ยอดผลิตรถยนต์มี.ค. 66 โต 4.16% ไตรมาสแรกขยายตัว 5.77% คาดผลิตได้ตามเป้าปีนี้

ยอดผลิตรถยนต์มี.ค. 66 โต 4.16% ไตรมาสแรกขยายตัว 5.77% คาดผลิตได้ตามเป้าปีนี้

ส.อ.ท. เผยยอดผลิตรถยนต์เดือน มี.ค. 2566 อยู่ที่ 79,848 คัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 4.16% รวมการผลิตไตรมาสแรกปีนี้ คาดจะผลิตได้ตามเป้า 1,950,000 คัน แต่ยังต้องติดตามปัจจัยลบใหม่เรื่องวิกฤติธนาคารว่าจะลุกลามเพิ่มขึ้นหรือไม่

นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่ายอดการผลิตรถยนต์ เดือนมี.ค.2566 ทั้งการผลิตเพื่อส่งออกและผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศเติบโตจากการได้รับชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์ ผลิตได้รวมทั้งสิ้น 179,848 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีก่อนหน้า 4.16%  
โดยจำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในไตมาสแรก (ม.ค. - มี.ค. 2566) มีจำนวนทั้งสิ้น 507,787 คัน เพิ่มขึ้น 5.77% จากช่วงเดียวกันปีก่อน 

"ทั้งนี้ ภาพรวมไตรมาสแรกคาดว่าจะผลิตได้ตามเป้า 1,950,000 คัน และอาจผลิตได้ถึง 2 ล้านคัน  อย่างไรก็ตามปัจจัยเสี่ยงใหม่เรื่องวิกฤติสถาบันการเงินในสหรัฐและยุโรป ซึ่งมีความไม่แน่นอนสูงและต้องคอยติดตามสถานการณ์ว่าจะมีการลุกลามและส่งผลต่อกำลังซื้อของประเทศคู่ค้าหรือไม่ รวมทั้งสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์ซึ่งคาดว่าจะมีความตึงเครียดมากยิ่งขึ้น"

สำหรับยอดขายในเดือนมี.ค. 2566 อยู่ที่ 79,943 คัน ลดลงจากปีก่อน 8.37% ส่วนหนึ่งเกิดจากสถาบันการเงินความเข้มงวดของการปล่อยสินเชื่อมากยิ่งขึ้นในสถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบัน โดยเฉพาะยอดจำหน่ายรถกระบะที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด โดยแต่เดือนม.ค. - มี.ค. 2566 มียอดขายรถยนต์รวม 217,073 คัน ลดลงจากปี 2565 ในระยะเวลาเดียวกัน 6.11%

"หนี้ครัวเรือนที่สูงของไทยกดดันกำลังซื้อภายในประเทศโดยรวม ทำให้ช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ พบว่ายอดจำหน่ายรถกระบะในประเทศลดลงทุกเดือน เนื่องจาก 80% เป็นการซื้อผ่านสินเชื่อเช่าซื้อรถ" 

ขณะที่การส่งออกรถยนต์ในเดือนมี.ค. 2566 อยู่ที่ 98,381 คัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 4.84% โดยตั้งแต่เดือนม.ค. – มี.ค. 2566 ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป 273,692 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ในระยะเวลาเดียวกัน 12.57% รวมมูลค่าการส่งออก 168,121.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.62%

"แม้จะกังวลว่าเศรษฐกิจโลกจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกรถยนต์ แต่ยอดจำหน่ายรถยนต์ของประเทศคู่ค้ายังมีทิศทางบวก ซึ่งจากตัวเลขการส่งออกรถยนต์ของไตรมาสแรกของปีนี้ทำให้มั่นใจว่าจะส่งออกได้ตามเป้าที่ 1,050,000 คัน"

