โตโยต้าเรียกคืน2แสนคัน

โตโยต้าเรียกคืน2แสนคัน

"โตโยต้า" เรียกรถกว่า 6 ล้านคันทั่วโลกเปลี่ยนอะไหล่ หลังตรวจพบความบกพร่อง "วุฒิกร" ระบุ ประเทศไทยมีรถเข้าข่ายรับการแก้ไขกว่า 2 แสนคัน

โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น เรียกรถกว่า 6 ล้านคันทั่วโลกเปลี่ยนอะไหล่ หลังตรวจพบความบกพร่องเกี่ยวกับพวงมาลัย ระบบสายไฟ ถุงลม หวั่นก่อให้เกิดอุบัติเหตุ "วุฒิกร" ระบุ ประเทศไทยมีรถเข้าข่ายรับการแก้ไข 3 รุ่น กว่า 2 แสนคัน เตรียมส่งจดหมายถึงลูกค้าแจ้งนำรถเข้ารับบริการฟรี ด้าน ปอร์เช่ เตรียมเปลี่ยนเครื่องยนต์ใหม่ 911 จีที รุ่น ปี 2014 ทุกคัน หลังเกิดเหตุไฟไหม้

นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า โตโยต้าจะเรียกรถ (Recall) โตโยต้า ไฮลักซ์ วีโก้, โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ และ โตโยต้า อินโนวา ที่จำหน่ายในประเทศไทย ระหว่างปี 2547- 2553 เข้ามารับการเปลี่ยนชุดประกอบสายไฟที่เชื่อมต่อถุงลมนิรภัย (Spiral Cable) หลังจากตรวจพบความผิดปกติของชุดสายไฟดังกล่าวที่อาจส่งผลให้สัญญาณเตือนถุงลมนิรภัยแสดงบนหน้าปัด จำนวนทั้งสิ้นประมาณ 206,000 คัน โดยบริษัทจะส่งจดหมายแจ้งไปยังลูกค้ากลุ่มดังกล่าว ให้เข้ามารับบริการเปลี่ยนอุปกรณ์ที่ศูนย์บริการของผู้แทนจำหน่ายทั่วประเทศ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

“เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง บริษัทขอย้ำว่า คำว่า รีคอล หมายถึง การแจ้งลูกค้าให้นำรถยนต์เข้ามาตรวจสอบ แก้ไข ที่ผู้แทนจำหน่ายโตโยต้า โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ ถือเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อคุณภาพผลิตภัณฑ์ เป็นไปตามมาตรฐานของโตโยต้าในการเอาใจใส่ และรับผิดชอบต่อลูกค้า เพื่อให้เกิดความมั่นใจในการใช้รถยนต์ ดังนั้น คำว่า รีคอล ไม่ได้หมายถึงการเรียกรถคืนแต่อย่างใด”

ยันไม่เคยพบปัญหาในไทย

นายวุฒิกร กล่าวว่า สำหรับการรีคอลรถของโตโยต้า ประเทศไทย เกิดขึ้นหลังจากที่วานนี้ (9 เม.ย.) บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น บริษัทแม่ตรวจพบความผิดปกติ แม้ว่าปัญหาดังกล่าวจะยังไม่เคยเกิดขึ้นกับลูกค้าในประเทศไทยก็ตาม

สำหรับการเรียกรถกลับไปแก้ไขข้อบกพร่องครั้งนี้ ถือว่าเป็นครั้งใหญ่ที่สุด มีจำนวนมากกว่าปี 2555 ที่มีการเรียกรถทั้งสิ้น 160,307 คัน จาก 4 รุ่น คือ คัมรี่, โคโรลล่า, วีออส และ ยาริส รุ่นที่ผลิตระหว่างเดือนก.พ. 2549- ธ.ค. 2551 เพื่อแก้ไขสวิตช์กระจกไฟฟ้าที่เกิดความฝืด และอาจจะทำให้จาระบีเสื่อมสภาพ ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการเกิดไฟไหม้ได้ ซึ่งเป็นไปตามการเรียกตรวจสอบของโตโยต้า ทั่วโลก 7.43 ล้านคัน

ทั่วโลก 6.3 ล้านคัน

ทั้งนี้ โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ผู้ผลิตรถรายใหญ่ที่สุดในโลก แถลงที่กรุงโตเกียว ว่า บริษัทกำลังเรียกรถ 6.39 ล้านคันทั่วโลก กลับมารับการแก้ไข เพราะอาจมีข้อบกพร่องเกี่ยวกับพวงมาลัย และชิ้นส่วนอื่นๆ โดยรุ่นที่เรียกคืนมี 27 รุ่น รวมถึง ยาริส ทาโคมา และ รถอเนกประสงค์ ราฟ-4

นอกจากนั้น ยังมีการเรียกรถรุ่นปอนเตียก ไวบ์ และ ซูบารุ เทรเซีย ซึ่งเป็นรุ่นที่โตโยต้าผลิตให้กับ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส จำกัด หรือ จีเอ็ม และ บริษัท ฟูจิ เฮฟวี อินดัสตรีส์ จำกัด ด้วย

