เวียตเจ็ทเผยธุรกิจเติบโตต่อเนื่องตลอด 3 ไตรมาสของปี

เวียตเจ็ทเผยธุรกิจเติบโตต่อเนื่องตลอด 3 ไตรมาสของปี

สายการบินที่เติบโตเร็วที่สุดของเวียดนามยังคงรักษาระดับการเติบโตในไตรมาส 3 ด้วยยอดเกินกว่าเป้า

บริษัทเวียตเจ็ท (Vietjet Aviation Joint Stock Company ชื่อย่อในตลาดหลักทรัพย์โฮจิมินห์: VJC) เผยว่า ยังสามารถรักษาอัตราการเติบโตทางธุรกิจที่เข้มแข็งได้อย่างต่อเนื่องตลอดไตรมาส 3 ของปี 2018 แม้โดยทั่วไปอุตสาหกรรมการบินและการท่องเที่ยวจะชะลอตัวลงในช่วงเดือนกันยายนของทุกปี

รายรับในไตรมาส 3 ของบริษัทเวียตเจ็ทอยู่ที่ราว 12,713 พันล้านดอง (545.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) คิดเป็น105% ของช่วงเดียวกันเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งมาจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นของธุรกิจการขนส่งทางอากาศ ธุรกิจเสริม รวมถึงการขายและเช่ากลับ โดยมีผลกำไรก่อนหักภาษีของไตรมาส 3 ที่ 1,709 พันล้านดอง (73.3 ล้านดอลลาร์) เพิ่มขึ้น 59% จากเมื่อปีที่แล้ว

ความสำเร็จนี้เกิดจากการเพิ่มจำนวนเครื่องบินที่ทันสมัยลำใหม่ของเวียตเจ็ท การเปิดเส้นทางบินระหว่างประเทศใหม่ และการบริหารราคาขายที่ยืดหยุ่นในช่วงโลว์ซีซั่น ซึ่งทำให้รายรับของธุรกิจการขนส่งทางอากาศของเวียตเจ็ทในไตรมาสนี้สูงถึง 8,901 พันล้านดอง (382 ล้านดอลลาร์) เพิ่มขึ้น 45% จากเมื่อปีที่แล้ว ในขณะที่อัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสารของไตรมาส 3 อยู่ที่ราว 89%

สายการบินเวียตเจ็ทระบุผลกำไรหลังหักภาษีของไตรมาส 3 ที่ 1,094 พันล้านดอง (46.97 ล้านดอลลาร์) คิดเป็น 111% ของช่วงเดียวกันเมื่อปีที่แล้ว สำหรับรายได้จากบริการเสริมเติบโตอย่างมากถึง2,177 พันล้านดอง (93.3 ล้านดอลลาร์) เพิ่มขึ้น 55% จากปีที่แล้ว

เวียตเจ็ทสามารถลดต้นทุนเชื้อเพลิงได้ถึง 16% จากการให้บริการเที่ยวบินด้วยเครื่องบินแอร์บัสลำใหม่ล่าสุดรุ่น A320/A321 neo และขยายเครือข่ายเส้นทางบินระหว่างประเทศ ปัจจัยเหล่านี้ทำให้เวียตเจ็ทสามารถลดต้นทุนต่อที่นั่งผู้โดยสารรวมค่าเชื้อเพลิง (CASK) ได้อย่างชัดเจน ทั้งนี้ การใช้เทคโนโลยีการดำเนินงานที่ทันสมัย ช่วบลดต้นทุนการดำเนินงานได้ราว 5%

ในระหว่างไตรมาส 3 เวียตเจ็ทได้รับมอบเครื่องบินลำใหม่อีก 3 ลำ ทำให้นับตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงสิ้นปี 2018 จะมีเครื่องบินรวม 65 ลำ

ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2018 ที่ผ่านมา เวียตเจ็ทดำเนินการเที่ยวบินในเวียดนามได้อย่างดีเยี่ยมด้วยการเพิ่มจำนวนเที่ยวบิน โดยมีจำนวนเที่ยวบินรวมมากถึง 89,690 เที่ยว เพิ่มขึ้น 22% จากปีที่แล้ว และสามารถให้บริการแก่ผู้โดยสารจำนวน 16,882,117 คน ทำให้สายการบินยังคงครองตำแหน่งผู้นำในตลาดการขนส่งทางอากาศของประเทศเวียดนาม มีส่วนแบ่งการตลาดที่45% เพิ่มขึ้น 2% จากปีที่แล้ว และยังคงขยายตลาดสู่ต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบัน เวียตเจ็ทมีบริการเที่ยวบินจากเวียดนามสู่ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือมากที่สุด ซึ่งรวมถึงญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน และจีน ซึ่งถือเป็นภูมิภาคที่สร้างรายได้เฉลี่ยสูงที่สุด โดยอัตราส่วนรายรับจากต่างประเทศมีมากกว่า50%

