‘กองทุนสวัสดิการชุมชน’ พัฒนาคุณภาพชีวิต

‘กองทุนสวัสดิการชุมชน’พัฒนาคุณภาพชีวิต สร้างหลักประกันมั่นคง ชุมชนยั่งยืน
แนวคิดเรื่องการจัดสวัสดิการสังคม เป็นแนวคิดของการช่วยเหลือซึ่งกันและกันของคนในชุมชนที่ได้เกิดขึ้นมาเป็นเวลานานโดยมีรูปแบบการบริหารจัดการที่แตกต่างกันออกไปและมีความหลากหลาย แต่ส่วนใหญ่จะเป็นการจัดสวัสดิการช่วยเหลือแค่ด้านใดด้านหนึ่งหรือเฉพาะด้านอาจไม่ครอบคลุมในทุกประเด็นดังนั้นจึงเป็นที่มาของการเกิดกองทุนสวัสดิการชุมชนที่เน้นครอบคลุมในทุกมิติคือเศรษฐกิจสังคม สิ่งแวดล้อมและ วัฒนธรรม โดยแนวคิดของกองทุนฯ นั้นต้องเกิดมาจากคนในชุมชน บนหลักของการพึ่งพาและช่วยเหลือเกื้อกูลกัน รวมถึงการเห็นคุณค่าของกันและกันภายในชุมชนที่นำเอาภูมิปัญญาและวัฒนธรรมท้องถิ่นมาใช้ในการบริหารจัดการเพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาชุมชนที่ยั่งยืน
วิทยาลัยพัฒนศาสตร์ ป๋วยอึ๊งภากรณ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มูลนิธิบูรณะชนบทแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์เครือข่ายสวัสดิการชุมชน ศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) กระทรวงวัฒนธรรม คณะอนุกรรมการส่งเสริมองค์กรสวัสดิการชุมชนในคณะกรรมการส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคม สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์และมูลนิธิมั่นพัฒนา เห็นถึงความสำคัญ ของระบบสวัสดิการชุมชนที่เป็นรากฐานที่สำคัญของการสร้างหลักประกันความมั่นคงของคนในชุมชน บนพื้นฐานของคำกล่าวที่ว่า“ให้อย่างมีคุณค่า รับอย่างมีศักดิ์ศรี” จึงร่วมกันจัดงานมอบรางวัลองค์กรสวัสดิการชุมชน: ผู้สรรค์สร้างความมั่นคงของมนุษย์ซึ่งได้รับการสนับสนุนรางวัลจากสถาบันป๋วยอึ๊งภากรณ์ที่ดำเนินการตามแนวคิด “คุณภาพแห่งชีวิต ปฏิทินแห่งความหวัง จากครรภ์มารดาถึงเชิงตะกอน” ของ ศาสตราจารย์ ดร.ป๋วยอึ๊งภากรณ์เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ณ ห้องประชุมป๋วยอึ๊งภากรณ์ ธนาคารแห่งประเทศไทย
โดยในปีนี้เป็นปีที่ 2 ของการจัดงานมอบรางวัล ภายใต้ชื่อ “ธรรมาภิบาลดีเด่น แห่งปี 2560”ซึ่งมีกองทุนสวัสดิการชุมชนที่ผ่านการคัดเลือกและมีผลงานสำคัญดีเด่น8 กองทุน แบ่งตามประเภทต่างๆ เช่นด้านการพัฒนาเด็กเยาวชนและการศึกษา เพื่อการเติบโตเป็นคนดี และมีคุณภาพด้านการพัฒนาการประกอบอาชีพ พัฒนาระบบเศรษฐกิจของครัวเรือนและชุมชน และการแก้ปัญหาหนี้สินด้านการบริหารจัดการกองทุนที่ดีและมีธรรมาภิบาล เป็นต้น
สร้างเยาวชน ปั้นฝัน พัฒนาคุณภาพชีวิต
กองทุนสวัสดิการชุมชนเทศบาลตำบลสรรพยาคือหนึ่งในกองทุนสวัสดิการชุมชนดีเด่นที่ได้รับรางวัล “ด้านการพัฒนาเด็กเยาวชนและการศึกษา เพื่อการเติบโตเป็นคนดี และมีคุณภาพ” กองทุนฯ นี้มุ่งเน้นการพัฒนาเด็กและเยาวชน ให้มีจิตสำนึก และตระหนักรู้ในคุณค่าของตนเองเพื่อนำไปสู่การเป็นเยาวชนที่เติบโตเป็นคนดี มีคุณภาพและสามารถกลับมาพัฒนาชุมชนให้เกิดความยั่งยืนได้
