โตโยต้า เพิ่มลุค พรีเมียม INNOVA อัพเกรดเครื่องยนต์ ยูโร 6

Toyota INNOVA Zenix (อินโนวา ซีนิกซ์) เป็น อินโนวา เจเนอเรชั่นที่ 3 เปิดตัวในปี 2566 โดยมันเปลี่ยนแปลงอะไรหลายอย่าง อย่างแรกคือ ไม่ได้เป็นรถที่พัฒนาขึ้นด้วยการครอบตัวถังลงไปบนแชสซีส์ ปิกอัพ เหมือนกับ เจนฯ แรก ที่เปิดตัวในปี 2547

ซึ่งครั้งนั้นอินโนวา เป็นหนึ่งในโครงการ IMV หรือ Innovative International Multi Purpose Vehicle ของโตโต้าที่พัฒนารถ 3 รูปแบบ บนเแชสซีส์เดียวกัน คือ ปิกอัพ เอ็มพีวี อย่างอินโนโวา และพีพีวี สปอร์ตไรเดอร์

และเจนฯ  2 ก็ยังคงยึดแนวทางเดียวกัน ก่อนที่ เจนฯ 3 จะเปลี่ยนแปลงชัดเจน เป็นโครงสร้างโมโนค็อค และเป็นการนำเข้าจากอินโดนีเซีย ไม่ได้ผลิตในไทยเหมือน เจนฯ ก่อนหน้า

โตโยต้า อินโนวา เจนฯ 3 เปิดตัว  2 รุ่น คือ

• 2.0 HEV Smart ราคา 1,379,000 บาท
• 2.0 HEV Premium ราคา 1,479,000 บาท

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา อินโนวา มีตลาดที่ค่อนข้างเงียบ ทั้งที่จัดเป็นรถที่คนที่ได้สัมผัสแล้วชื่นชอบ ทั้งการขับขี่ที่เป็นรถที่ขับได้ดีเลยทีเดียว และความสะดวกสบายในการใช้งานกับรถแบบ 6 ที่นั่งและ 7 ที่นั่ง 

ล่าสุดโตโยต้า เติมความสดใหม ทั้งปรับแต่งดีไซน์ภายนอกให้ดูพรีเมียมยิ่งขึ้น และปรับเปลี่ยนรายละเอียด รวมถึงเพิ่มอุปกรณ์บางอย่างเข้าไป โดยยังมีจำหน่าย 2 รุ่นย่อย เช่นเดิม โดยรายละเอียดสิ่งที่ปรับเปลี่ยน และออปชั่นที่เพิ่มเติม โดยจำหน่ายราคาเดิม ประกอบด้วย 

HEV SMART ราคา 1,379,000 บาท 

สิ่งที่ปรับเปลี่ยน และเพิ่มเติม

• เครื่องยนต์มาตรฐานไอเสียยูโร 6
• ชุดตกแต่งด้านหน้า ด้านข้าง และด้านหลัง ปลายท่อสเตนเลส
• อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger)
• กล้องวิดีโอบันทึกภาพติดรถยนต์ (DVR) ด้านหน้าและด้านหลัง

ส่วนออปชั่นเด่น ๆ ที่มีอยู่แล้ว ประกอบด้วย 

• ล้ออัลลอย 18 นิ้ว
• ไฟหน้า ไฟท้าย LED
• วัสดุหุ้มเบาะ หนังสังเคราะห์สีดำ
• จอแสดงผลข้อมูลผู้ขับขี่ แบบสี TFT ขนาด 7 นิ้ว
• เบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง
• เบาะนั่งผู้โดยสารแถวสอง Captain Seat พร้อม โต๊ะส่วนตัวแบบพับได้
• เบรกมือไฟฟ้า (EPB) ระบบหน่วงเบรกอัตโนมัติ (AHB)
• ประตูท้ายเปิด-ปิด อัตโนมัติด้วยระบบไฟฟ้า พร้อม Kick Activated
• หน้าจอสัมผัสขนาด 10.1 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay แบบไร้สาย และ Android Auto

