บึ้มกรุงอาจไม่ใช่ ไฟใต้-การเมือง

บึ้มกรุงอาจไม่ใช่  ไฟใต้-การเมือง

ที่ผ่านมาสมมติฐานที่เป็นมูลเหตุจูงใจของปฏิบัติการ “บึ้มป่วนกรุง” มีอยู่ 2 สมมติฐานเท่านั้น

หนึ่ง คือ กลุ่มขบวนการที่อ้างอุดมการณ์แบ่งแยกดินแดนในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ขยายพื้นที่ก่อเหตุ เพื่อกดดันรัฐบาลไทยหนักขึ้น

หรือ สอง เป็นเรื่องการเมืองที่มี “มาสเตอร์มายด์” หวังผลดิสเครดิตรัฐบาล แต่ใช้ทีมปฏิบัติการจากปลายด้ามขวานล้วนๆ

แต่ล่าสุดมีข้อมูลใหม่จากแหล่งข่าวบางแหล่ง เมื่อต่อจิ๊กซอว์ดูแล้วอาจกลายเป็น “สมมติฐานที่สาม”

จิ๊กซอว์ตัวแรกมาจาก “บิ๊กป้อม” ที่ยอมรับว่ากลุ่มคนร้ายวางแผนในประเทศเพื่อนบ้าน สอดรับกับ “บิ๊กแป๊ะ” ผบ.ตร.ที่เคยแถลงข่าวในทำนองเดียวกัน คือมีความเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน คนร้ายบางส่วนอยู่ที่นั่น บางส่วนหลบหนีข้ามไป

ข้อมูลการข่าวพบว่า บุคคลที่ข้ามแดนไป “รับงาน” เป็นชายวัย 35 ปี ซึ่งมีสถานะเป็นผู้นำศาสนา โดยที่ “คนวางงาน” มีการระบุชื่อ “เด็ง อะแวจิ” แกนนำระดับสูงของบีอาร์เอ็น

จากนั้นทีมปฏิบัติการก็ข้ามฝั่งเข้า-ออกพรมแดนหลายครั้ง กระทั่งถึงวันที่ 1 ส.ค. วัน ว. เวลา น. ลงมือวางระเบิด

ข้อมูลนี้สำทับโดย “บิ๊กเดฟ” แม่ทัพภาค 4 ที่เปิดภาพโชว์สื่อว่าคนร้ายแบกเป้ ขนระเบิดเข้าไทยผ่านด่านสุไหงโก-ลก

เหตุใด “เพื่อนบ้าน” จึงปล่อยให้มีการเคลื่อนไหว ตั้งแต่วางแผน รับงาน รับเงิน จนกระทั่งเคลื่อนย้ายระเบิดได้อย่างเสรี ทั้งๆ ที่คนในขบวนการแบ่งแยกดินแดนเหล่านี้ล้วนอยู่ในสายตา

การข่าวชี้ว่า มีการพบร่องรอยความไม่พอใจของ “เพื่อนบ้าน” เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่ระดับสูงบางหน่วยของไทยปลดแบล็คลิสต์บุคคลต้องสงสัยกลุ่มหนึ่งที่ “เพื่อนบ้าน” ต้องการตัว เพราะไปเกี่ยวข้องกับการทุจริตเงินจำนวนมหาศาล ซึ่งพัวพันไปถึงฝ่ายการเมืองที่หมดอำนาจไปแล้ว และกำลังถูกไล่เช็คบิล โดยคนกลุ่มนี้ยังเปิดบริษัทบังหน้าในไทยและในต่างประเทศนับสิบแห่งเพื่อฟอกเงินระดับแสนล้านด้วย

หรือนี่คือปฏิบัติการ “ตบหน้าฉาดใหญ่” ที่คนไทยต้องรับกรรม จากการกระทำของเจ้าหน้าที่ระดับสูงบางคน

ขณะที่ไฟใต้ก็ยิ่งซับซ้อนและดับยากมากขึ้นทุกที!