ตัดอิสรภาพ 5 ปี จุดจบ 'เน็ตไอดอลลาว'

ตัดอิสรภาพ 5 ปี จุดจบ 'เน็ตไอดอลลาว'

ตั้งแต่วันที่ 22 พ.ย. 2562 คณะศาลอาญา ศาลประชาชนขั้นต้น แขวงจำปาสัก ได้พิพากษาจำคุก นางฮวยเฮือง ไชยะบุลี

หรือนางหมวย อายุ 30 ปี อาชีพค้าขาย บ้านสะเหล้า เมืองโพนทอง แขวงจำปาสัก ตัดอิสรภาพหรือจำคุก 5 ปี พร้อมทั้งปรับเป็นเงิน 20 ล้านกีบ อันเนื่องจากการโฆษณาต่อต้าน สปป.ลาว

อิงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 117 ระบุว่า “บุคคลใด หากได้โฆษณาใส่ร้ายป้ายสี สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว บิดเบือนแนวทางของพรรค และนโยบายของรัฐ ออกข่าวอกุศล ทำให้มีความวุ่นวายด้วยพูด การเขียน การพิมพ์ หนังสือพิมพ์ ภาพยนตร์ วิดีโอ เอกสาร สื่ออิเลกโทรนิกส์ หรืออื่นๆ ที่มีเนื้อหาต่อต้าน สปป.ลาว เพื่อทำให้อำนาจแห่งรัฐอ่อนแอลง จะถูกลงโทษตัดอิสรภาพ ตั้งแต่ 1-5 ปี และจะถูกปรับ 5 ล้านกีบ ถึง 20 ล้านกีบ”

ก่อนอื่น ต้องเข้าใจระบบการปกครองของ สปป.ลาว “พรรคประชาชนปฏิวัติลาว” (พปล.) มีอำนาจสูงสุด และใช้อำนาจผ่านฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติ และฝ่ายตุลาการ ตามหลักการ “ประชาธิปไตยรวมศูนย์” ประชาชนย่อมมีสิทธิเสรีภาพน้อยกว่าประเทศที่ปกครองในระบอบประชาธิปไตยสมบูรณ์

พลันที่โลกก้าวสู่ยุคดิจิทัล อิทธิพลของสื่อโซเชียล ทำให้คนลาวได้มีโอกาสแสดงความคิดเห็นกันมากขึ้น และเหนืออื่นใด คนลาวกว่า 80% ของประเทศ เสพข่าวออนไลน์เมืองไทย ทั้งข่าวอาชญากรรม บันเทิง และการเมือง

ก่อนจะเกิดเหตุเขื่อนเซเปียน เซน้ำน้อยแตก นางหมวยหรือ Muay Littlepig ได้ไลฟ์เฟซบุ๊คเปิดประเด็น “ข้อยบ่มีเงินจ้างเข้าเฮ็ดเวียก” เปิดโปงระบบอุปถัมภ์ในรัฐราชการลาว โดยอ้างว่า จ่ายเงินใต้โต๊ะให้กับนายทหารคนหนึ่ง เพื่อจะฝากน้องชายเข้าทำงานราชการ รับเงินไปแล้วแต่ก็ไม่ช่วยอะไร

157487266612
- นางหมวย เน็ตไอดอลลาว -

นางหมวยกล้าแตะระบบอุปถัมภ์ในลาว ถูกอกถูกใจคนลาว ทั้งลาวใน และลาวนอก แถมมีคนไทยเข้าไปผสมโรงด่ารัฐบาลลาว ยอดไลค์ยอดแชร์แฟนเพจ Muay Littlepig พุ่งปรี๊ด..เธอกลายเป็น “เน็ตไอดอลการเมือง” ทันที

จากกรณีเขื่อนแตก นางหมวยได้ไลฟ์เฟซบุ๊คขอรับบริจาคช่วยชาวเมืองสนามไซ และไม่วายเหน็บแนมข้าราชการลาว ช่วงนั้น ได้เกิดเน็ตไอดอลที่มาจากการไลฟ์สดช่วงเขื่อนแตกอีกคนคือ “เจ้พอใจ” เจ้าของร้านทองตลาดเซโน เมืองอุทุมพอน แขวงสะหวันนะเขต

ต่อมา นางหมวยจับมือกับ “เจ้พอใจ” และ “หล้าน้อย” เน็ตไอดอลแนววิพากษ์สังคมที่อยู่นครหลวงเวียงจันทน์ ทำกิจกรรม “สายบุญ” ร่วมกัน ทั่งสามสาวหยิบประเด็น “ข้อยบ่มีเงินจ้างเข้าเฮ็ดเวียก” มาพูดผ่านสื่อใหม่ แถมมีการทำเสื้อดำ พร้อมข้อความดังกล่าวอยู่ด้านหลังเสื้อ ก็มีคนลาวอีกกลุ่มหนึ่งไม่พอใจ และมองว่า สามสาวกำลังสร้างความปั่นป่วนวุ่นวาย

ต้องเข้าใจว่า คนลาวส่วนใหญ่ยังภักดีต่อพรรคประชาชนปฏิวัติลาว คนเหล่านี้แหละที่โพสต์เฟซบุ๊คตอบโต้ “3 สาวเน็ตไอดอล” มองว่าเป็น “กลุ่มคนบ่ดี” นอกจากนี้ กลุ่มต่อต้านรัฐบาลลาวที่อยู่ในต่างประเทศ ได้หยิบฉวยเรื่องเหล่านี้ไปขยายผล ทำลายความชอบธรรมของพรรคประชาชนปฏิวัติลาว และรัฐบาลลาว

สงครามในลาวยุติมาแล้ว 44 ปีก็จริง แต่ความขัดแย้งทางความคิดระหว่าง “ลาวใน" (ฝ่ายซ้าย) กับ “ลาวนอก”(ฝ่ายขวา) ยังดำรงอยู่ มีการแบ่งขั้ว เลือกข้าง ยิ่งมีโซเชียลมีเดีย ยิ่งเห็นชัดถึงการต่อสู้ทางความคิดของคนลาวสองฝ่าย

ทั้งสามสาวเน็ตไอดอล ถูกฝ่ายปกครองเมืองเชิญตัวไป “ดัดสร้าง” ทางความคิดหรือปรับทัศนคติ จน“เจ้พอใจ”กับ“หล้าน้อย”หยุดเคลื่อนไหว เหลือแต่นางหมวยที่ยังไลฟ์สดวิจารณ์การช่วยเหลือน้ำท่วม 6 แขวงภาคใต้

แล้ววันสุดท้ายแห่งอิสรภาพของนางหมวยก็มาถึง เมื่อตำรวจเข้าจับกุมเธอ และส่งตัวไปดำเนินคดีที่ศาลประชาชนแขวงจำปาสัก ในข้อหาต่อต้าน สปป.ลาว