ปฏิทิน คิดดี...มีตังค์แนวคิดพอเพียงแบบมีสไตล์

ปฏิทิน คิดดี...มีตังค์แนวคิดพอเพียงแบบมีสไตล์

 

เสียงสะท้อนจากกลุ่มผู้ใช้ ปฏิทิน คิดดี...มีตังค์ เครื่องมือเสริมสร้างนิสัยการออมและการปรับแนวคิดใหม่สู่วิถีความพอเพียงของเครือข่ายอนาคตไทยที่ได้ประชาสัมพันธ์และแจกออกไปให้กับประชาชนทั่วไปตั้งแต่ต้นปี ยืนยันส่งผลต่อการปรับเปลี่ยนนิสัย กระตุ้นเตือนให้ใช้ชีวิตสไตล์ใหม่ ลดค่าใช้จ่าย เพิ่มเงินออม และเป็นแบบอย่างเรื่องการออมแก่คนในครอบครัวได้จริง

เครือข่ายอนาคตไทยเป็นการรวมตัวกันของหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนที่ร่วมกันขับเคลื่อนโครงการรณรงค์ระดับประเทศ Thailand Campaign ภายใต้ชื่อ "อย่าให้ใครว่าไทย"  ซึ่งเป็นโครงการที่มีจุดมุ่งหมายที่จะกระตุ้นให้คนไทยปรับเปลี่ยนทัศนคติลดเลิกพฤติกรรมเชิงลบ (ฟุ้งเฟ้อ ขี้โกง มักง่าย ไร้สติ) โดย 6 องค์กรหลักผู้ริเริ่ม ได้แก่ มูลนิธิมั่นพัฒนา สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กรมประชาสัมพันธ์ สมาคมโฆษณาแห่งประเทศไทย กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรและสภาหอการค้าไทย ปัจจุบันมีภาคีเครือข่ายทั้งสิ้นจำนวน 115องค์กร

นายธาตรี ลิขนะพิชิตกุล ผู้ช่วยผู้อำนวยการสถาบันมั่นพัฒนา มูลนิธิมั่นพัฒนาในนามเครือข่ายอนาคตไทยกล่าวถึงผลการประชาสัมพันธ์สื่อรณรงค์และการแจกปฏิทิน คิดดี...มีตังค์ ไปยังกลุ่มบุคคลต่าง ๆ ทั้งในเขตกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัดว่า ภายหลังจากที่ได้พูดคุยกับกลุ่มพนักงานในหน่วยงานสมาชิกเครือข่ายอนาคตไทย รวมถึงเสียงตอบรับจาก ประชาชนในต่างจังหวัดและผู้แทนคนรุ่นใหม่ พบว่าทุกท่านมีความพอใจมาก มีเครื่องมือที่ทำให้กระตุกความคิดถึงการใช้ชีวิตในแต่ละวันได้เป็นอย่างดี โดยมีตัวอย่างจากเสียงสะท้อนในกลุ่มต่าง ๆ   ดังนี้