นางสมหมาย กฤษฌัมพก ประธานกองทุนสวัสดิการชุมชนเทศบาลตำบลสรรพยา อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาทกล่าวว่า กองทุนฯ เริ่มดำเนินการจัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2551 โดยเริ่มมาจากปัญหาภายในชุมชนเดิมทีตำบลสรรพยา มีประชากรส่วนใหญ่ที่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมและมีฐานะยากจน คนวัยทำงานต่างทิ้งลูกหลานไว้ให้ผู้สูงอายุเลี้ยงดูอยู่ที่บ้านและไปทำงานที่อื่น เป็นเหตุให้ครอบครัวแตกแยกและเกิดการหย่าร้าง เด็กและเยาวชนไม่ได้รับความสนใจและความอบอุ่นจากครอบครัวจนนำไปสู่ปัญหาทางสังคมต่างๆ นี่จึงเป็นก้าวแรกของการพัฒนากองทุนสวัสดิการชุมชนของตำบลสรรพยาที่มองเห็นปัญหาจึงหันมาให้ความสำคัญกับสถาบันครอบครัวเป็นอันดับแรกโดยเน้นการพัฒนาเด็ก การสร้างครอบครัวอบอุ่น และการดูแลผู้สูงอายุเพราะเราเชื่อว่า “ครอบครัวมีบทบาทสำคัญในการสร้างคน เด็กและเยาวชนคือรากฐานของชาติ”
“กองทุนฯ ให้ความสำคัญกับการสร้างครอบครัวที่อบอุ่นของชุมชนเป็นอย่างมาก โดยผู้ปกครองได้ตั้งกลุ่มเครือข่ายผู้ปกครองขึ้น เพื่อป้องกัน ช่วยเหลือและคุ้มครองครอบครัวให้อยู่ในชุมชนได้อย่างปลอดภัย มีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมซึ่งจะมีการประชุมหารือทุกเดือนเพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาร่วมกัน”
นางสมหมาย กล่าวเพิ่มเติมว่า กองทุนฯมีการจัดสวัสดิการ2 ส่วน คือ สวัสดิการพื้นฐานทั่วไปและสวัสดิการเฉพาะกลุ่มเป้าหมายที่เน้นด้านการพัฒนาเด็กและเยาวชนได้แก่ ค่ายเยาวชน คนอาสา พัฒนาห้องสมุด โดยเมื่อปี 2558 กองทุนฯ ได้จัด “ค่ายเยาวชนไทยก้าวไกลสู่ ASEAN 2015” เพื่ออบรมการใช้ภาษาอังกฤษให้แก่เด็กนักเรียน ม.2-ม.5 จำนวน 80 คน และในปีนี้ยังมีแผนจัดโครงการค่ายนักเรียนแลกเปลี่ยน และโครงการแข่งขันเยาวชนอาเซียนภาษาอังกฤษ
นอกจากนี้กองทุนฯ ยังได้ให้ความสำคัญการแก้ไขปัญหาแม่วัยใส เนื่องจากจังหวัดชัยนาท เป็นจังหวัดที่มีแม่วัยใส หรือ ท้องก่อนวัยมากเป็นอันดับ 1 ของประเทศ(ข้อมูลสำนักงานพัฒนาสังคมจังหวัดชัยนาท) เฉพาะในตำบลสรรพยาเองมีเยาวชนอายุ 12-17 ปี ท้องก่อนวัยถึง 5คน กองทุนฯจึงตระหนักและต้องการแก้ไขปัญหาแม่วัยใส จึงจัดทำโครงการ “วัยรุ่นวัยใส ห่วงใยสุขภาพ” ขึ้นมา โดยเริ่มจากจัดกิจกรรมอบรมให้ความรู้ เฝ้าระวังตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำถามไถ่ให้กำลังใจแก่เด็กและผู้ปกครองที่ประสบปัญหาคุณแม่วัยใส และขยายผลสร้างเครือข่ายในพื้นที่เพื่อป้องกันไม่ให้เพิ่มจำนวนคุณแม่วัยใสทำให้ปัจจุบันปัญหาแม่วัยใสลดลง
“ตลาดชุมชน” สร้างรายได้ ปลดหนี้นอกระบบคนหนองม่วง
กองทุนสวัสดิการชุมชนตำบลหนองม่วง เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างกองทุนสวัสดิการชุมชนที่มีแนวคิดและการดำเนินการ“โดดเด่น”“ด้านการพัฒนาการประกอบอาชีพ พัฒนาระบบเศรษฐกิจของครัวเรือนและชุมชน และการแก้ปัญหาหนี้สิน”ซึ่งช่วยสร้างรายได้ และแก้ปัญหาหนี้สินของชุมชนหนองม่วงได้สำเร็จ
นางอำนวย บุตรวิเศษประธานกองทุนสวัสดิการชุมชนตำบลหนองม่วง อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว บอกว่า ปัญหาหลักของชุมชนตำบลหนองม่วงเกิดจากเป็นหนี้นอกระบบกันมาก ทำให้รายได้ไม่เพียงพอต่อการเลี้ยงชีพ จากการสำรวจหนี้สินต่อครัวเรือนของชุมชนทั้งหมด 14 หมู่บ้าน จำนวน 1,000 ครัวเรือน พบว่า มีหนี้สินนอกระบบเฉลี่ย 40,000-50,000 บาทต่อครัวเรือน ซึ่งเป็นปัญหาจากการกู้ยืมนายทุน เพื่อนำมาทำอาชีพเกษตรจากปัญหาของชุมชนดังกล่าว คณะกรรมการกองทุนฯจึงได้วางแนวทางการสร้างอาชีพให้แก่สมาชิก และส่งเสริมการออมไปพร้อมๆกัน เพื่อเป็นการเพิ่มรายได้และแก้ปัญหาหนี้สินของชุมชนให้ลดลง
