สถิติน่าสนใจของ ICO ในปีนี้

หนึ่ง..ยอดรวมการระดมทุนสิ้นสุดเดือนสิงหาคมอยู่ที่ 18,000 ล้านเหรียญเฉพาะเดือนมิถุนายนเดือนเดียวมูลค่าการระดมทุนก็พุ่งถึง 5,800 ล้านเหรียญไปแล้วและเฉพาะไตรมาสแรกปีนี้มูลค่าการระดมทุนอยู่ที่ 6,300 ล้านเหรียญมากกว่าตัวเลขปี 2017 ทั้งปีไปแล้ว ทั้งนี้มูลค่าระดมทุนส่วนใหญ่ที่ผลักดันตลาดนี้ล้วนแล้วแต่มีมูลค่าเกิน 100 ล้านเหรียญต่อโปรเจคท์ ไม่ได้เกิดจากโปรเจคท์ขนาดเล็ก

สอง..อย่างไรก็ตามมีเพียงแค่ 1ใน 3 ของโปรเจคท์ระดมทุนเท่านั้นที่ประสบความสำเร็จในการระดมทุน โดย 65% ของโปรเจคท์ ICO กำลังอยู่ในช่วงการพัฒนาโปรดักต์ 20% ประสบปัญหาทางด้านกฎระเบียบ10% ยังไม่มีโปรดักต์ โดยมีเพียง 5% ที่โปรเจคท์ประสบความสำเร็จแล้ว

สาม..โปรเจคท์ระดมทุนที่ใหญ่ที่สุดของปีนี้คือเหรียญ EOS ที่ระดมทุนมูลค่า 4,100 ล้านเหรียญ รองลงมาคือ Telegram มูลค่า 850 ล้านเหรียญ

สี่..สหรัฐอเมริกา ยังคงเป็นประเทศที่เป็นแหล่งของการระดมทุน ICO ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีสัดส่วนถึง 25% รองลงมาคืออังกฤษ 15% รัสเซีย11% สิงคโปร์ 11% สวิตเซอร์แลนด์ 11% รองลงมาก็จะมี เอสโตเนียออสเตรเลีย ฮ่องกง หมู่เกาะเคย์แมนและยิบรอลต้า

ห้า..อุตสาหกรรมที่มีการระดมทุนมากที่สุด 12% ก็คือธุรกิจการเงินโดยเฉพาะโปรดักต์ที่เกี่ยวกับการพัฒนาระบบ Payment และ Wallet รองลงมาคืออุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซและ Retail Asset Management  รวมถึงโปรเจคท์ที่มีการนำ Blockchain มาใช้ในธุรกิจ

หก..ผลตอบแทนการลงทุนหรือ ROI ของโปรเจคท์ ICO มีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง โดยค่าเฉลี่ยเคยขึ้นไปถึงจุดสูสุดในปีที่แล้วที่ 30% แต่ล่าสุดลงมาติดลบถึง 20% ซึ่งปรับลดลงตามราคา Bitcoin 

เจ็ด..Ethereum ยังคงเป็น Altcoin ยอดนิยมในการนำมาใช้สร้าง Smart Contract และรองรับการทำ ICO โดยมีสัดส่วนถึง 82% ขณะที่เหรียญStellar และ NEO ที่ถูกคาดว่าจะมาแทนที่ยังมีสัดส่วนการนำมาใช้เพียงแค่ไม่ถึง 1%

แปด..ราคา Bitcoin และ Ethereum เป็นปัจจัยสำคัญต่อราคาเหรียญที่ทำICO โดยโปรเจคท์ที่ประสบความสำเร็จต่างระดมทุนในช่วงที่เหรียญทั้งสองอยู่ในช่วงขาขึ้น

เก้า..Hacker เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตลาด ICO ซบเซา เพราะนักลงทุนไม่มั่นใจว่าเงินที่ลงไปจะยังได้รับการคุ้มครองหรือไม่ โดย EY บริษัทที่ปรึกษาทางธุรกิจได้ประเมินว่ามีเหรียญ ICO ถูกฉกเงินออกจาก Wallet กว่า 400 ล้านเหรียญ จาก 372 โปรเจคท์ ไม่นับ Exchange จำนวนมากที่ถูก Hacker เข้ามาขโมยข้อมูลออกไปได้

ทั้งนี้ข้อมูลดังกล่าวเป็นสถิติที่เกิดขึ้นถึงเดือนสิงหาคมปี 2018 คาดว่าสิ้นปีนี้ตัวเลขต่างๆน่าจะมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่แย่ลงจากการที่ตลาดCryptocurrency ตกต่ำลงอย่างหนัก ณ เวลาที่เขียนบทความนี้ราคาEthereum ในตลาดโลกยังคงต่ำกว่าระดับ 200 เหรียญ ต้องติดตามต่อไปว่าช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ราคา Cryptocurrency จะฟื้นตัวกลับมาได้หรือไม่