ไทยพร้อมหรือไม่ กับการโจมตีทางไซเบอร์และการรักษาอธิปไตย (2)

ไทยพร้อมหรือไม่ กับการโจมตีทางไซเบอร์และการรักษาอธิปไตย (2)

ความพร้อมของประเทศไทย กับการรับมือการโจมตีทางไซเบอร์และการรักษาอธิปไตยไซเบอร์ของชาติ?” เป็นคำถามที่ยังคาใจของใครหลายๆ คน

จากบทความตอนที่แล้ว ได้ชี้ถึงสิ่งที่ต้องตระหนักในปัญหาการขาดความเข้าใจถึงผลกระทบจากกระบวนการปฏิบัติการข่าวสารรูปแบบใหม่ ทั้งยังขาดหน่วยงานรับผิดชอบโดยตรง รวมถึงบุคลากรที่จะปฏิบัติงานด้านไซเบอร์ ก็ยังขาดแคลนทั้งในด้านจำนวนและทักษะความรู้ ประสบการณ์ ซึ่งเป็นเพียง 3 ใน 10 กลุ่มปัญหาย่อยที่ได้กล่าวถึงไปแล้ว

สำหรับบทความในฉบับนี้ จะขอทยอยนำเสนอต่อ ถึงการวิเคราะห์ในกลุ่มปัญหาที่เหลืออีก 3 กลุ่มปัญหาย่อย เพื่อให้ผู้อ่านได้นำไปค้นหาคำตอบกันว่า ประเทศไทยพร้อมรับมือกับการโจมตีทางไซเบอร์ และการรักษาอธิปไตยของชาติแล้วหรือยัง? 

ปัญหาย่อยที่ 4:การโจมตีโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญยิ่งยวดในระดับประเทศ(National Level Critical Infrastructure Attack)การขาดยุทธศาสตร์ แผนงานที่มีประสิทธิภาพในการบริหารจัดการความเสี่ยงทางไซเบอร์ในระดับประเทศ ในปัจจุบันเหตุการณ์การหยุดให้บริการของหน่วยงานโครงสร้างพื้นฐานที่มีอัตราการเกิดเหตุเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและยาวนานขึ้น ส่งผลกระทบต่อประชาชนส่วนใหญ่ประเทศไทยกำลังเผชิญกับความเสี่ยงทางไซเบอร์รายวันทั้งในระดับประชาชน องค์กร และ ระดับประเทศ

แนวทางในการแก้ปัญหา :การระบุหน่วยงานโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญยิ่งยวดของประเทศและการบริหารความเสี่ยงด้านความมั่นคงปลอดภัยด้านไซเบอร์ระดับประเทศ รวมถึงการระบุและกระบวนการในการตอบสนองต่อภัยคุกคามด้านไซเบอร์ระดับประเทศ

โครงการนำร่องที่รัฐควรสนับสนุน:โครงการสนับสนุนการบังคับใช้ พ.ร.บ. ความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์

ปัญหาย่อยที่ 5:การโจมตีจารกรรมข้อมูลในระดับประเทศจากรัฐด้วยกัน(Cyber Espionage/ State-Sponsored Attack)ปัญหาข้อมูลองค์กรรั่วไหลรายวันของหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สังคม การเมือง การปกครอง ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในการลงทุนตลอดจนส่งผลต่อความมั่นคงของชาติทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

แนวทางในการแก้ปัญหา: การออกแบบระบบป้องกันภัยไซเบอร์ระดับประเทศและการนำกลยุทธ์การป้องกันทางไซเบอร์ของภาครัฐไปปฏิบัติจริง รวมทั้ง การบริหารจัดการเรื่องการสร้างความตระหนักรู้ถึงความสำคัญในเรื่องความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ทั้งในระดับประชาชนและระดับองค์กร

โครงการนำร่องที่รัฐควรสนับสนุน:โครงการการออกแบบระบบป้องกันภัยไซเบอร์ระดับประเทศ และ การนำกลยุทธ์การป้องกันภัยไซเบอร์ไปปฏิบัติจริง

สำหรับปัญหาย่อยที่ 6-10 ติดตามต่อในฉบับหน้านะครับ ขอบคุณครับ

ปัญหาย่อยที่ 6:ขาดยุทธศาสตร์และแผนงานที่มีประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมาย (Lack of effective strategies and plans in law enforcement, focus on Cybersecurity act and Personal Data Protection Act Implementation in country level)ในปัจจุบันภาครัฐในหลายประเทศตามไม่ทันต่อการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วส่งผลกระทบต่อการพัฒนา และการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจและสังคมในระดับชาติ

แนวทางในการแก้ปัญหา :การพัฒนานโยบายและกรอบแนวคิดเกี่ยวกับความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ในระดับประเทศ/ การพัฒนากฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์

โครงการนำร่องที่รัฐควรสนับสนุน: โครงการเร่งรัดการบังคับใช้ พรบ. ความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ โดยการออกกฏหมายลูก และ ประกาศมาตรฐานด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์