บีเอ็มดับเบิลยู "X5 xDrive30d M Sport"

บีเอ็มดับเบิลยู "X5 xDrive30d M Sport"

บีเอ็มดับเบิลยู เปิดตัว เอ็กซ์ 5 ในตลาดโลกช่วงปลายปี 2556 และใช้เวลาไม่นานนัก เอสยูวี หรู คันนี้ ก็เดินทางเข้ามาเปิดตลาดในไทย

เอ็กซ์ 5 เปลี่ยนแปลงไปจากรุ่นเดิมไม่น้อย ทั้งมุมมองที่ดูโฉบเฉี่ยวขึ้น หรูขึ้น และใหญ่ขึ้น แต่ก็ยังรักษาบุคลิกหรือกลิ่นอายของตระกูล เอ็กซ์ 5 เอาไว้ได้

ตัวถังภายนอกดูบึกบึน โครงสร้างตัวถังเหมือนตั้งใจออกแบบให้เรียบๆ แล้วมาเพิ่มความเคลื่อนไหว ความโฉบเฉี่ยวจากเส้นสายต่างๆ ทั้งเส้นสายที่ตัวรถเอง และเส้นสายของรูปทรงอุปกรณ์ต่างๆ เช่น ไฟหน้า ไฟท้าย กระจังหน้า เป็นต้น โดยรวมๆ มีบุคลิกผู้ใหญ่ สุขุม แต่ก็พร้อมที่จะลุยได้ทุกเวลา

พูดถึงไฟท้าย ผมชอบเมื่อมันทำงานเวลาค่ำคืน เส้นสายของไฟแดง 2 ชั้น ที่วิ่งล้อกันไป ดูแปลกตา สวยงาม ดึงดูดให้คันหลังต้องขับตามไปดูให้รู้แน่ว่ามันรถอะไร ถ้ายังไม่รู้จักมาก่อน

ส่วนภายใน ก็ยังคงกลิ่นอายของความเป็นบีเอ็มดับเบิลยูไว้อย่างเต็มที่ อุปกรณ์ต่างๆ ใช้วัสดุและผลิตอย่างประณีต ดูเพิ่มคุณค่าได้มาก เบาะนั่ง แผงข้างประตู ใช้สีโทนอ่อน ดูโล่งโปร่งตา สบายๆ

ในรุ่น "เอ็กซ์ 5 เอ็กซ์ไดรฟ์ 30ดี เอ็ม สปอร์ต" ที่อยู่ในมือผมขณะนี้ บีเอ็มเสริมความดุด้วยชุดแต่งเอ็ม ซึ่งที่แทรกเข้ามาภายในห้องโดยสาร ก็คือ พวงมาลัยหุ้มหนังแท้แบบเอ็ม และหลังคาภายในตกแต่งด้วยสี Anthracite แปลได้ว่าสีถ่านหิน และกาบบันไดสัญลักษณ์ เอ็ม แต่ก็ดูกลมกลืนกับอุปกรณ์อื่นๆ

คอนโซลหน้า เกียร์ หน้าปัด เอามือปิดส่วนที่มีโลโก้ ก็ตอบได้ไม่ยากว่านี่คือบีเอ็มดับเบิลยู มีขนาดใหญ่ บึกบึน พุ่งเข้าหาและโอบล้อมผู้ขับ บางคนบอกว่ามันทำให้ที่นั่งดูแคบ แต่ผมว่ามันช่วยให้รู้สึกถึงความหนักแน่นมั่นคง

โดยรวมก็ออกแบบมาแบบเรียบๆ มีดีเอ็นเอของตระกูลเดียวกัน เมื่อรวมกันแล้วดูกลมกลืน สบายตา จะมีสะดุดตา คือ จอมอนิเตอร์ที่ทะลุขึ้นมากลางคอนโซล ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมในรถหลายๆยี่ห้อขณะนี้ จอนี้เห็นชัดในโหมดทำงานต่างๆ เช่น ความบันเทิง การตั้งค่าต่างๆ โหมดการทำงานของรถ หรือแสดงภาพที่ชัดมากเมื่อถอยหลัง

ส่วนการนั่งไม่ต้องห่วงกับห้องโดยสารที่ใหญ่โต นั่งได้สบายทั้ง 5 ที่นั่ง และยังเหลือพื้นที่บรรทุกสัมภาระให้ขนของได้อีกมากมาย ซึ่งการออกแบบฝาเปิดด้านท้ายเป็นแบบ 2 ชิ้น คือบานหลักขึ้นบน และบานเล็กเปิดลงด้านล่าง และขนานกับพื้นห้องเก็บสัมภาระ เพื่อให้ง่ายต่อการขนของขึ้นลง

ส่วนภายนอกมีชุดแต่งเอ็มรอบคัน และขอบหน้าต่างที่ตกแต่งด้วยสีดำเงา ช่วยให้ดูเข้มขึ้นไปอีก ขณะที่ล้อขนาด 20 นิ้ว กับยางที่ใหญ่ ด้านหน้า 275/40 R20 หลัง 315/35 R20 ดูสมส่วนกับตัวรถ ที่มีความยาว 4,886 มม. กว้าง 1,938 มม.และสูง 1,726 มม.