กลุ่มพนักงานฝ่ายบัญชีและงบประมาณสายงานระบบส่ง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย มีทั้งที่นำปฏิทิน คิดดี...มีตังค์ ไปให้ลูกใช้ที่บ้าน และนำมาใช้เอง โดยกลุ่มผู้ปกครองที่นำกลับไปให้ลูกใช้นั้นมีทั้งที่มีลูกอยู่ในระดับอนุบาล และระดับประถมศึกษา ซึ่งพบว่าเด็ก ๆ มีความตื่นเต้นและสนใจในรูปลักษณ์ของปฏิทินค่อนข้างมาก เพราะมีสีสันสวยงามและมีรูปแบบแปลกใหม่ ผู้ปกครองใช้ปฏิทินเป็นเครื่องมือสร้างกิจกรรมร่วมกันภายในครอบครัว โดยให้คำแนะนำกับเด็ก ๆ ถึงวิธีการใช้ปฏิทิน รวมถึงอ่านข้อความที่เป็นคำแนะนำในการลดค่าใช้จ่ายให้ฟังซึ่งผู้ปกครองรายหนึ่งสังเกตเห็นพฤติกรรมของลูกในระดับอนุบาลว่ามีการเก็บเหรียญจากรถยนต์ของพ่อมาหยอดใส่ในปฏิทินเป็นประจำ จึงถือได้ว่าปฏิทิน คิดดี...มีตังค์ เป็นจุดเริ่มต้นในการสอนให้เด็กได้เริ่มรู้จักการออม แม้จะยังไม่เข้าใจได้ทั้งหมด โดยในส่วนของเด็กระดับประถมศึกษา ซึ่งปกติเคยเก็บออมด้วยวิธีการหยอดกระปุกออมสินทั่วไป เมื่อได้มาใช้ปฏิทิน คิดดี...มีตังค์ พบความแตกต่างคือ เด็กได้รับการกระตุ้นเตือนให้หยอดเหรียญเพื่อออมทุกวัน เนื่องจากปฏิทินมีช่องให้หยอดเงินเป็นรายวัน เด็กจึงมีความรู้สึกว่าตนเองต้องออมทุกวัน 

กลุ่มพนักงานที่นำปฏิทิน คิดดี...มีตังค์ ไปใช้เองสะท้อนว่าไม่ได้หยอดเหรียญเพื่อออมเงินในปฏิทินทุกวัน แต่ประโยชน์ที่ได้รับจากปฏิทินคือ ช่วยเตือนใจให้ออมได้ เช่น บางคนมีการตั้งเป้าที่จะเก็บเงินในปฏิทิน คิดดี...มีตังค์ เพื่อการท่องเที่ยวประจำปี โดยในช่วงพักกลางวันปกติจะมีการใช้จ่ายซื้อสิ่งของหรือเสื้อผ้าใหม่ๆ แต่เมื่อมีปฏิทินและมีการตั้งเป้าหมายทำให้เตือนตัวเองในการนำเงินที่คิดจะซื้อสิ่งของเหล่านั้นนำไปหยอดในปฏิทินแทน บางคนใช้วิธีการหยอดเงินตามจำนวนวันอย่างต่อเนื่อง สำหรับคำแนะนำแนวทางการลดค่าใช้จ่ายที่พิมพ์อยู่ในปฏิทินแต่ละวันนั้นยอมรับว่าไม่สามารถทำตามได้ทุกวัน แต่จะมีคำแนะนำในบางวันที่รู้สึกชอบและสามารถทำได้จริงในชีวิตประจำวันของตัวเองก็จะนำไปทำตาม โดยมองว่าจุดดีของปฏิทินคือ การช่วยเตือนใจ และสร้างแรงจูงใจในการที่จะเก็บเงินออม สำหรับรูปแบบของปฏิทินได้รับเสียงสะท้อนว่าปฏิทินทำจากกระดาษทำให้มีความกังวลว่าปฏิทินอาจจะขาดได้เมื่อใส่เหรียญเข้าไปเป็นจำนวนมาก