รายรับจนถึงไตรมาส 3 ปี 2018 อยู่ที่ราว 33,934 ล้านล้านดอง (1,455 พันล้านดอลลาร์) โดยมีกำไรหลังหักภาษีที่ 3,681 พันล้านดอง (18 ล้านดอลลาร์) เพิ่มขึ้น 33% จากช่วงเดียวกันของปี 2017 สำหรับรายรับของธุรกิจการขนส่งทางอากาศอยู่ที่ 25,416 พันล้านดอง (1.09 พันล้านดอลลาร์) เพิ่มขึ้น 50% ของปีที่แล้ว โดยมีกำไรหลังหักภาษีที่ 2,280 พันล้านดอง (97.8 ล้านดอลลาร์) เพิ่มขึ้น 76% จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ของปี 2018 แม้ในขณะที่ราคาน้ำมันเกิดการผันผวน รายรับของธุรกิจการขนส่งทางอากาศยังคงไม่ได้รับผลกระทบเชิงลบ เนื่องจากสายการบินมีการบริหารจัดการต้นทุนการดำเนินงาน และการบริหารต้นทุนน้ำมัน นอกจากนี้ เวียตเจ็ทยังมีสถิติการบินตรงเวลาในไตรมาส 3 อยู่ที่ 83.5% ความน่าเชื่อถือด้านเทคนิคที่ 99.66% และยังมีดัชนีด้านความปลอดภัยของเที่ยวบินและการดำเนินงานภาคพื้นดินติดอันดับในภูมิภาค

ปัจจุบัน เวียตเจ็ทมีบริการเส้นทางบิน 103 เส้นทาง ครอบคลุม 39 เมืองในเวียดนามและ 64 เมืองในต่างประเทศ ทั้งญี่ปุ่น จีน ฮ่องกง สิงคโปร์ เกาหลีใต้ ไต้หวัน ไทย เมียนมาร์ มาเลเซีย กัมพูชา ฯลฯ

นอกจากนี้ สถาบันการบินVietjet Aviation Academy ก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์และติดตั้งระบบการดำเนินงานเรียบร้อยแล้ว พร้อมเปิดดำเนินการในเดือนพฤศจิกายนนี้ โดยอุปกรณ์ทั้งหมดของสถาบันผ่านการรับรองโดยEuropean Aviation Safety Agency (EASA) เพื่อสร้างการดำเนินงานบนมาตรฐานสากล โครงการนี้นับเป็นก้าวสำคัญของการพัฒนาเวียตเจ็ท ในฐานะสายการบินที่ให้ความสำคัญกับการฝึกอบรมบุคลากรยุคใหม่ เพื่อช่วยส่งเสริมการเติบโตในอนาคตของธุรกิจและอุตสาหกรรมการบินในเวียดนาม

ในไตรมาสที่3 นี้ เวียตเจ็ทยังครองตำแหน่ง 1 ใน 3 ด้านความปลอดภัยระดับสูงสุดด้วยคะแนนการประเมิน 7 ดาวจาก AirlineRatings.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์จัดอันดับความปลอดภัยสายการบินและผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดของโลก “สายการบินเวียตเจ็ทได้กลายมาเป็นส่วนสำคัญของวิถีชีวิตคนเวียดนาม เนื่องจากทำให้หลายคนสามารถเข้าถึงบริการเที่ยวบินได้ สายการบินยังมีฝูงบินแอร์บัสที่ทันสมัยและมีการดำเนินงานที่ดีเยี่ยม ซึ่งนับเป็นข่าวดีสำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางและนักท่องเที่ยวทั่วไป” มร.เจฟฟรีย์ โทมัส บรรณาธิการบริหาร เว็บไซต์ AirlineRatings.com กล่าว

การเติบโตของเวียตเจ็ทเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง โดยสามารถคว้ารางวัลมากมายจากสื่อชั้นนำ อาทิ Forbes ซึ่งจัดอันดับเวียตเจ็ทเป็น 1 ใน 50 บริษัทยอดเยี่ยมแห่งปี 2018 เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน และยังติดอันดับ 40 แบรนด์ดังที่มีมูลค่าสูงสุดในปี 2018 เวียตเจ็ทเป็น 1 ใน 100 บริษัทที่เสียภาษีมากที่สุดในเวียดนามจากข้อมูลโดยกรมสรรพากร กระทรวงการคลังเวียดนาม และได้รับการยกย่องเป็นสายการบินผู้บุกเบิกในการจัดอันดับ The Guide Awards 2018 นอกจากนี้ บริษัทยังติดอันดับที่22 ในรายชื่อ 50 สายการบินที่มีสถานทางการเงินและการดำเนินงานเข้มแข็งที่สุดของโลกในปี ค.ศ. 2018โดยAirfinance Journal ซึ่งเป็นนิตยสารชั้นนำด้านการเงินในอุตสาหกรรมการบิน

เมื่อพิจารณาจากผลลัพธ์การดำเนินงานเชิงบวกตลอด 9 เดือนที่ผ่านมา ทำให้เวียตเจ็ทคาดว่าจะสามารถสร้างรายรับและผลกำไรได้ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ในปี 2018

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่

วิวาลดี้ อินทิเกรเต็ด พับลิค รีเลชั่นส์

พันธ์นิฉาย โป่งแยง (ริบบิ้น) / [email protected] / +66 97 140 7442

สุวนันท์ จันทร์บาง (สุ) / [email protected] / +66 85 299 5285

สายการบินเวียตเจ็ท

Kieu Duong (Amy) / [email protected] / +84 932 775 066 (เวียดนาม)

###