เปิดสเปก นิสสัน X-Trail พ่วง e-Power e-4ORCE หวนคืนตลาดประเทศไทย

กลับมาทำตลาดอีกครั้งสำหรับ นิสสัน เอ็กซ์เทรล (Nissan X-Trail) ที่นิสสันเคยทำตลาดในประเทศไทย ก่อนที่จะเลิกไปเมื่อหลายปีก่อน 

การกลับมาครั้งนี้จะเป็นการทวงตลาด เอสยูวี ซึ่งเป็นหนึ่งในตลาดรถยนต์ที่ได้รับความนิยมในบ้านเรา แต่ขณะเดียวกันก็มีการแข่งขันที่ดุเดือด ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ญี่ปุ่น และผู้มาใหม่ อย่างรถยนต์จากจีน 

การแข่งขันไม่ได้อยู่ที่เซ็กเมนต์เอสยูวีเท่านั้น แต่ยังมีเรื่องของพลังงาน โดยเฉพาะพลังงานไฟฟ้า หรือ อีวี ที่ปัจจุบันมีรถหลายรุ่นทำตลาด

และอีกหนึ่งสมรภูมิคือ ราคา โดยเฉพาะแบรนด์จีนที่เป็นผู้นำทัพในศึกนี้

อย่างไรก็ตาม การกลับสู่ตลาดประเทศไทยอีกครั้งของ เอ็กซ์-เทรล โฉมใหม่ เจเนอเรชั่นที่ 4 นิสสัน ก็ค่อนข้างมั่นใจกับอาวุธที่ตนเองมี ไม่ว่าจะเป็นการหันมาใช้ขุมพลัง อี-พาวเวอร์ (e-Power) และเทคโนโลยีขับเคลื่อน อี-ฟอร์ซ (e-4ORCE) ที่สร้างชื่อเสียงให้กับนิสสันไม่น้อยก่อนหน้านี้ 

พูดถึงจุดขายแรกกันก่อน อี-พาวเวอร์ ต้องยอมรับว่าปัจจุบันลูกค้าให้การยอมรับ หลังจากที่นิสสันบุกเบิกกับ คิกส์  และมาตอกย้ำ ในเซเรน่า อี-พาวเวอร์ ที่มีกระแสตอบรับน่าพอใจในขณะนี้ 

และช่วงนี้ อี_พาวเวอร์ จะได้ผลดีอีกอย่าง เมื่อรัฐประกาศให้รถในกลุ่ม REEV (Range Extended EV) ได้สิทธิเหมือนกับ อีวี เพราะขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100% แม้จะมีเครื่องยนต์อยู่ก็ตาม แต่เครื่องยนต์ไม่ได้ทำหน้าที่ในการขับเคลื่อน

ดังนั้น อี-พาวเวอร์ ซึ่งใช้มอเตอร์ขับเคลื่อน 100% เช่นเดียวกัน จึงได้สิทธิไปด้วย ดังนั้นเมื่อนิสสันนำเข้ารถรุ่นนี้จากญี่ปุ่น จึงได้สิทธิภาษีนำเข้าเหมือนกับอีวี คือ 20% แต่หากไม่ได้สิทธิจะต้องเสีย 80%

แม้จะยังสูงกว่า REEV ที่นำเข้าจากจีนซึ่งเสีย 0% แต่ก็ยังดีกว่าที่จะต้องเสียเต็ม

 

อี-ฟอร์ซ (e-4ORCE)

ขณะที่เทคโนโลยี อี-ฟอร์ซ (e-4ORCE) เป็นการผสานการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้าคู่หน้า-หลัง และระบบเบรก แบบ All in Control ทำให้ช่วยควบคุมล้อทั้ง 4 ได้อิสระ ช่วยให้รถมีเสถียรภาพการทรงตัวที่ดีกว่า

อี-ฟอร์ซ นั้นนิสสัน ออกแบบมาสำหรับรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% และขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี อี-พาวเวอร์ เกิดจากการผสานเทคโนโลยี Intelligent AWD ที่นิสสันพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับการใช้งานตั้งแต่การขับขี่ในชีวิตประจำวัน การขับขี่ทางไกล การขับขี่ถนนคดเคี้ยวหรือพื้นผิวลื่น

การทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้าคู่หน้า-หลัง แยกกันอิสระ และใช้ชุดควบคุมคำนวณแรงขับเคลื่อนที่เหมาะสมกับการขับขี่ ทั้งช่วงเลี้ยว เร่ง และการเบรกตามการควบคุมของผู้ขับ พร้อมทั้งระบบควบคุมเบรกซ้าย-ขวาที่แม่นยำ เพื่อให้แรงขับเคลื่อนทั้ง 4 ล้อทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ 

นิสสันระบุว่าระบบนี้จะแตกต่างจากระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบทั่วไปที่จำกัดการกระจายแรงไว้ที่ 50:50 แต่ อี-ฟอร์ซ สามารถปรับแรงขับเคลื่อนระหว่างล้อหน้าและหลังได้อย่างอิสระ ตั้งแต่ 100:0 ถึง 0:100 และเมื่อผสานการทำงานกับระบบควบคุมเบรก ล้อซ้ายและขวาก็สามารถปรับแรงได้ด้วยความเร็วและความแม่นยำสูง

และคุณสมบัติพิเศษของมอเตอร์ไฟฟ้าที่ควบคุมแรงบิดได้อย่างแม่นยำตามการเหยียบคันเร่งทำให้รถออกตัวได้อย่างนุ่มนวลและราบรื่น แม้ว่าจะเป็นออกตัวบนพื้นผิวที่ลื่น เช่น ทางเปียกหรือน้ำท่วมขังที่ระบบยังตรวจจับการลื่นไถลของแต่ละล้อได้อย่างรวดเร็ว พร้อมปรับแรงบิดในแต่ละล้อเพื่อรักษาการทรงตัว และเพิ่มประสิทธิภาพการยึดเกาะถนน 

เทคโนโลยี อี-ฟอร์ซ สามารถประเมินสภาพถนน และลักษณะการขับขี่ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา พร้อมคำนวณแรงยึดเกาะและปรับแรงขับในแต่ละล้อเคลื่อนให้เหมาะสมกับการเลี้ยว การเร่ง และการเบรกตามการควบคุมของผู้ขับ เพื่อรักษาสมดุลและความมั่นคงในการควบคุมทิศทาง

รวมถึงเส้นทางโค้งคดเคี้ยวบนภูเขาที่จะช่วยลดการโคลงตัว ด้วยการทำงานร่วมกันของมอเตอร์หน้า และหลังในระบบเบรกแบบสร้างพลังงานกลับคืน (Regenerative Braking) ที่จะช่วยชะลอความเร็วอย่างสมดุล พร้อมควบคุมแรงเบรกอัตโนมัติ ทำให้รถทรงตัวดี ไม่เสียอาการเหมือนเบรกด้วยล้อหน้าเพียงอย่างเดียว ลดแรงเหวี่ยงและการโยกศีรษะของผู้โดยสาร มอบความนุ่มนวลและมั่นใจในทุกการขับขี่

ทั้งนี้นิสสัน เอ็กซ์เทรล อี-พาวเวอร์ ใหม่ เทคโนโลยี อี-ฟอร์ซ มี 5 โหมดการขับขี่ให้เลือกใช้งาน ได้แก่ Auto, Eco, Sport, Off-Road และ Snow (สำหรับถนนเปียก/ลื่น) และยังมีโหมด Down Hill Assist ควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อลงทางลาดชัน หรือ Descent Control System (DCS)

 

อี-พาวเวอร์ (e-POWER)

ด้านเทคโนโลยี อี-พาวเวอร์ มาพร้อมเครื่องยนต์ KR15DDT แบบ 3 สูบเรียง 12 วาล์ว DOHC ความจุ 1,497 ซีซี เทอร์โบชาร์จ เทคโนโลยี Variable Compression Ratio (VC) 