ในกลุ่มผู้ที่อยู่ต่างจังหวัดภายหลังจากที่ได้รับข่าวสารและติดต่อขอรับปฏิทิน คิดดี...มีตังค์ ผ่านทาง Facebook เครือข่ายอนาคตไทย นางอรพิมพ์  ดอนคำเพ็ง เจ้าพนักงานสาธารณสุขชำนาญงานองค์การบริหารส่วนตำบลเนินกุ่ม อำเภอบางกระทุ่ม จังหวัดพิษณุโลกเล่าถึงวิธีการใช้ปฏิทินว่า ตัวเองพยายามที่จะหยอดเงินเพื่อเก็บออมให้ได้ทุกวันตามปฏิทิน และยอมรับว่าปฏิทินเป็นตัวช่วยเตือนความจำได้ว่าวันนี้ได้ออมเงินหรือยังโดยข้อความที่เป็นคำแนะนำถึงวิธีการลดค่าใช้จ่ายและการใช้ชีวิตแบบพอเพียงในปฏิทินแต่ละวัน เมื่ออ่านแล้วจะพบว่าไม่ได้มุ่งแค่เรื่องการออมเงิน แต่เป็นเรื่องของการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตและการบริหารจัดการทรัพยากรในด้านต่างๆ เช่น การประหยัดเวลา การใช้สิ่งของเครื่องใช้ต่างๆในชีวิตประจำวันอย่างคุ้มค่า เช่น ข้อความที่ว่า “เสื้อผ้าเก่าอย่าทิ้ง เดี๋ยวก็กลับมาฮิตอีกครั้ง” การแนะนำให้ล้างรถด้วยตัวเองที่ช่วยให้ได้ประโยชน์ทั้งด้านสุขภาพและได้ประหยัดค่าใช้จ่าย การทำอาหารและการปลูกผักรับประทานเองซึ่งทำได้จริงปฏิทิน คิดดี...มีตังค์ จึงไม่ได้มุ่งแค่การออมเงินแต่เป็นการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตใหม่ อีกทั้งเมื่อได้นำปฏิทิน คิดดี...มีตังค์มาใช้ ทำให้เกิดการกระตุ้นความสนใจเรื่องการออมให้กับลูกๆ ในวันแรกที่ได้รับปฏิทินลูกๆ มีความตื่นเต้นมากเพราะรูปลักษณ์ที่น่าสนใจของปฏิทิน และพฤติกรรมการออมถือเป็นแบบอย่างที่ลูกจะซึมซับต่อไปซึ่งเมื่อถามถึงเหตุผลที่มาขอรับปฏิทิน คิดดี...มีตังค์นางอรพิมพ์เล่าว่าเคยอ่านหนังสือเรื่องวิธีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและพบข้อมูลว่าวิธีการสร้างนิสัยใหม่ที่ดีที่สุดคือต้องมีการทำพฤติกรรมใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง 21 วัน หลังจากนั้นพฤติกรรมดังกล่าวจะฝังลงไปในจิตใต้สำนึกและเกิดการทำอย่างอัตโนมัติ เมื่อเห็นปฏิทิน คิดดี...มีตังค์ ในครั้งแรกจึงรู้สึกชอบมากและต้องการได้มาใช้เพื่อสร้างนิสัยการออมของตัวเอง

สุดท้ายเป็นผู้แทนกลุ่มคนรุ่นใหม่ นางสาววนิดา คุณวงค์ นักศึกษาปริญญาโท คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อายุ 26 ปี เล่าว่า ปฏิทิน คิดดี...มีตังค์ที่ได้รับมาได้ใช้หยอดเงินเพื่อการออมในทุกวัน โดยตั้งเกณฑ์สำหรับการออมเงินของตัวเองว่าอย่างน้อยต้องออมให้ได้วันละ20 บาท ซึ่งหากวันไหนได้เงินทอนเป็นแบงก์ 50 บาท หรือมีเหรียญจากการซื้อสิ่งของก็จะนำกลับมาหยอดเพิ่มเติม ปฏิทินที่ได้รับนอกจากจะช่วยให้รู้จักการเก็บออมเงินแล้ว ยังมีคำแนะนำเทคนิคการออมเงินที่สามารถนำไปปฏิบัติได้จริงโดยคำแนะนำที่ชอบมากคือ "ก่อนซื้อเสื้อผ้าใหม่เปิดดูของเก่าใส่ครบหรือยัง" เนื่องจากตัวเองเป็นผู้หญิงที่ชอบการซื้อเสื้อผ้า แต่บางครั้งเสื้อผ้าที่ซื้อมาก็ไม่ได้ใส่ทุกตัว จึงต้องกลับมาทบทวนและเปลี่ยนแปลงตัวเองด้วยการใส่เสื้อผ้าที่มีอยู่เป็นจำนวนมากในตู้ และนำเงินที่จะซื้อเสื้อผ้าใหม่มาหยอดเก็บในปฏิทินแทน ในฐานะคนรุ่นใหม่คิดว่าปฏิทินนี้ได้ให้ประโยชน์ในหลายเรื่อง อาทิ การปรับทัศนคติ การสร้างนิสัยการออม และการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตให้คิดก่อนทำ ฝึกให้เป็นคนที่ไม่ตามใจตัวเองและทำในสิ่งที่จำเป็น และมองว่า “โครงการอย่าให้ใครว่าไทย” ที่เครือข่ายอนาคตไทยดำเนินภารกิจอยู่นี้เป็นโครงการที่ดี มีการสื่อสารที่เหมาะกับคนทุกวัย โดยเฉพาะกับคนรุ่นใหม่

