ทูตสหรัฐในญี่ปุ่น ต้นตอปล่อยข่าว ‘รมว.กลาโหมจีนหายตัว’

ทูตสหรัฐในญี่ปุ่น ต้นตอปล่อยข่าว ‘รมว.กลาโหมจีนหายตัว’

สื่อญี่ปุ่นรายงาน ทูตสหรัฐประจำโตเกียวฝ่าขนบปล่อยข่าวเจ้าหน้าที่ระดับสูงจีนหายหน้าไปคนแล้วคนเล่า เสี่ยงบั่นทอนความพยายามรัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน ในการบรรเทาความตึงเครียดกับรัฐบาลปักกิ่ง

เว็บไซต์เจแปนไทม์ส รายงานเมื่อวันที่ 9 ก.ย. นายราห์ม เอ็มมานูเอล เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำญี่ปุ่น อดีตหัวหน้าคณะทำงานทำเนียบขาว โพสต์ข้อความแสดงความเห็นบนแพลตฟอร์ม X พร้อมติดแฮชแท็ก#MysteryInBeijingBuilding ทำให้เกิดการคาดการณ์กันไปต่างๆ นานา ถึงการหายหน้าไปของรัฐมนตรีและผู้บัญชาการกองกำลังจรวด ทั้งยังตอกย้ำเรื่องอัตราการว่างงานของคนหนุ่มสาวที่สูงมากภายใต้ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง

“รัฐมนตรีของประธานาธิบดีสีตอนนี้เหมือนกับนิยายเรื่อง ฆาตกรรมยกเกาะของอกาธา คริสตี ไม่มีผิด คนแรกรัฐมนตรีต่างประเทศฉินกังหายไป จากนั้นก็เหล่าผู้บัญชาการกองกำลังจรวด ตอนนี้รัฐมนตรีกลาโหมหลี่ จางฟู่ ไม่ออกงานมาสองสัปดาห์แล้ว การว่างงานนี้ใครจะชนะ คนหนุ่มสาวจีนหรือคณะรัฐมนตรีของสี” 

ความเห็นดังกล่าวขัดแย้งกับวิธีปฏิบัติของนักการทูต ที่จะไม่คาดการณ์การเมืองภายในประเทศอื่น พรรคคอมมิวนิสต์จีนเองก็มักจะตำหนิรุนแรงหากเจ้าหน้าที่ต่างชาติพูดคุยเรื่องงานภายในของรัฐบาล

การโพสต์ของเอ็มมานูเอลเสี่ยงทำให้ความพยายามของสหรัฐยุ่งยากขึ้น หลังจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงมาเยือนกรุงปักกิ่งหลายรายเพื่อรักษาความสัมพันธ์ระหว่างสองเขตเศรษฐกิจใหญ่สุดของโลกไม่ให้สะดุด ท่ามกลางความตึงเครียดเรื่องการค้าไฮเทคและการสนับสนุนไต้หวันของรัฐบาลวอชิงตัน

ในเวลาเดียวกันประธานาธิบดีโจ ไบเดนเองก็มีส่วนสร้างความตึงเครียด ในงานระดมทุนเดือน มิ.ย. เขาเรียกประธานาธิบดีสีว่า “เผด็จการ”

กาเบรียล วิลดาว กรรมการผู้จัดการบริษัทที่ปรึกษา “เทเนโอโฮลดิงส์” ในนิวยอร์ก ให้ความเห็นเปรียบเทียบถึงความแข็งกร้าวของนักการทูตจีนในช่วงไม่กี่ปีหลัง

“การทูตนักรบหมาป่าจากฝั่งสหรัฐไม่ได้ช่วยปรับปรุงความสัมพันธ์ทวิภาคี ผมเกรงว่าจะส่งผลกระทบในทางลบอย่างมาก เพราะเอ็มมานูเอลไม่ได้มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้องกับนโยบายสหรัฐต่อจีนเลย รัฐบาลอาจต้องบอกเอ็มมานูเอลและเจ้าหน้าที่คนอื่นเป็นการส่วนตัว ไม่ให้ลำพองใจแล้วพูดอะไรออกมา”

ทั้งนี้ เอ็มมานูเอล อดีตนายกเทศมนตรีชิคาโกและหัวหน้าคณะทำงานประธานาธิบดีบารัก โอบามา เคยแสดงความเห็นชวนโต้แย้งมาแล้ว ยิ่งช่วงหลังเมื่อเศรษฐกิจจีนไม่ดีเขายิ่งวิจารณ์จีนหนัก