อย่างไรก็ตาม ยังมีปัญหาพื้นที่จอดรถยนต์บนเรือขนส่งไม่เพียงพอ และอาจขาดแคลนมากขึ้นในปีนี้เมื่อจีนทีการส่งออกรถยนต์มากขึ้นและขึ้นมาเป็นอันดับที่ 2 ของโลกรองจากญี่ปุ่น แซงการส่งออกจากเยอรมันนีที่ตกไปอยู่อันดับที่ 3 อีกทั้งยังมีแนวโน้มจะขึ้นมาเป็นผู้ส่งออกรถยนต์อันดับหนึ่งในปีนี้ ซึ่งอาจเป็นการแย่งพื้นที่การขนส่งของเรือ  

นอกจากนี้ ความล่าช้าในการส่งสินค้าลงเรือ สำหรับส่งออกไปออสเตรเลียที่มีความเข้มงวดในเรื่องการนำเข้า จะต้องไม่มีการปนเปื้อนของวัชพืชหรือดอกหญ้า ทำให้ต้องล้างรถ และขนส่งล่าช้าไป 5-7 วัน รวมทั้งเป็นการเพิ่มต้นทุนในการขนส่งอีกหลายร้อยล้านบาท ปัจจุบันอัตราการส่งออกรถยนต์ยังอยู่ที่ 95% เท่านั้น
 
ยอดจดทะเบียน EV ป้ายแดงยังพุ่ง
สำหรับยอดรถยนต์ไฟฟ้าประเภทแบตเตอรี่ (BEV) จดทะเบียนใหม่เดือนมี.ค. 2566 ยังเติบโตได้ดี อยู่ที่ 6,205 คัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 878.7% เนื่องจากมาตรการสนับสนุนของภาครัฐที่ทำให้ราคารถยนต์ไฟฟ้าในบางรุ่นมีราคาต่ำกว่ารถเครื่องยนต์สันดาปภายใน โดย ณ วันที่ 31 มี.ค. 2566 มียอดจดทะเบียนรถยนต์นั่งไฟฟ้าประเภทแบตเตอรี่ (BEV) สะสมอยู่ที่ 28,063 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันในปีก่อน 437% 

ขณะที่รถยนต์ไฟฟ้าประเภทไฮบริด (HEV) เดือน มี.ค.66 จดทะเบียนใหม่ 8,828 คัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 20.87%  ส่วนยอดจดทะเบียนใหม่สะสม ช่วงม.ค.-มี.ค.66 มีจำนวนทั้งสิ้น 24,436 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 43.56% ส่งผลให้ ณ วันที่ 31 มี.ค.66 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท HEV มีจำนวนทั้งสิ้น 283,885 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 33.01%

ส่วนรถยนต์ไฟฟ้าประเภทปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) เดือน มี.ค.66 จดทะเบียนใหม่  1,178 คัน ลดลงจากปีก่อน 8.68% ส่วนยอดจดทะเบียนใหม่สะสม ช่วงม.ค.-มี.ค.66 มีจำนวนทั้งสิ้น 3,388 คันเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 14.11% ส่งผลให้ ณ วันที่ 31 มี.ค.66 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท PHEV มีจำนวนทั้งสิ้น 45,763 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 34.19%

"ปัจจุบัน สัดส่วนการจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าในไทย คิดเป็น 9.1% แล้ว เมื่อเทียบกับยอดการจดทะเบียนรถยนต์ทั้งหมดรวมรถเครื่องยนต์สันดาปภายใน ซึ่งถือว่ามีอัตราการเติบโตที่โดดเด่นมากเมื่อเทียบกับในภูมิภาคและในระดับโลกเอง"

นอกจากนี้ ในเดือนมี.ค. มีรถบรรทุกไฟฟ้าจดทะเบียนใหม่ 70 คัน จึงทำให้สามารถบรรลุหนึ่งในเป้าหมายของคณะกรรมการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้า (บอร์ดอีวี) ในการมีรถยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนใหม่ครบทุกประเภทรถอีกด้วย