กล่าวได้ว่าสื่อรณรงค์ “อย่าให้ใครว่าไทย” ของเครือข่ายอนาคตไทย อย่างปฏิทิน คิดดี...มีตังค์ สร้างคุณประโยชน์ให้กับกลุ่มผู้ใช้ในทุกช่วงวัย ไม่ว่าจะเป็นสื่อการสอนให้เริ่มเรียนรู้เรื่องการออมในกลุ่มเด็ก ช่วยกระตุ้นเตือนให้หันมาปรับวิถีชีวิตใหม่เพื่อลดค่าใช้จ่ายและเก็บออมมากขึ้นในกลุ่มผู้ใหญ่ และเป็นเครื่องมือที่ท้าทายสำหรับกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่จะตั้งเป้าหมายในเรื่องการออม และปรับวิถีชีวิตใหม่ให้เป็นคนมีสไตล์ มีสตางค์

“จากเสียงสะท้อนของผู้แทนกลุ่มเป้าหมายของโครงการอย่าให้ใครว่าไทยที่เครือข่ายอนาคตไทยมีความมุ่งมั่นในการสร้างและพัฒนาสื่อรณรงค์ให้เกิดกระแสการกระตุ้นเตือน รวมจนถึงการสร้างเครื่องมือเพื่อช่วยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้คนไทยไม่ฟุ้งเฟ้อ ถือเป็นกำลังใจให้กับคณะทำงานเครือข่ายอนาคตไทยเป็นอย่างมาก ที่ได้รับรู้ว่าสื่อรณรงค์ที่จัดทำขึ้นและประชาสัมพันธ์ออกไปนั้นก่อเกิดประโยชน์ในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและสร้างนิสัยใหม่ ทำให้หันมาใช้ชีวิตอย่างพอเพียงได้จริง และถือเป็นข้อมูลสำคัญในการนำไปปรับปรุงและวางแผนการดำเนินภารกิจอย่างต่อเนื่องได้”

เครือข่ายอนาคตไทยกับภารกิจการปรับเปลี่ยนวิธีคิดใหม่ให้คนไทยทุกคนเข้าใจความพอเพียงโดยแก่นแท้และปรับใช้ได้ในทุกบริบท ยังคงดำเนินต่อไป พร้อมเปิดรับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในสังคมที่จะเข้ามามีส่วนร่วมในภารกิจของเครือข่ายฯ เพื่อร่วมกันสร้างการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไม่พึงประสงค์อันจะส่งผลต่อการสร้างสังคมใหม่บนพื้นฐานการพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไป

ท่านสามารถติดตามรายละเอียดสื่อรณรงค์ของเครือข่ายอนาคตไทยและร่วมสนุกเพื่อขอรับปฏิทิน “คิดดี...มีตังค์” ได้ที่ Facebook "เครือข่ายอนาคตไทย" (https://www.facebook.com/เครือข่ายอนาคตไทย) และสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน คิดดี...มีตังค์ ได้แล้วที่ App Store /PlayStore หรือ ScanQRCode เพื่อ DownloadApplication