น้ำตาตอนเที่ยงคืนของ "โรส แม็คโกแวน"

น้ำตาตอนเที่ยงคืนของ "โรส แม็คโกแวน"

โรส แม็คโกแวน ผู้หาญกล้าลุกขึ้นมาสู้กับมาเฟียในวงการบันเทิงอย่าง "ฮาร์วีย์ ไวน์สตีน" กับน้ำตาที่เธอหลั่งออกมาตอนที่เห็นเขาถูกจับ

โรส แม็คโกแวน เป็นหนึ่งในคนแรกๆ ที่ออกมาโจมตีโปรดิวเซอร์ ฮาร์วีย์ ไวน์สตีน กรณีคุกคามทางเพศ ตอนนี้ เธอต้องการเปลี่ยนแปลงมุมมองที่มีต่อผู้หญิงของทั้งวงการบันเทิง

“ฉันอยากแสดงให้คนทั้งโลกเห็นว่า คุณสามารถต่อกรกับคนมีอำนาจได้”

เมื่อคำร้องกรณีล่วงละเมิดทางเพศได้เริ่มโผล่ชื่อของ ฮาร์วีย์ ไวน์สตีน โปรดิวเซอร์หนังชื่อดังเมื่อปลายปีที่แล้ว เขาปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาเกี่ยวกับ ‘เพศสัมพันธ์โดยไม่ได้รับการยินยอม’ แม็คโกแวน ออกมาพูดเป็นคนแรกๆ โดยจับมือกับ โจดี แคนเทอร์ และเมแกน ทูเฮย์ นักข่าวนิวยอร์กไทม์สที่เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับเงินหนึ่งแสนดอลลาร์ที่เขาจ่ายให้เธอในปี 1997 ในเดือนตุลาคม ล่าสุด อัยการเขตแมนฮัตตัน ได้ตั้งข้อหาข่มขืนและก่ออาชญากรรมทางเพศกับ ไวน์สตีน

“ฉันร้องไห้ออกมาเลยล่ะ มีแต่คนถามว่าฉันรู้สึกยังไงตอนที่เขาถูกจับ และฉันก็ไม่มีเวลามาทบทวนความรู้สึกตัวเองจริงๆ ฉันไปที่เซ็นทรัลพาร์ค ช่วงราวๆ เที่ยงคืน แล้วฉันก็แค่ร้องไห้ ร้องให้กับเด็กสาวคนนั้นที่ฉันเคยเป็น แต่วันนี้ ฉันยิ้มให้ตัวเอง”

harvey-weinstein-01-rd-jc-180530_hpMain_16x9_1600

แม็คโกแวนเล่าว่า เธอได้ผ่านช่วงเวลาที่เป็นเหมือนฝันร้ายอันยาวนานมาก่อนที่บทความนั้นจะถูกตีพิมพ์ในนิวยอร์กไทม์ส เธอเล่าว่า ตอนที่ ไวน์สตีน ได้ยินว่าเธอกำลังเขียนหนังสือ Brave บันทึกความทรงจำทั้งหมด เขาจ้างนักสืบรวมถึงอดีตเจ้าหน้าที่จากมอสสาด หน่วยงานสายลับอิสราเอลมาตามเฝ้าและแทรกซึมเข้ามาอยู่ในชีวิตประจำวันของเธอ ฟังดูแปลกประหลาด แต่นิตยสารนิวยอร์กเกอร์ก็ยืนยันในเรื่องนี้ ขณะที่โฆษกของ ไวน์สตีน บอกว่า “เป็นนิยายที่จะชี้เป้าไปที่ใครตอนไหนก็ได้”

171013-chapman-mcgowan-hero_vvvztx

ย้อนไปเมื่อเดือนมกราคม 2017 แม็คโกแวน ถูกจับกุมข้อหาพกยาเสพติด มีโคเคนอยู่ในกระเป๋าเงินที่เธอทำหายบนเครื่องบิน – ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามปิดปากเธอ การพิจารณาคดีเกิดขึ้นในช่วงเวลาแค่สัปดาห์เดียว “ยังกับฝันร้าย และเหมือนว่าพวกเขากำลังทำงานให้นักข่มขืน มันบ้าบอจริงๆ”

แล้วเธอได้เตรียมตัวรับข้อเท็จจริงที่เธออาจถูกส่งเข้าคุกไหม? “ไม่ ฉันปฏิเสธ และถ้าหากพวกเขาขังฉัน นั่นก็เพราะอยากปิดปากผู้หญิงคนหนึ่ง” แล้วเธอเตรียมตัวรับข้อเท็จจริงที่ ไวน์สตีน อาจไม่ติดคุกไหม? เธอคิดตรงกันข้ามเลย – เธอเอาแต่คิดถึงภาพที่เขาถูกส่งตัวเข้าคุกอย่างเดียว

เป็นเส้นทางยาวนานสำหรับ แม็คโกแวน ในการล้ม ไวน์สตีน ลง เมื่อปี 2016 เธอทวีตข้อความว่า “หัวหน้าสตูดิโอ” คนหนึ่งข่มขืนเธอและเธอกำลังเขียนบันทึกความทรงจำ โดยจะเขียนถึงการคุกคามทางเพศในปี 1997 เธอเขียนจนเสร็จ กำลังพิสูจน์อักษรอยู่ และแก้ปัญหาทางกฎหมาย 2-3 ข้อ ตอนที่เรื่องของ ไวน์สตีน ในนิวยอร์กไทม์สและนิวยอร์กเกอร์ซาลง แล้วเธอได้ตีพิมพ์หนังสือโดยที่เรื่องพวกนี้ไม่อยู่ในกระแสหรือเปล่า? “ฉันไม่อยากทำ” เธอบอก “คือฉันก็อาจตีพิมพ์ แต่อีกเป้าหมายของฉันคือทลายโครงสร้างอำนาจลง” จากนั้นก็มีผู้หญิงอีกหลายคนเข้าร่วมด้วย ทั้งกวินเน็ธ พัลโทรว์ เอเชีย อาร์เจนโต มีรา ซอร์วีโน และซัลมา ฮาเย็ค “ฉันว่าคงเปิดหูเปิดตาให้หลายๆ คนเลยล่ะ”

