นิสสันขนทัพรถโชว์งาน JMS 'Elgrand ใหม่' ตัวความหวังฟื้นตลาด นำทีม

งาน Japan Mobility Show 2025 หรือ JMS ที่เปลี่ยนชื่อมาจากโตเกียว มอเตอร์โชว์ เมื่อหลายปีก่อน เตรียมเปิดฉากปลายเดือนตุลาคมนี้ที่ โตเกียว บิ๊กไซต์

โดยนิสสัน มอเตอร์ ที่ช่วงที่ผ่านมา มีสถานการณ์ธุรกิจที่ไม่ค่อยดีนัก ประกาศความพร้อมในงาน ขนรถหลากหลายรุ่นรวมแสดง รวมถึง Elgrand (เอลแกรนด์) โฉมใหม่ และ Ariya รุ่นล่าสุด ความหวังสนุนการฟื้นตัวของตลาดรถยนต์ในญี่ปุ่น

นิสสันระบุว่า นิสสันกำหนดทิศทางอนาคตของการเดินทาง โดยจะจัดแสดงรถยนต์และเทคโนโลยีนวัตกรรม ที่สะท้อนวิสัยทัศน์ของบริษัทในการสร้างอนาคตที่ชาญฉลาดและยั่งยืนยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ภายใต้แผนกลยุทธ์ “Re:Nissan” นิสสันมุ่งมั่นในพันธกิจที่จะกำหนดนิยามใหม่ของการเดินทาง ขณะที่ญี่ปุ่นในฐานะตลาดบ้านเกิดจะมีบทบาทสำคัญในวิสัยทัศน์นี้ 

ซึ่งในงานจะเน้นถึงวิธีการที่ นิสสันกำลังฟื้นฟูกลุ่มผลิตภัณฑ์ด้วยรถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดที่สะท้อนจิตวิญญาณของแบรนด์ ควบคู่ไปกับข้อเสนอพิเศษที่พัฒนาร่วมกับพันธมิตรเชิงกลยุทธ์เพื่อตอบสนองต่อความชื่นชอบ และความต้องการของลูกค้าในแต่ละพื้นถิ่น

 

เปิดตัว Elgrand ใหม่ 

วันที่ 29 ตุลาคม ซึ่งเป็นรอบสื่อมวลชนนิสสันจะจัดแสดงรถยนต์นิสสัน เอลแกรนด์ ใหม่ และรถยนต์ครอสโอเวอร์ อีวี Nissan Ariya รุ่นปรับโฉมใหม่ 

สำหรับ Nissan Elgrand ซึ่งปัจจุบันเป็นเจเนอเรชั่นที่ 4 เป็นหนึ่งในรถรุ่นหลักของนิสสันที่จำหน่ายในญี่ปุ่นต่อเนื่องเกือบ 30 ปีมาพร้อมระบบขับเคลื่อนเทคโนโลยี e-POWER เจเนอเรชั่นที่ 3 โดยจะพร้อมเริ่มต้นจำหน่ายในญี่ปุ่นในปีหน้า

นิสสันระบุว่า Elgrand มีความโดดเด่นทั้งด้านดีไซน์ที่หรูหราและทรงพลังมากขึ้น และเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยขั้นสูง ความสะดวกสบาย รองรับการเดินทางของครอบครัว

ส่วน Ariya รุ่นปรับโฉมใหม่ ซึ่งจะวางขายที่ญี่ปุ่นปลายปีนี้ จะเปิดตัวสู่สาธารณชนอย่างเป็นทางการ โดยครอสโอเวอร์อีวีรุ่นนี้ มาพร้อมระบบอินโฟเทนเมนท์จาก Google และฟังก์ชัน Vehicle-to-Load (V2L) และการอัพเกรดช่วงล่างที่ออกแบบมาเพื่อการขับขี่ในญี่ปุ่นโดยเฉพาะ

นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายรุ่นร่วมจัดแสดง ตั้งแต่ kei-car ขนาดกะทัดรัด Roox รุ่นใหม่ ไปจนถึงเอสยูวี อย่าง  Patrol 

รวมถึง Skyline 400R Limited Edition ปี 2026 ที่กำลังจะมาถึง, X-Trail รุ่น Rock Creek และ Fairlady Z

โชว์ศักยภาพ อีวี 

ภาพรวมการจัดแสดง นิสสันจะให้ความสำคัญกับยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าอย่างเต็มรูปแบบ เช่น 

• Nissan Leaf เจเนอเรชั่นที่ 3 ซึ่งเป็นรุ่นใหม่ล่าสุด  
• Micra  อีวี ที่พัฒนาสำหรับตลาดในยุโรป 
• N7 ซีดาน อีวี ที่ผลิตในจีนด้วยความร่วมมือกับพันธมิตร ซึ่งจะแสดงให้เห็นถึงความร่วมมือของนิสสันในการนำเสนอนวัตกรรมใหม่ของยานยนต์ไฟฟ้า ที่พร้อมตอบโจทย์ความชื่นชอบและความต้องการเฉพาะของแต่ละภูมิภาคได้ดียิ่งขึ้น

นิสสันบอกกว่าเรื่องของพลังงานไฟฟ้าเป็นสิ่งสำคัญ และนิสสันมองว่าความเป็นไปได้ของการใช้พลังงานไฟฟ้านั้นไม่ได้จำกัดอยู่แค่บนท้องถนนเท่านั้น ดังนั้นนิสสันจึงจัดแสดงรถแข่งฟอร์มูล่า อี แชมป์เปี้ยนประเภทนักแข่ง ซึ่งคว้าชัยชนะในการแข่งขันจากฤดูกาลที่ 11 (2024/2025) เพื่อตอกย้ำศักยภาพด้านการแข่งขัน และนวัตกรรมใหม่ ๆ 

ภายในบูธนิสสันยังนำเสนอประสบการณ์ Nissan Energy แบบอินเทอร์แอคทีฟ ที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของรถยนต์ไฟฟ้าในการจัดการพลังงาน โดยผู้เข้าชมสามารถสำรวจโซลูชันต่าง ๆ เช่น ระบบ Vehicle-to-Home (V2H) และ Vehicle-to-Load (V2L)

รวมถึงนำเสนอรถยนต์ต้นแบบสำหรับบริการการขับเคลื่อนอัตโนมัติ ซึ่งพัฒนาจากรถมินิแวน Nissan Serena รถคันนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการนำร่องที่จะเริ่มต้นในเดือนพฤศจิกายน ใกล้กับสำนักงานใหญ่ของนิสสันในเมืองโยโกฮามา โดยมีเป้าหมายที่การแก้ไขปัญหาด้านการขนส่งสำหรับผู้สูงอายุ