มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ...!!

มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ...!!

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตเคารพธรรม... พระพุทธเจ้าตรัสมงคลธรรมบทหนึ่งใน ๓๘ ประการด้วยบาลีภาษาว่า...

คาระโว จะ นิวาโต จะสันตุฏฐี จะ กะตัญญุตา

กาเลนะ ธัมมัสสะวะนังเอตัมมังคะละมุตตะมัง!

หากนำมาอธิบายเป็นบาลี-ไทยวันละคำ คงจะได้สาระธรรมดังนี้... คารโว ความเคารพ คือ การแสดงออกถึงความเป็นผู้รู้จักคุณค่าและความสำคัญของคน

หากกล่าวลงไปในรายละเอียด... “คารโว” หมายถึง การแสดงออกทาง กาย วาจา ใจ ที่ยกย่อง นับถือ เอื้อเฟื้อ ใส่ใจต่อบุคคล.. ต่อสิ่งที่ควรเคารพนับถือ ที่สุดต่อธรรมะ ด้วยผู้มี คารวธรรมย่อมรู้จักสัมมาคารวะ รู้จักที่ต่ำที่สูง

บุคคลผู้มีจิตคารวธรรม จะไม่แสดงอาการหยาบช้าสามานย์ สถุลเกินฐานะความเป็นมนุษย์ที่ควรเคารพในมนุษยธรรม.. (ธรรมของความเป็นมนุษย์)

ผู้เคารพธรรมย่อมนำตนและสังคมไปสู่สันติสุขด้วยวิถีสันติธรรมอย่างแท้จริง ดังที่พระพุทธศาสนาเราสอนให้มีหลักคารวะ ๖ ได้แก่ พุทธคารวตา ธัมมคารวตา สังฆคารวตน สิกขาคารวตา อัปปมาทคารวตา และปฏิสันถารคารวตา

เมื่อมีคารโวหรือความเคารพแล้ว นิวาโต คือ ความสุภาพอ่อนน้อมต่อตนก็จักบังเกิดมี .. ให้นำไปสู่การประพฤติปฏิบัติตนอย่างมีความสันโดษ คือ พึงพอใจในสิ่งที่เราทำงานหามาได้โดยสุจริต ที่บาลีกล่าวว่า สันตุฏฐี และเมื่อนำ คารโว.. นิวาโต และสันตุฏฐี มารวมกัน กุศลธรรมก็ย่อมจักสมบูรณ์ ให้เป็นผู้สามารถในการบริหารจิตสำนึกตนให้มีความ กตัญญูกตเวทีหรือกตัญญุตา ได้ไม่ยากเลย

วันนี้ สังคมบ้านเราเริ่มอัตคัดขัดสนคนมีความเคารพ.. หรือมีสัมมาคารวะ ดังที่ได้เห็นภาพเด็กๆ แต่งชุดนักเรียน ใช้วาจากระด้าง จาบจ้วงล่วงเกินบุคคลอื่นๆ ที่มี อายุ ฐานะ อันควรแก่การให้ความเคารพ.. ซึ่งเป็นภาพลักษณ์ที่น่าสังเวช เมื่อบวกกับพฤติกรรมของนักหากินทางการเมือง

จริงๆ แล้ว หากเด็กๆ เหล่านั้น ได้รับการปลูกฝังจิตวิญญาณในวิถีพุทธตามวัฒนธรรมประเพณีไทย ที่มาจากครอบครัวอารยธรรมจริงๆ แล้ว... การแสดงออกอย่างน่ารักคงจะเกิดขึ้น.. ที่สามารถโน้มน้าวให้บุคคลผู้พบเห็นหรือที่เกี่ยวข้องยินดีที่จะรับฟังอย่างเป็นเหตุเป็นผล เพื่อจะได้นำไปสู่การพิจารณาหาหนทางตอบสนองข้อเรียกร้องที่เป็นไปตามสังคมวิถีพุทธ ที่ยึดมั่นในความเคารพธรรมเป็นใหญ่...

จริงๆ แล้ว หากเด็กๆ เหล่านั้น ใช้ความเป็นเด็กมีการศึกษา.. ดำเนินกิจกรรมการเรียกร้องประชาธิปไตยไปอย่างมีมารยาท ฉีกแนวการเมืองน้ำเน่า นักเรียกร้องบ้าบอทั้งหลายที่เคยกระทำกันมา.. ในวิถีการเมืองสกปรก... เราคงจะได้เห็นรอยยิ้มของชาวไทย

จริงๆ แล้ว การเรียกร้องหาธรรม.. ไม่ว่าจะเป็น จริยธรรม.. ศีลธรรม คุณธรรม.. เป็นสิ่งที่ควรกระทำ หากการเรียกร้องนั้นเต็มไปด้วยกลิ่นอายของวิญญูชน.. ผู้เปรียบเสมือนดอกไม้แห่งธรรมชาติของสังคม..

จริงๆ แล้ว การเรียกร้องหาความยุติธรรมในกฎหมายรัฐธรรมนูญ.. ในกระบวนการยุติธรรมจากภาคสังคม.. ที่เน่าเหม็นมานาน.. เป็นเรื่องที่ควรยิ่ง.. หากการเรียกร้องนั้นเต็มไปด้วยเจตนาธรรม.. มีความยุติธรรมอยู่ในจิตวิญญาณผู้เรียกร้อง..

จริงๆ แล้ว.. ควรอย่างยิ่งที่จะได้ช่วยกันร่วมส่งเสียงเรียกร้องกับเด็กๆ เหล่านั้น.. เพื่อแสดงการต่อต้าน.. ตักเตือนผู้ทรงอำนาจทั้งหลายให้กลับคืนมาสู่ความเคารพธรรมเช่นเดียวกัน.. จักได้ไม่โกงกินชาติบ้านเมือง แสวงหากันจนน่าเกลียด อย่างเช่นแม้ในยุคนี้.. 

จริงๆ แล้ว.. จึงควรอย่างยิ่งที่ชาวไทยจะได้ร่วมกันแสดงพลังรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ อย่างมีอารยธรรม.. มีความเคารพธรรม ให้สมกับเป็นดินแดนอารยธรรมของผู้เจริญสติปัฏฐานสี่...

ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นได้จริง.. จริงๆ แล้ว ประเทศไทยคงจะเจริญก้าวหน้าไปยิ่งกว่าที่เป็นอยู่อย่างแน่นอน จักไม่ติดกับดักมารเหมือนดังปัจจุบันนี้

เจริญพร