให้มูลนิธิเพื่อการกุศลของบิล เกตส์และภริยา บริหารจัดการ ส่วน บิล เกตส์และภริยาได้มอบให้มูลนิธิของเขาแล้วราว 5.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งส่วนใหญ่ได้ใช้ไปในด้านการช่วยขจัดความยากจนของชาวโลก การต่อสู้กับโรคร้ายนานาชนิดและการสนับสนุนการศึกษา

ปีนี้เป็นวาระครบ 20 ปีที่ บิล เกตส์และภริยาตั้งมูลนิธิขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือชาวโลก วันนี้คณะกรรมการรางวัลโนเบลจะประกาศชื่อผู้ได้รับรางวัลด้านสันติภาพ วันนี้อาจเป็นวันที่ชาวโลกได้ยินคณะกรรมการดังกล่าวประกาศคำเชิดชูเกียรติบิล เกตส์กับภริยาและมูลนิธิของเขา

ในโลกนี้คงมีไม่กี่คนที่มีโอกาสและความสามารถสร้างความร่ำรวยในแนวของบิล เกตส์ได้ แต่แน่นอนว่าชาวโลกส่วนใหญ่น่าจะหาโอกาสและมีความสามารถพอที่จะทำอย่างอื่นในแนวของเขาได้ ในด้านการเรียนรู้ตลอดชีวิต คอมพิวเตอร์และระบบอินเทอร์เน็ต เอื้อให้ทำได้สะดวกขึ้นมาก รวมทั้งการเขียนซึ่งปรับแก้ได้ง่ายและเผยแพร่ได้สะดวกทั้งทางสื่อสังคมต่างๆ และทางบล็อกส่วนตัว

ในด้านการทำทานก็น่าจะทำได้เช่นกัน หากเรามองแบบวอร์เรน บัฟเฟตต์ ซึ่งคอลัมน์นี้เคยอ้างถึงแล้ว นั่นคือเวลามีค่ากว่าสูงกว่าทรัพย์สิน การทำทานผ่านการอาสาออกมาช่วยเหลือเกื้อกูลเพื่อนมนุษย์และสังคมโดยรวม จึงมีค่าไม่ต่ำการทำทานผ่านการบริจาคทรัพย์สิน