นิสสัน ไฮเปอร์ พังก์” EV ต้นแบบ 'โลกจริง-โลกเสมือน'

ฝั่งนิสสัน เตรียมจัดแสดงหลายๆ อย่าง ในงาน Japan Mobility Show 2023 หนึ่งในนั้นคือรถยนต์พลังงานไฟฟ้าหรือ อีวี (EV) ต้นแบบ “นิสสัน ไฮเปอร์ พังก์” (Nissan Hyper Punk)

ช่วงนี้ใครเที่ยวญี่ปุ่น และเดินผ่านชินชูกุ ก็คงจะได้เห็น นิสสัน ไฮเปอร์ พังก์ และเพื่อน คอนเซ็ปต์ คาร์ อีวี อีก 3 รุ่น โดดเด่นอยู่บนป้ายโฆษณาดิจิทัล 3 มิติ ที่ “Cross Shinjuku Vision” 

และตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคม รถยนต์ไฟฟ้าต้นแบบก็จะไปปรากฏโฉมในเกมออนไลน์ “Fortnite”* ภายใต้ชื่อ “Electrify the World” เพื่อสร้างความบันเทิงและให้ข้อมูลสำหรับผู้ที่สนใจ

สำหรับ นิสสัน ไฮเปอร์ พังก์ เป็นรถที่มีรูปลักษณ์เน้นประโยชน์ใช้สอยและมีสไตล์ เป็นรถยนต์ในรูปแบบตัวถังครอสโอเวอร์ มีขนาดกะทัดรัด ที่นิสสันบอกว่าเหมาะสำหรับผู้สร้างคอนเทนต์ อินฟลูเอนเซอร์ ศิลปิน รวมถึงผู้ที่มีสไตล์และหลงใหลในนวัตกรรม

ด้วยการพัฒนาให้เป็นรถที่มีด้วยคุณสมบัติการเชื่อมต่อระหว่างโลกเสมือนจริงและโลกแห่งความเป็นจริง สร้างแรงบันดาลใจในการแสดงความเป็นตัวตน

โดยนิสสันพัฒนารถรุ่นนี้ให้เป็น V2X หรือ (vehicle-to-everything) ที่ทำให้ผู้ใช้งานสามารถชาร์จอุปกรณ์ระหว่างเดินทางได้ทุกที่ ทุกเวลา และแบ่งปันพลังงานให้กับผู้ร่วมงานและกิจกรรมชุมชนในท้องถิ่น

ขณะที่ภายในห้องโดยสาร องค์ประกอบสไตล์โอริกามิ เป็นการสะท้อนรสนิยมแบบญี่ปุ่น พื้นที่ภายในผสมผสานระหว่างโลกดิจิทัลและศิลปะ 

เช่น กล้องบนรถสามารถจับภาพทิวทัศน์รอบๆ รถ และใช้ AI แปลงเป็นทิวทัศน์สไตล์มังงะ หรือรูปแบบกราฟิก แล้วแต่ความต้องการของเจ้าของรถ จากนั้นจะฉายภาพบนจอแสดงผลสามจอรอบๆ ผู้ขับขี่ 

เป็นการทำให้โลกจริงและโลกเสมือนหลอมรวมเข้าด้วยกัน

ขณะเดียวกันห้องโดยสารออกแบบให้เป็นเหมือนสตูดิโอเคลื่อนที่ สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบไม่สะดุด และสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ และเครื่องมือต่างๆ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลหรือออกแบบผลงานได้ทุกที่ทุกเวลา

นิสสัน ไฮเปอร์ พังก์ ยังมี AI และไบโอเซนเซอร์ที่พนักพิงศีรษะซึ่งสามารถตรวจจับอารมณ์ของผู้ขับขี่ เลือกเพลงและแสงที่เหมาะสมโดยอัตโนมัติ

ส่วนรูปโฉมภายนอกมีพื้นผิวหลายด้านและหลากหลายมุม ซึ่งทำให้ตัวถังสีเงินเปลี่ยนไปตามมุมมองและแสงที่ตกกระทบ ไฟหน้า ไฟท้าย และด้านหลังเน้นให้มีลักษณะหลายมุม และรวมเป็นส่วนเดียวกับตัวรถเพื่อเสริมความโดดเด่น

นิสสันยังระบุว่านอกจากนั้นยังมีผลต่อประสิทธิภาพตามหลักอากาศพลศาสตร์อีกด้วย

โดยตัวรถถูกออกแบบให้มีความเสถียรสูงด้วยระยะโอเวอร์แฮงก์ที่สั้น ติดตั้งล้อขนาดใหญ่ 23 นิ้ว เพิ่มความอเนกประสงค์ในการขับขี่ทั้งในเมือง และออฟโรด