ออนไลน์ วัดกระแส 'จอทีวี'
จำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตสัดส่วนราว 60% ของประชากร เกือบทั้งหมดของผู้เสพสื่อออนไลน์
ใช้โซเชียล มีเดียยอดนิยม“เฟซบุ๊ค” ที่ปัจจุบันมี 41 ล้านบัญชี
การขยายตัวของผู้เข้าถึงอินเทอร์เน็ต กลุ่มหลักมาจาก“มือถือ” จากปัจจัยการขยายโครงข่าย 3 จี และ 4จี, ราคาแพ็คเกจดาต้าหลากหลายรองรับทุกกลุ่มใช้งาน และสมาร์ทโฟนราคาประหยัด เปิดโอกาสให้ทุกกลุ่มรายได้ใช้งานตามกำลังซื้อ
สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ ETDA สรุปตัวเลขผู้ใช้สมาร์ทโฟนปี 2559 เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอยู่ที่ 85.5% ใช้งานเฉลี่ย 6.2 ชั่วโมง/วัน เพิ่มขึ้นจากปี 2558 ที่สัดส่วน 82.1% ใช้งาน 5.7 ชั่วโมงวัน
สื่อสังคมออนไลน์ยอดนิยม 3 อันดับแรก ได้แก่ ยูทูบ มีผู้ใช้งาน 97.3% รองลงมา เฟซบุ๊ค 94.8% และ ไลน์ 94.6%
ตัวเลขผู้ใช้อินเทอร์เน็ตและสื่อสังคมออนไลน์ระดับ 30-40 ล้านราย และจำนวนชั่วโมงเสพคอนเทนท์ขยับขึ้นต่อเนื่อง นับเป็น“เครื่องมือ”สำคัญที่เป็นทั้งช่องทางสื่อสารและการทำตลาดของสินค้าและแบรนด์ในยุคนี้ สะท้อนจากเม็ดเงินที่ใช้ผ่านสื่อออนไลน์ปีนี้ ประเมินว่ายังเติบโตได้ 25% มูลค่ารวม 1.2 หมื่นล้านบาท ขยับเป็นสื่ออันดับสองครองเม็ดเงินโฆษณาสูงสุดรองจากกลุ่มสื่อทีวีและแซงหน้าหนังสือพิมพ์
ในมุมของผู้ผลิตคอนเทนท์และสื่อทีวี วันนี้ ต่างมองว่าช่องทางออนไลน์ โดยเฉพาะเฟซบุ๊คและยูทูบ เป็นเครื่องมือเข้าถึงกลุ่มผู้ชม เพิ่มเติมจากจอหลัก“ทีวี” ผ่านรูปแบบทั้งดูสด“เฟซบุ๊คไลฟ์” และเก็บผู้ชมสะสมดูย้อนหลังบน“ยูทูบ”ที่ปัจจุบันเป็น 2 ช่องทางหลักในฝั่งสื่อออนไลน์ ขณะที่“ไลน์”เป็นแพลตฟอร์มเสริมรายได้จากการขายลิขสิทธิ์คอนเทนท์และการผลิตรายการแบบเอ็กซ์คูลซีพ
เดิมสถานีทีวี มีความกังวลว่าการนำคอนเทนท์เกรดเอ ไปเผยแพร่พร้อมกันบนช่องทางออนไลน์ จะทำให้คนดูหายจากหน้าจอทีวีที่เป็นแหล่งรายได้โฆษณาที่มีราคาสูง
แต่การเรียนรู้พฤติกรรมผู้ชมในยุคดิจิทัล เริ่มชัดเจนมากขึ้นว่า “ผู้ชมอยู่กับแพลตฟอร์มไหน ก็ต้องนำคอนเทนท์ไปอำนวยความสะดวกให้ดูที่ช่องทางนั้น” โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่มีรูปแบบการเสพสื่อ ผ่านอุปกรณ์ติดตัวและไม่ได้ปฏิเสธคอนเทนท์ทีวี เพียงแต่มีช่องทางการรับชมทีวีต่างจากรุ่นพ่อแม่ ที่ดูผ่านจอหลัก
พฤติกรรมผู้ชมทีวีวันนี้ ที่เริ่มเห็นชัดคือ เมื่ออยู่ที่บ้าน จะดูผ่านจอทีวีและพูดคุยเกี่ยวกับคอนเทนทีวีผ่านสื่อสังคมออนไลน์ไปพร้อมกัน
วันนี้สื่อออนไลน์ จึงเป็นช่องทางสำคัญที่ ผู้ผลิตคอนเทนท์และสถานีทีวีใช้เป็นเครื่องมือ สร้างการรับรู้ และ“วัดกระแส”ความนิยมรายการ หากคอนเทนท์อยู่ในกระแสสื่อออนไลน์ เชื่อได้ว่าสามารถดึงผู้ชมกลับมาที่จอหลักทีวีได้อีกทาง เห็นได้จากสถานีทีวี ช่องต่างๆ เริ่มปล่อยคอนเทนท์สำคัญที่มีเรทติ้งสูงบนจอทีวี มาเรียกความสนใจบนแพลตฟอร์ม“ไลฟ์”มากขึ้น ขณะที่หน้าจอทีวีก็ยังมีเรทติ้งที่ดี
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด คือรายการ“The Mask Singer หน้ากากนักร้อง” ช่องเวิร์คพอยท์ ที่ปล่อยคอนเทนท์ผ่านเฟซบุ๊คไลฟ์ สามารถโกยยอดผู้ชมได้ทั้ง 2 ช่องทาง ทั้งออนไลน์และเรทติ้งทีวี รายการรอบแชมป์ชนแชมป์ของ 4 หน้ากาก สุดท้าย วันพฤหัส 9 มี.ค. มียอด 4.6 ล้านวิว ทางเฟซบุ๊คไลฟ์ สูงสุดตั้งแต่เปิดไลฟ์ ส่วนเรทติ้งทีวีทั่วประเทศเฉลี่ยที่ระดับ 10 สูงกว่าละครในช่วงเดียวกันเท่าตัว
การขยายตัวของผู้ใช้สื่อออนไลน์วันนี้ ถือเป็นอีกเครื่องมือสำคัญ สนับสนุน “คอนเทนท์ที่แข็งแรง” ให้เข้าถึงผู้ชมมากขึ้น