• กำลังสูงสุด 144 แรงม้า (PS) ที่ 4,400 – 5,000 รอบ/นาที 
• แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตรที่ 2,400 – 4,000 รอบ/นาที 

ด้านพลังงานไฟฟ้า

• มอเตอร์ไฟฟ้าหน้ารหัส BM 46 แรงบิดสูงสุด 330 นิวตันเมตร ที่ 0 – 3,505 รอบ/นาที 
• มอเตอร์ไฟฟ้าด้านหลังรหัส MM48 แรงบิดสูงสุด195 นิวตันเมตร ที่ 0 – 4,897 รอบ/นาที
• แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาดใหญ่ 1.85 kWh

ระบบกันสะเทือนหน้าแบบอิสระ (Independent Front Suspension) ด้านหลังอิสระแบบมัลติลิงก์ (Independent Multi-Link Rear Suspension) ระบบเบรกเป็นดิสก์เบรกทั้งด้านหน้าและด้านหลัง

พวงมาลัยแบบ Rack and Pinion ผ่อนแรงด้วยไฟฟ้า (Electric Power Steering: EPS) ปรับได้ 4 ทิศทาง

ด้านการออกแบบ นิสสัน เอ็กซ์-เทรล เจเนอเรชั่นที่ 4 เน้นอารมณ์สปอร์ต ด้วยเส้นสายที่ชัดเจน กระจังหน้าแบบ ดับเบิล วี-โมชั่น (Double V-Motion) แบบสามมิติแรงบันดาลใจจากงานหัตถศิลป์ญี่ปุ่นดั้งเดิม หรือ “คุมิกิ” (Kumiki) ซึ่งเป็นศิลปะการต่อไม้แบบสาน ช่วยเสริมความหรูหรา และตกแต่งตัวถังด้วยโครเมียม

ไฟหน้า LED พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวัน (Daytime Running Lights) เรียวบาง พร้อมไฟตัดหมอกหน้า กระจกมองข้างพับได้ด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมไฟเลี้ยวในตัว ราวหลังคาเพิ่มความอเนกประสงค์และความสามารถในการบรรทุกสัมภาระ

การออกแบบภายใน คอนโซลกลางแบบลอยตัวมาพร้อมช่องวางของด้านล่าง ที่วางแขนแบบ Butterfly สามารถเปิด-ปิด ได้ทั้งซ้าย และขวา ทำให้หยิบของได้ง่ายรวมถึงผู้นั่งเบาะแถวสอง วัสดุหุ้มเดินตะเข็บสองแถว ติดตั้งชุดควบคุมระบบเกียร์ไฟฟ้า เบรกไฟฟ้า ปุ่มเลือกโหมดการขับขี่

หน้าจอ TFT ขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว พร้อม Advanced Drive-Assist® Display และ Heads-Up Display ขนาด 10.8 นิ้ว ระบบสั่งงานด้วยเสียงควบคุมฟีเจอร์ต่างๆ ได้อย่างมั่นใจโดยไม่ต้องละมือจากพวงมาลัย

ระบบเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน  Android Auto และ Wireless Apple CarPlay ไฟ Ambient Light 

เบาะ 7 ที่นั่ง 3 แถว เบาะนั่งขนาดใหญ่โอบกระชับสรีระ บุด้วยหนังแท้คุณภาพพรีเมียมสีดำ โดยเบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้า 10 ทิศทาง พร้อมระบบดันหลังปรับไฟฟ้าได้ 2 ระดับ

เบาะแถวที่ 2 และแถวที่ 3 ปรับได้หลายรูปแบบ เบาะนั่งแถวสองสามารถแยกพับ ได้แบบ 40:20:40 และมีช่องหรือที่วางแขนตรงกลางแบบพับแยกได้ เบาะนั่งแถวสามนั่งได้ 2 คน 

พื้นที่เก็บสัมภาระท้ายรถจุ 485 ลิตร และยังขยายเพิ่มพื้นที่วางของได้เมื่อพับเบาะหลัง

