เมื่อรถเป็นภาระ-สินทรัพย์ด้อยค่า ‘อีซี่คาร์’ เชื่อเทรนด์รถเช่ามาแรง

เหตุผลที่คนไม่อยากซื้อรถมีหลายอย่าง แต่หลักๆ คือ ไม่ต้องการครองสินทรัพย์ด้อยค่า ไม่ต้องการจ่ายเงินก้อนใหญ่ แต่นำเงินดังกล่าวไปใช้ในการลงทุน หรือดำเนินธุรกิจต่างๆ แทน และไม่ต้องการแบกรับค่าใช้จ่ายที่ตามมา เช่น ค่าประกันภัย ค่าบำรุงรักษา ค่าซ่อมแซม รวมไปถึงลดความกังวลกับราคาเมื่อขายต่อ 

ทั้งหมดนั้น ถือเป็นจุดอ่อนทางธุรกิจ หรือ pain point ที่ผู้บริโภคมองเห็น ดังนั้น อีซี่คาร์ จึงเห็นว่าในเวลาเดียวกันนั่นคือช่องว่างที่เปิดโอกาสให้ธุรกิจใหม่ๆ โดดเข้าไปสร้างตลาด

โดยบริษัทจะเป็นผู้จัดหารถให้ลูกค้าตามที่ต้องการและรับผิดชอบดูแลรถทุกอย่าง โดยลูกค้าแค่เติมน้ำมันเท่านั้น รวมถึงยังมีบริการรถชดเชย กรณีรถเกิดปัญหาหรือต้องซ่อม 

อติคุณ เผอิญโชค แมคโดนัลด์ ผู้ก่อตั้ง และประธานเข้าหน้าบริหาร อีซี่คาร์ บริษัท ไทย วี.พี.คอร์ปอเรชั่น ในเครือบริษัท ไทยรุ่ง พาร์ทเนอร์ส จำกัด กล่าวว่า หลังจากเริ่มต้นทำตลาดมาได้ 1 ปี เห็นได้ชัดว่าบริษัทเดินมาถูกทาง จากการตอบรับของผู้บริโภคจำนวนมาก

โดยขณะนี้มีผู้สมัครกว่า 1,200 คน และเป็นสมาชิกแล้วกว่า 200 คน และยอดสินเชื่อรวมกว่า 200 ล้านบาท 

โดยกลุ่มลูกค้าสมาชิกมีความหลากหลาย หลักๆ คือ ผู้ประกอบการ เจ้าของธุรกิจ ที่ไม่มองว่ารถยนต์เป็นทรัพย์สิน แต่มองว่าเป็นเครื่องมือในการทำงาน สร้างรายได้ และไม่ต้องการเอาเงินก้อนไปจมกับรถยนต์

อีกกลุ่มหนึ่งคือ เจน วาย ที่มองว่ารถยนต์เป็นสินทรัพย์ด้อยค่า เพราะเสื่อมราคาลงทุกวันๆ และต้องการนำเงินที่จะซื้อรถไปใช้ลงทุนด้านอื่น เช่น สกุลเงินดิจิทัล 

เมื่อเห็นทิศทางของธุรกิจ และกลุ่มลูกค้าชัดเจน ขณะที่ผู้บริโภคก็เริ่มเห็นภาพของ อีซี่คาร์ ชัดเจนเช่นกัน ทำให้เชื่อว่าทิศทางตลาดปีนี้จะขยายตัวอย่างน่าตื่นเต้น

“ไม่ใช่เฉพาะเราที่หาข้อมูลลูกค้า แต่ลูกค้าก็หาข้อมูลของอีซี่คาร์เช่นกัน ดังนั้นเชื่อว่าปีนี้ธุรกิจจะขยายตัวอย่างโดดเด่น โดยตั้งเป้าเติบโตกว่า 500% มีจำนวนสมาชิกกว่า 1,200 ราย และยอดสินเชื่อมากกว่า 1,000 ล้านบาท” 

 

อติคุณกล่าวว่า นอกจากการยอมรับที่เพิ่มขึ้นแล้ว การก้าวไปสู่เป้าหมายการเติบโตดังกล่าว จะเป็นผลมาจากการขยายงานของบริษัทเพิ่มเติมอีกด้วย เช่น

การเริ่มต้นเปิดบริการใหม่ “อีซี่ พรีเมี่ยม” ในช่วงไตรมาสแรกปีนี้ เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถใช้รถยนต์พรีเมียมหรือรถยุโรปหลายยี่ห้อ ซึ่งล่าสุดมีพันธมิตรเข้ามาร่วมงาน คือ เบนซ์ บีเคเค ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ เมอร์เซเดส-เบนซ์ รายใหญ่ และ บี ออโต้ฮาวส์ ผู้นำเข้ารถอิสระ

ทั้งนี้บริษัทยังมีพันธมิตรอีก 1 ราย คือ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด และในอนาคตมีแผนที่จะขยายความร่วมมือกับพันธมิตรใหม่ๆ เพิ่มเติม

อีกหนึ่งบริการที่จะช่วยขยายตลาดคือ การให้บริการถเช่ามือสอง เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าที่ลดค่าใช้จ่ายลงได้ประมาณ 30% เมื่อเทียบกับรถใหม่ป้ายแดงแบบรุ่นต่อรุ่น 

พงษ์ศักดิ์ พัฒนไพรสณฑ์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ ฝ่ายกลยุทธ์และการตลาด กล่าวว่า นอกจากเปิดบริการ อีซี่ พรีเมี่ยม ในไตรมาสแรกแล้ว บริษัทยังวางแผนเชิงรุกต่อเนื่อง โดยไตรมาสที่ 2 จะเปิดตัว แบรนด์ แอมบาสเดอร์ เป็นครั้งแรก จากนั้นไตรมาสที่ 3 จะมีสินค้าใหม่ และเป้าหมายเพิ่มสมาชิกใหม่ 500 ราย

ในส่วนของสมาชิกใหม่ ปีนี้มีเป้าหมายเจาะกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอี และสตาร์ทอัพ ซึ่งมีความต้องการตรงกับแนวทางของบริษัท และยังเป็นกลุ่มที่เข้าใจผลิตภัณฑ์ของบริษัทเป็นอย่างดี 

"เรามีแพคเกจที่หลากหลาย แต่ก็พร้อมที่จะเพิ่มความหลากหลายมากขึ้นไปอีกเพื่อรองรับความต้องการที่แตกต่างของลูกค้า เช่น การหารถตอบสนองได้ทุกยี่ห้อทุกรุ่น รวมถึงรุ่นต่อเติมพิเศษ นอกจากนี้ยังมีแพคเกจที่ลูกค้าสามารถเปลี่ยนรถได้ทุกเดือนเพื่อความเหมาะสมกับการใช้งาน"

สำหรับรูปแบบการให้เช่าของ อีซี่คาร์ รถมือสองระยะสั้นที่สุดคือ 1 เดือน ส่วนรถใหม่ 1 ปี สูงสุด 5 ปี และหากเช่าแล้วสมาถชิกต้องการซื้อรถคันนั้นก็สามารถทำได้

โดยธุรกิจของ อีซี่คาร์ ปัจจุบันหากมองในแง่รูปแบบ คู่แข่งโดยตรง คือ คินโต ของ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ซึ่งทำเฉพาะรถโตโยต้าเท่านั้น 

“แต่จริงๆ แล้ว คู่แข่งโดยตรงของเราตอนนี้ คือ ไฟแนนซ์ มากกว่า” อติคุณกล่าว