ตลาดที่มีการเรียกรถกลับไปแก้ไข ประกอบไปด้วย อเมริกาเหนือ ญี่ปุ่น ยุโรป และออสเตรเลีย การเรียกคืนครั้งนี้นับว่าเป็นการเรียกคืนใหญ่สุดเป็นครั้งที่ 2 ของ โตโยต้าภายในวันเดียว หลังจากเคยมีการเรียกคืนรถ 7.43 ล้านคัน ไปเมื่อปี 2555

ในจำนวนรถทั้งหมด ประมาณ 3.5 ล้านคัน จะได้รับการเปลี่ยนชุดประกอบสายไฟที่เชื่อมต่อถุงลมนิรภัยฝั่งคนขับ จำนวนรองลงมา คือ การเปลี่ยนรางเบาะที่นั่งสำหรับรถรุ่น 3 ประตู และท้ายสุดมีการเรียกไปแก้ไขกรณีพวงมาลัยอาจบกพร่อง

ทั้งนี้ รถรุ่น 3 ประตู คือ รุ่นที่ผลิตระหว่างเดือนม.ค. 2548 - ส.ค. 2553 โดยเรียกกลับไปเพื่อตรวจสอบเพราะรางเบาะนั่งอาจทำให้เบาะเลื่อนไปข้างหน้าได้ ในช่วงที่เกิดการชน

สำหรับรถรุ่นแร็คติสในญี่ปุ่นจำนวน 160,000 คัน ถูกเรียกกลับไปเปลี่ยนมอเตอร์ที่ปัดน้ำฝน

แถลงการณ์ของโตโยต้า ยืนยันว่ายังไม่มีรายงานการเกิดอุบัติเหตุ การบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต จากความบกพร่องต่างๆ เหล่านี้ และไม่ได้ระบุว่าค่าใช้จ่ายจากการแก้ไขครั้งนี้จะมีมูลค่าเท่าใด และยังไม่มีความชัดเจนว่าความบกพร่องที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ มีผลมาจากผู้ผลิตชิ้นส่วนที่ป้อนให้กับโตโยต้า หรือเป็นความบกพร่องที่เกิดจากกระบวนการผลิต

"เราขอโทษลูกค้าสำหรับความไม่สะดวกในครั้งนี้ รวมถึงความวิตกที่เกิดขึ้นจากการประกาศเรียกคืน" แถลงการณ์ระบุ

การเรียกคืนรถจำนวนมากกลายเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบ่อยในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ผลจากการที่บรรดาผู้ผลิตรถยนต์เคลื่อนไหวเพื่อแก้ไขความบกพร่องอย่างรวดเร็ว หลังจากโตโยต้าเคยต้องเรียกคืนรถจำนวนมากเพื่อแก้ไขคันเร่ง และนายอากิโอะ โตโยดะ ประธานโตโยต้า ต้องขึ้นอธิบายต่อสภาสหรัฐ อันเป็นเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อยอดขายและชื่อเสียงของบริษัท

ปอร์เช่ เปลี่ยนเครื่องยนต์หลังไฟไหม้

ขณะเดียวกัน บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่างเป็นทางการในประเทศไทย แถลงการณ์ว่า บริษัทแม่ที่สตุทการ์ท เยอรมนี ได้ประกาศเปลี่ยนเครื่องยนต์ใหม่ให้กับรถยนต์ 911 จีที 3 รุ่นปี 2014 ทุกคันทั่วโลก ทั้งที่ส่งมอบให้ลูกค้าไปแล้วจำนวนทั้งสิ้น 785 คัน และรถที่ยังไม่ได้ส่งมอบ หลังจากที่ก่อนหน้านี้รถรุ่นดังกล่าวเกิดเหตุไฟไหม้เครื่องยนต์ในรถ 2 คัน

ทั้งนี้ ปอร์เช่ ได้วิเคราะห์ปัญหาเป็นการภายใน และพบว่าความเสียหายของเครื่องยนต์เกิดขึ้นจากการคลายตัวของสกรูและนอต ที่ยึดบริเวณก้านสูบกับเพลาข้อเหวี่ยง เป็นเหตุให้ก้านสูบหลุดออกไปกระแทกกับเสื้อสูบ และทำให้เสื้อสูบเกิดการเสียหาย ส่งผลให้มีน้ำมันรั่วเกิดขึ้นจนกระทั่งเครื่องยนต์เกิดไฟลุกไหม้ขึ้น

แก้ปัญหานอตคลายตัว

หลังจากเกิดเหตุการณ์ทั้ง 2 ครั้ง ทาง ปอร์เช่ ตัดสินใจปฏิบัติการเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาจากอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับลูกค้าได้ ด้วยการแจ้งคำเตือนถึงปัญหาต่อเจ้าของรถทั้ง 785 คัน และหลังจากนั้นจะเตรียมดำเนินการนำรถจากลูกค้ากลับเข้าศูนย์ปอร์เช่โดยทันทีเพื่อเปลี่ยนเครื่องยนต์ใหม่ทั้งหมด ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ที่มีสกรูป้องกันการคลาย (optimized screw fittings) ติดตั้งมาด้วย

"ศูนย์ปอร์เช่ที่เกี่ยวข้องจะติดต่อโดยตรงกับเจ้าของรถยนต์ปอร์เช่ทั่วโลก เพื่อหารือเกี่ยวกับขั้นตอนการปฏิบัติการต่อไป"