ประตูหลังเปิดกว้าง 85 องศา ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์หนึ่งเดียวในรถยนต์ประเภท เอสยูวี ทำให้การเข้า-ออก ง่าย รวมถึงการติดตั้งเบาะเด็ก หรือจัดวางสัมภาระและกระเป๋าขนาดใหญ่ที่เบาะหลังได้ง่ายมากยิ่งขึ้น

ระบบปรับอากาศ 3 โซน ม่านบังแดด ผู้โดยสารแถวที่ 2  กระจกมองหลังปรับลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ ระบบเสียง Premium Bose  Sound System ลำโพง 9 ดอก หลังคาพาโนรามิก ซันรูฟ บานใหญ่พร้อมม่านบังแดด ไฟฟ้า

ประตูท้ายไฟฟ้าเปิดปิดแบบแฮนด์ฟรี ให้ความสะดวกในการเปิดปิดแม้มือไม่ว่างหรือถือของเต็มมืออยู่

 

ส่วนมิติตัวถัง และน้ำหนักรถ 

• ความยาว 4,680 มม.
• ความกว้าง 1,840 มม.
• ความสูง 1,725 มม.
• ระยะฐานล้อ 2,705 มม.
• ระยะต่ำสุดจากพื้น 195 มม.
• รัศมีวงเลี้ยว 5.4 ม.
• น้ำหนักรถ ประมาณ 1,929 กก.
• ยาง 235/55R19

ด้านระบบช่วยเหลือการขับขี่ความปลอดภัย มาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูงรอบคัน 360° Safety Shield มีฟังก์ชั่นต่าง ๆ ไม่น้อย 

• ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง  
• ระบบเบรก ABS  
• ระบบกระจายแรงเบรก  (EBD) 
• ระบบเสริมแรงเบรก (BA)  
• เบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake) 
• ระบบ Auto Brake Hold
• สัญญาณเตือนระยะจอดด้านหน้าและด้านหลัง
• ระบบกุญแจ Immobilizer 
• สัญญาณกันขโมย 
• จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก ISOFIX และ ระบบป้องกันเด็กเปิดประตูหลังจากภายในรถ 
• ไฟเบรกดวงที่สาม ระบบไฟเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (ESS)
• 360˚ Safety Shield เทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ
• ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวอัตโนมัติ (VDC)
• ระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA)
• ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (DCS)
• ระบบช่วยเตือนก่อนการชนด้านหน้า (IFCW)
• ระบบช่วยเบรกฉุกเฉิน (IEB)
• ระบบเตือนเมื่อเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (DAA)
• ระบบกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง (IAVM) 
• ระบบเตือนวัตถุเคลื่อนไหวรอบคัน (MOD)
• ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติอัจฉริยะ  (ICC)
• ระบบเตือนจุดอับสายตา (BSW)
• ระบบเตือนขณะถอยรถ (RCTA)
• ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง (LDW)
• ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ  (HBA)
• ระบบตรวจสอบแรงดันลมยางอัตโนมัติ (TPMS)

นิสสัน เอ็กซ์เทรล อี-พาวเวอร์ มีให้เลือก 6 สี ได้แก่ 

• สีดำ Diamond Black 
• สีขาว Storm White 
• สีเทา Gun Metallic 
• สีขาวหลังคาดำ Storm White with Black Roof 
• สีแชมเปญ ซิลเวอร์ หลังคาดำ Champagne Silver with Black Roof 
• สีเทาหลังคาดำ Stealth Grey with Black Roof

 

การเปิดตัว เอ็กซ์เทรล อี-พาวเวอร์ เจเนอเรชั่น 4 นิสสัน มีข้อเสนอประกอบด้วย

• รับประกันตัวรถ: 5 ปีหรือ 150,000 กิโลเมตร
• รับประกันระบบ อี-พาวเวอร์: 5 ปีหรือ 150,000 กิโลเมตร
• รับประกันแบตเตอรี่: 10 ปี ไม่จำกัดระยะทาง (สำหรับแบตเตอรี่ในระบบอี-พาวเวอร์)

ราคาจำหน่าย 1,699,000 บาท