ขณะเดียวกัน กองทุนฯได้จัดตั้ง “สถาบันการเงินชุมชนหนองม่วง” ขึ้น เพื่อเป็นเงินหมุนเวียนประกอบอาชีพ และแก้ไขปัญหาหนี้สินนอกระบบให้สมาชิกรวมทั้งส่งเสริมการออมเงินชุมชนให้เพิ่มขึ้นด้วยการออมวันละ 1 บาทหรือการลงหุ้นกับสถาบันทำให้สถาบันการเงินชุมชนมีเงินหมุนเวียนแล้วประมาณ 5 ล้านบาท ช่วยแก้ไขปัญหาของสมาชิกในตำบล 204 ราย
นางอำนวย ยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า กองทุนฯได้ร่วมกับสภาองค์กรชุมชนทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก จัดสร้างร้านค้าชุมชน เป็น “ตลาดชุมชน” ในใจกลางตำบล ให้สมาชิกเช่าขายสินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชน เพื่อสร้างรายได้ให้กับครัวเรือนและในปีนี้อยู่ระหว่างสร้างตลาดเพิ่มขึ้นทำให้ปัจจุบันสมาชิกมีรายได้เพิ่มขึ้นวันละไม่ต่ำกว่า 100บาท หรือเดือนละ 3,000-4,000 บาท แล้วยังมีเงินออมอีกเดือนละ 600 บาทจากการเก็บเงินออมตลาดชุมชน โดยตลาดชุมชนจะทำให้สมาชิกมีรายได้เพิ่มขึ้นและแก้ปัญหาหนี้นอกระบบที่นำไปสู่การมีคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืน
“มีส่วนร่วม- โปร่งใส- เป็นธรรม” หัวใจสำคัญของการบริหารกองทุนฯ
กองทุนสวัสดิการชุมชนตำบลบางเป้า เป็น 1 ใน 8 กองทุนสวัสดิการชุมชนที่ได้รับรางวัลด้านการบริหารจัดการกองทุนที่ดีและมีธรรมาภิบาล นางศศิธร เกลือกลิ่น ประธานกองทุนสวัสดิการชุมชนตำบลบางเป้า อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง กล่าวว่า ปัญหาของตำบลบางเป้า ประชาชนส่วนใหญ่ยังยากจนและมีปัญหายาเสพติด คนไม่มีหลักประกันในชีวิต ขาดความสามัคคี และไม่รู้จักการรวมกลุ่ม จึงได้ริเริ่มจัดตั้ง “กลุ่มสุขภาพสมสิบ” ขึ้นมา เพื่อให้ชาวบ้านใช้เวลาว่างด้วยการออกกำลังกายและเก็บออมเงิน จนกระทั่งตั้งเป็นกองทุนฯ
หัวใจสำคัญของการบริหารจัดการกองทุนฯตำบลบางเป้าจะเน้นหลักการมีส่วนร่วม มีความโปร่งใส และมีคุณธรรม โดยมีคณะกรรมการกองทุนที่ทำงานเป็นทีม และร่วมตัดสินใจในปัญหาที่สำคัญ กรรมการและสมาชิกมีความเป็นเอกภาพในการปฏิบัติตามระเบียบ มีระบบฐานข้อมูลที่เปิดเผย
“ผลจากการที่เราจัดสวัสดิการที่หลากหลายด้วยความเสมอภาคเท่าเทียมและทั่วถึง จึงทำให้เรามีสมาชิกที่หลากหลายทุกเพศทุกวัยสมทบเงินเข้าอย่างสม่ำเสมอ คณะกรรมการและสมาชิกมีความซื่อสัตย์สุจริต เสียสละอดทนขยันหมั่นเพียร เห็นได้จากยังไม่มีข้อร้องเรียนใดๆจากสมาชิกหรือบุคคลอื่นๆ ในพื้นที่เลย” นางศศิธร กล่าว
กองทุนสวัสดิการชุมชนจะกลายเป็นต้นแบบการบริหารจัดการชุมชนที่มุ่งหวังให้คนในสังคมมีปัจจัยพื้นฐานได้รับสวัสดิการสังคมครอบคลุมในทุกๆ ด้าน เป็นการสร้างความมั่นคงเพื่อเป็นหลักประกันที่ทำให้เกิดคุณภาพชีวิตที่ดีทั้งในระดับครอบครัว ชุมชน ประเทศชาติ อีกทั้งการจัดงานในครั้งนี้ ยังเป็นการจัดเวทีเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้กระบวนการสร้างเสริมสังคม สวัสดิการ ที่มีการพัฒนาในรูปแบบที่หลากหลายยิ่งขึ้น สอดคล้องกับสถานการณ์สังคมปัจจุบันและเหมาะสมกับบริบทของแต่ละท้องถิ่น ซึ่งจะก่อให้เกิดเครือข่ายแลกเปลี่ยนเรียนรู้และนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนของชุมชนต่อไป