• ระบบเชื่อมต่อ T-Connect
• ถุงลม 6 ตําแหน่ง คู่หน้า / ด้านข้างคู่หน้า / ม่านด้านข้าง
• กล้องมองภาพขณะถอยหลัง สัญญาณเตือนกะระยะ 8 ตำแหน่ง
• ระบบเตือนมุม อับสายตาที่กระจกมองข้าง (BSM) พร้อมช่วยเตือนขณะถอยรถ (RCTA)
• ระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense
• ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Dynamic Radar Cruise Control แบบ All-Speed 
• ระบบลดความเร็วอัตโนมัติขณะเข้าโค้ง
• ระบบความปลอดภัยก่อนการชน (PCS)
• ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน (LDA) พร้อมหน่วงกลับ
• ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (AHB)

HEV PREMIUM ราคา 1,489,000 บาท ปรับเปลี่ยนและเพิ่มเติมอุปกรณ์เช่นเดียวกัน แต่มีออปชั่นที่เพิ่มเติมจาก รุ่น 2.0 HEV Smart (มีอยู่แล้ว) ประกอบด้วย

• หลังคามูนรูฟแบบ Panoramic
• เบาะนั่งแถว 2 ปรับไฟฟ้าแบบ Captain Seat เบาะรองน่องปรับไฟฟ้า Ottoman  โต๊ะส่วนตัวพับได้
• ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย หรือ Paddle Shift
• กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ
• กล้องมองรอบคัน Panoramic View Monitor ซึ่งนำมาทดแทนกล้องมองภาพขณะถอยหลัง

สำหร้ับ INNOVA ZENIX ขับเคลื่อนด้วยระบบไฮบริด ประกอบด้วยเครื่องยนต์ไฮบริด 2.0 ลิตร กับมอเตอร์ไฟฟ้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ E-CVT ให้กำลังแรงสูงสุด 186 แรงม้า อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 20.8 กม./ลิตร (อ้างอิงจาก ECO Sticker)

INNOVA ZENIX มีสีตัวถังภายนอก 3 สี จับคู่กับภายในสีดำ ประกอบด้วย

• สีขาว Platinum White Pearl (เพิ่ม 10,000 บาท)
• สีดำ Attitude Black Mica 
• สีเงิน Silver Metallic

 

ส่วนเงื่อนไขการซื้อขายสำหรับผู้ที่ซื้อในเดือนกันยายน มี 2 ทางเลือก ให้ลูกค้าเลือก คือ

• ดอกเบี้ยพิเศษ 1.79% สำหรับการดาวน์ 25% ขึ้นไป ผ่อน 48 เดือน ผ่นโตโยต้าลีสซิ่ง,ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด(มหาชน),ธนาคารทหารไทยธนชาต,ธนาคารทิสโก้ และ ลิสซิ่งกสิกรไทย
• ประกันภัยชั้นหนึ่ง Toyota Care PHYD

ส่วนข้อเสนอสำหรับกลุ่มอาชีพพิเศษ

• ดาวน์เริ่มต้น 0%
• ไม่ต้องมีผู้ค้ำประกัน
• ส่วนลดดอกเบี้ยพิเศษ สูงสุด 0.5%

 

นอกจากนี้ โตโยต้ายังนำเสนอชุดแต่งให้ลูกค้าเลือกซื้อ โดยรับประกันสูงสุด 3 ปี หรือ 100,000 กม. ประกอบด้วย 

• คิ้วกระจังหน้า 2,150 บาท
• คิ้วตกแต่งซุ้มล้อโครเมียม 2,900 บาท
• คิ้วกันกระแทกประตูโครเมียม 6,990 บาท
• แผงบังแดดข้าง 2,500 บาท
• คิ้วประตูหลังโครเมียม 3,500 บาท
• กล้องบันทึกภาพด้านหน้าและหลัง (รุ่น 4K) 7,000 บาท