คืนหนึ่งเมื่อสี่ปีก่อน แม็คโกแวน ตัดสินใจว่าเธอเกลียดการแสดง “ไม่ใช่สิ่งที่เราทำในการแสดง ฉันเกลียดทุกส่วนของระบบที่กำลังเป็นอยู่ เหมือนมีระฆังดังขึ้นในหัวบอกว่า ‘ตื่นได้แล้ว ชีวิตตอนนี้ไม่ใช่เธอเลย’” หลังจากนั้น เธอเริ่มรักษาเสรีภาพของตัวเอง ในปี 2015 เธอทวีตโน้ตในการคัดตัวที่มาพร้อมกับสคริปต์ในหนังของ อดัม แซนด์เลอร์ ที่ระบุว่า ดาราหญิงต้องโชว์ร่องอกและใส่บราดันทรง เธอเรียกการทวีตครั้งนี้ว่าเป็นการระดมยิงเปิดตัว – จากนั้น เอเยนต์ก็ไล่เธอออก

แต่เธอหาได้สนไม่ เธอเริ่มให้สัมภาษณ์ พูดคุยเรื่องการคุกคามทางเพศในวงการ โกนผมดำยาวที่ฮอลลีวู้ดชอบออกหมด เลิกทำตัวแบบที่ฮอลลีวู้ดอยากให้ทำ เลิกสนว่าใครจะคิดกับเธอยังไง และร่วมเคลื่อนไหวในประเด็น #Metoo เต็มที่

ย้อนกลับไปในปี 1997 ระหว่างเทศกาลหนังซันแดนซ์ ไวน์สตีน เรียกเธอไปพบในห้องสูทที่โรงแรม เธอแสดงในหนัง Going All the Way และถ่ายหนังเรื่องอื่นอยู่ จิลล์ เมสซิค ผู้จัดการของเธอตอนนั้นบอกว่าเธอควรไปพบเขาเพื่อช่วยให้อาชีพก้าวหน้า เมื่อคิดว่าการประชุมจบลงแล้ว เธอเดินไปตามทางเดินกับ ไวน์สตีน แล้วเขาก็ผลักเธอเข้าไปในห้องจากุซซีที่เล็กและมืด ถอดเสื้อผ้าและล่วงละเมิดเธอ เธอบอกว่าต้องแกล้งถึงจุดเพื่อให้เขาหยุด – และแน่นอน ไวน์สตีน ปฏิเสธทันที

หลังจากยื่นข้อกล่าวหา แม็คโกแวน บอกว่ามีทนายมาพบและบอกว่าเธอไม่มีวันชนะคดีเพราะ “เธอก็แค่นักแสดงหญิง เคยเล่นฉากเซ็กส์มาแล้วด้วย” รวมถึงการที่เธอติดแบล็คลิสต์ในหน้าที่การงาน เธอเล่าว่ามีเอเยนต์คนหนึ่งพูดว่า ผู้บริหารของฮอลลีวู้ดคนหนึ่งบอกว่า ‘ถ้าจะจ้าง โรส แม็คโกแวน ก็ข้ามศพผมไปก่อน’

เธอบอกว่า การอยู่กับผลพวงของการคุกคามครั้งนั้นส่งผลให้อาชีพของเธอ “ลำบากขึ้น ฉันคิดว่าตัวเองกำลังแตกเป็นเสี่ยงๆ มานาน คุณถูกแบ่งออกเป็นส่วนๆ และตัวตนของคุณก็ถูกล็อกอยู่ในที่ไกลแสนไกล แต่ก็เป็นแค่ไม่กี่คืนแรกในช่วงเวลามืดมิดที่สุดเมื่อฉันหวังว่าจะปิดปากตัวเองได้ตอนอยู่ในงานออสการ์ เพราะงานของฉันอาจไปผิดทางได้ แต่สุดท้ายฉันก็ไม่ชอบ ไม่อยากทำแบบนั้น ฉันไม่อยากคิดเลยว่าจะกลายเป็นคนแบบนั้นถ้าไม่พูดออกมา เพราะแบบนั้นไม่ใช่ฉันเลย”

Brave หนังสือของเธอไม่เพียงเปิดเผยแต่ยังวิพากษ์วิจารณ์ฮอลลีวู้ดอย่างหนัก หนึ่งในสาระสำคัญของหนังสือเล่มนี้คือการเห็นคุณค่าของผู้หญิง เธออยากเป็นส่วนหนึ่งการเปลี่ยนแปลงระดับสั่นสะเทือนวงการ

“การเปลี่ยนแปลงไม่ได้ง่ายดายเสมอไปหรอกนะ แต่ฉันแค่อยากให้ทุกคนดีขึ้นสัก 10 เปอร์เซ็นต์ก็ยังดี และฉันคิดว่านี่จะทำให้การรับรู้ของเราเพิ่มขึ้นราว 10 เปอร์เซ็นต์” เธอยิ้ม “ฉันรู้ว่าตัวเองกำลังอยู่บนเส้นทางที่ถูกต้องแล้ว”