ประกาศิตนายกฯลุงตู่ ไม่เอา“ยี้การเมือง”

โดยมี “นายกฯลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช.คนเดิม เป็นหัวขบวน

ผลพวงจากกติกา เลือกตั้งใหม่ ทำให้รัฐบาลนายกฯลุงตู่ รอบ 2 ต้องใช้บริการสารพัดพรรคการเมืองเป็นนั่งร้าน ต่างจากรอบแรก ที่ล้วนเป็นคนรอบตัว ที่ไว้ใจได้ 

บททดสอบแรก ที่นายกฯลุงตู่ ต้องเผชิญในการบริหารจัดการนักการเมือง คือ เป็นคนกลาง ในการกลั่นกรองตัวบุคคลที่จะเข้ามานั่งตำแหน่งรัฐมนตรี ที่แต่ละพรรคแย่งชิงเก้าอี้กันมาตลอด 2 เดือน

กว่าโควตาจะลงตัว พลังประชารัฐ พรรคแกนนำ ก็ยอมเฉือนเนื้อให้พรรคร่วมรัฐบาล จนในพรรคเปิดศึกกันหลายยก ระหว่างก๊ก “เสี่ยกวง” กับ “พี่ใหญ่” โดยเฉพาะการรื้อโผภายในพรรค

รื้อไปรื้อมา ลามไปถึงโควตาพรรคร่วม ที่ “พี่ใหญ่” ไปตกปากรับคำ ด้วยความไม่สันทัดการเมือง ทำให้“เฮียกวง” ผู้มีอิทธิพลแห่งกลุ่มสามมิตร ต้องลงมาล้วงอีกรอบ จนถูก“หัวขบวน”พรรคร่วมรัฐบาลถามกลับมาว่า “คุยกับใครแล้วจบ”

สุดท้าย ทุกฝ่าย จึงยืนกรานว่า ต้องเป็น “ดีล” เดิม เพิ่มเติมได้ คือ เก้าอี้“แถม”

ล่าสุด ทุกพรรคที่ได้รับแบ่งสรรปันเก้าอี้รัฐมนตรี จึงเริ่มจัดวางตัวบุคคล ลงในตำแหน่ง 

แน่นอนว่า ต้องเป็นระดับผู้นำ และผู้มีอิทธิพลในพรรค เป็นคิวแรก

สำหรับรายชื่อบางส่วนที่นิ่งแล้ว ถูกส่งไปให้นายกฯลุงตู่ กลั่นกรอง โดยมีสัญญาณแนบท้ายไปด้วยว่า ให้แค่ดูคุณสมบัติเท่านั้น เปลี่ยนตัวไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องเอกสิทธิ์พรรคร่วม ที่จะกลั่นกรองคนคุณภาพของตัวเอง

อ่า...งานนี้ ระดับหัวหน้า คสช.ที่เคยประกาศยึดอำนาจนักการเมืองมาแล้ว มีหรือจะยอมให้ นักเลือกตั้งบังอาจมาออกคำสั่ง

ในเมื่อเวลานี้ เก้าอี้ นายกฯของลุงตู่ ได้รับโปรดเกล้าฯ เสร็จสิ้นสมบูรณ์ทุกประการแล้ว บัดนี้จึงมีอำนาจเต็ม แถม ม.44 อำนาจหัวหน้า คสช.ก็ยังมีอยู่เต็ม 

ดังนั้น ประกาศิตจากนายกฯ ลุงตู่ จึงขู่กลับไปว่า ครม.ชุดประชาธิปไตยเต็มใบของลุง ต้องปราศจาก “ยี้การเมือง” เพราะงานนี้ ลุงมีแบ็คลิสต์คดีเก่าพร้อมใบเสร็จฯรายหัว จะเอาตำแหน่ง รมต.มา“ฟอกตัว” ไม่ได้

ฉะนั้น โปรดจับตาการรื้อโผรัฐมนตรีของนายกฯลุงตู่ จะกู้ศรัทธาประชาชนจากภาพพจน์การแย่งชิงเก้าอี้ ครม.ประยุทธ์ 2 ได้หรือไม่!