โผทหาร...งานเข้า?

โผทหาร...งานเข้า?

ช่วงนี้ข่าวลือไม่ค่อยดีเกี่ยวกับ “โผทหาร” บ้างก็ว่าโผมีปัญหา ล่าช้า นายกฯเห็นไม่ตรงกับ “บิ๊กป้อม” จนออกอาการงอน ไม่ไปอวยพรวันเกิดซะอย่างงั้น

ส่วนตำแหน่งที่มีปัญหาก็มีหลายตำแหน่ง โดยเฉพาะแคนดิเดต ผบ.ทบ.คนใหม่อาจไม่ใช่คนที่เป็นข่าว แถมยังมีข่าวฉาวๆ เกี่ยวกับว่าที่ “แม่ทัพภาคใต้” คนใหม่ด้วย

นี่คือข่าวลือที่เป็นแรงกระเพื่อมในช่วงจัดทำโผโยกย้าย ซึ่งจะว่าไปก็มีทุกปี แต่ข้อมูลเท่าที่ตรวจสอบมา แคนดิเดต ผบ.ทบ.คนเดิมยัง “นอนมา” เช่นเดียวกับแม่ทัพภาคใต้ คนที่มีโอกาสสูงสุดก็ยังเป็นแม่ทัพน้อยคนดัง อดีต ผบ.ฉก.ปัตตานี

จะว่าไปข่าวลือประเภทนี้ บางทีก็ทำให้สังคมมองข้ามสาระสำคัญของการจัดทำโผทหารไปเหมือนกัน คิดดูง่ายๆ ช่วงที่รัฐบาลพลเรือนจากการเลือกตั้งเข้ามาบริหารประเทศ มักจะมีเสียงขู่ฮึ่มๆ จากบรรดาแม่ทัพนายกองทำนองว่า “เขตทหารห้ามเข้า” ห้ามล้วงลูกโผโยกย้าย กระทั่งสุดท้ายหลังการรัฐประหารรอบที่แล้ว ก็มีการตรา พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม กำหนดให้มี “คณะกรรมการ 7 อรหันต์” มีอำนาจทำโผ ประกอบด้วย รมว.กลาโหม รมช. และผบ.เหล่าทัพทุกเหล่า กับปลัดกลาโหม

จะเห็นได้ว่าเสียงของ “รัฐมนตรี” ซึ่งถือเป็นฝ่ายการเมืองมีแค่ 2 เสียง ขณะที่เสียงของฝ่ายประจำมีถึง 5 เสียง พูดง่ายๆ ก็คืออำนาจในการปรับย้ายอยู่ในมือกองทัพแบบเบ็ดเสร็จ แต่วันนี้มีคำถามคือ ฝ่ายการเมืองที่คุมกลาโหมกลับเป็น “อดีตนายทหารผู้มากบารมี” ยิ่้งไปกว่านั้นนายกรัฐมนตรีก็ยังเป็นอดีตผู้นำเหล่าทัพ แบบนี้จะมีงาน “ล้วงโผ” โดยไม่ต้องรับผิดกันบ้างไหม

ข่าวลือที่อ้างตอนต้นน่ะ “ลือหลอก” ล้วงไม่ล้วงให้รอดู ผบ.ทสส.จะเป็นคนในกองทัพไทย หรือสไลด์มาจากนายทหารชื่อพยางค์เดียวที่เคยเป็นแคนดิเดตปลัดกลาโหม คนนี้เป็นเด็กใคร...ก็รู้กันดี อีกตำแหน่งคือ ผบ.หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา หน่วยใหญ่ในกองทัพไทยที่ใครๆ ก็หมายตา เพราะงบปีละหลายพันล้าน ต้องจับตาว่ารองเสธ.ทหารที่เป็นแคนดิเดตตามสายงานจะได้ขึ้น หรือโดน “เด็กนาย” บินมาเสียบ

ถึงวันนั้นก็จะรู้ว่าคณะกรรมการ 7 อรหันต์มีน้ำยาจริงหรือไม่ในยุค คสช. และใครกันที่รอ “กินรอบวง”