เครื่องยนต์ดีเซล คอมมอนเรล ไดเร็ค อินเจคชั่น 6 สูบ 3.0 ลิตร ทวินพาวเวอร์ เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 218 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 560 นิวตันเมตร ที่ 1,500 ถึง 2,000 รอบ/นาที โดยบีเอ็มดับเบิลยู สเปคจากโรงงานนั้น มีอัตราสิ้นเปลือง 16.1 กิโลเมตร/ลิตร

แต่การขับขี่จริงของผม ซึ่งมีเส้นทางผสมผสานกันไป ทั้งในเมือง ที่รถหนาแน่นอย่างย่านสาทรยามเช้า และเส้นทางออกต่างจังหวัด เฉลี่ยแล้วอยู่ 12 กม./ลิตร ซึ่งผมก็ถือว่าใช้ได้ครับ

ว่ากันที่ความคล่องตัวกันก่อน แม้ว่าจะเป็นรถที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ แต่ก็ถือว่าแต่กำลังของเครื่องยนต์ที่สูง อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. อยู่ที่ 8 วินาที ช่วยให้รถมีความคล่องตัวกับการขับขี่ในเมืองที่จราจรหนาแน่น

ส่วนการเข้าพื้นที่แคบๆ ซึ่งรถเกือบทุกคันที่ผ่านมือผมจะได้รับสิทธิ์เข้าซอยที่หลายคนขนานนามมันว่า ซอยปราบเซียน ก็ไม่มีปัญหาอะไร บวกกับการเป็นรถที่มีความสูง และเซนเซอร์รอบคัน ก็ช่วยได้มาก ว่ารถจะไม่ไปเกี่ยวกับโต๊ะ เก้าอี้ หรือแท่งปูน ที่พ่อค้า แม่ค้า เอาไว้ปักร่มบนถนน

ถ้าพูดถึงจุดนี้ เอ็กซ์ 5 เป็นรถที่ขับสบายครับ ทัศนวิสัยดี เห็นได้ชัดเจน ขับไม่เครียด

เมื่อบ่ายหน้าลาเมืองกรุง มุ่งสู่สุพรรณบุรี สัญชาติของบีเอ็มดับเบิลยูออกมาทันที กำลังมาตามน้ำหนักเท้าที่กดลงไป ไม่ว่าที่ความเร็วต่ำหรือสูงก็ตาม ช่วงทำความเร็วผมพยายามรักษาไว้ในระดับ 140-160 ซึ่งรถมีความนิ่ง ให้ความรู้สึกเหมือนช้ากว่าตัวเลขที่ปรากฏ แต่การวิ่งผ่านรถคันทางซ้ายที ทางขวาที (พวกขับช้าชิดขวา) ทำให้ยืนยันว่าเร็วจริง

การจะเติมความเร็วขึ้นไป ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ผมยืนยันตลอดว่า ถนนบ้านเรา ไม่เหมาะที่จะใช้ความเร็วมาก เพราะมีทั้งกับดักบนถนนเอง ที่ทำเอายางชาวบ้านชาวช่วง บวมกันเป็นว่าเล่น โช้คแตกกันไปหลายตัว แถมเพื่อนสมาชิกบนท้องถนน ก็พร้อมจะเปลี่ยนช่องทางโดยไม่บอกกล่าว และคำนวณความเร็วของรถที่มาด้านหลัง ยังไม่นับรวมแขกไม่ได้รับเชิญที่ชอบโผล่เข้าในเส้นทางแบบไม่บอกกล่าว

การทรงตัวของรถเชื่อใจได้ทั้งทางตรง ทางโค้ง แม้จะขับอยู่ในโหมด คอมฟอร์ท หรือว่า อีโค พลัส ที่จะช่วยทำหน้าที่เพิ่มความประหยัดให้ก็ตาม อาการโยก หรือโยนของตัวถังทรงสูงมีน้อย น้อยกว่ารถเก๋งเตี้ยบางตัวด้วยซ้ำไป

แต่ถ้าหากต้องการความมั่นใจเพิ่มขึ้น เลือกโหมดสปอร์ต จะรู้สึกได้ถึงความแตกต่างทันที ทั้งพวงมาลัยหนักขึ้น ช่วงล่างแข็งขึ้น แต่ก็เลื้อยผ่านรถที่เกะกะบนถนนได้สนุก แคล่วคล่อง และมั่นใจมากขึ้นครับ

จุดที่จะติ ด้านการขับขี่ หายากครับ