เร่งแก้เศรษฐกิจเดิมพัน 'รัฐบาล' วาง 5 แนวทางหลักปั๊ม ‘จีดีพี’ แก้วิกฤติ

เร่งแก้เศรษฐกิจเดิมพัน 'รัฐบาล' วาง 5 แนวทางหลักปั๊ม ‘จีดีพี’ แก้วิกฤติ

เร่งแก้เศรษฐกิจเดิมพัน 'รัฐบาล' วาง 5 แนวทางหลักปั๊ม ‘จีดีพี’ แก้วิกฤติ มั่นใจฟื้นแต้มการเมือง เรียกศรัทธา ‘เพื่อไทย’

จุดอ่อนสำคัญของรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน อยู่ที่ปัญหาเศรษฐกิจ หากไม่สามารถแก้ได้ จะก่อให้เกิดวิกฤติกับพรรคเพื่อไทย ศรัทธาทางการเมืองที่เสื่อมถอยลง จะทำให้ความนิยมลดลงมากกว่าเดิม 

อย่างไรก็ตาม ตัวเลขจีดีพีของประเทศไทยตกต่ำมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2563 (วิกฤติโควิด -19) จีพีดี -6.1% ปี 2564 จีดีพี 1.6% ปี 2565 จีดีพี 2.5% ปี 2566 จีดีพี 1.9% และปี 2567 คาดการณ์จีดีพี 2.2%

ตัวเลขจีพีดีบ่งบอกว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยกำลังถดถอย เพราะตามศักยภาพของประเทศไทย จีดีพีสามารถเติบโตได้ 3.6% แต่กลับเติบโตไม่ถึงศักยภาพ ทำให้เกิดปัญหาหลายด้าน

ขณะเดียวกัน นโยบายขึ้นค่าแรงของพรรคเพื่อไทยภายในปี 2570 ต้องไม่ต่ำกว่า 600 บาทต่อวัน แต่ต้องสอดคล้องกับอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยวางเป้าว่าต้องเติบโตปี 5% จึงเป็นความท้าทายของรัฐบาลเช่นกัน
 

นอกจากนี้การลงทุนภาครัฐยังมีปัญหา โดยสภาพัฒน์ฯ รายงานในที่ประชุม ครม.ว่า การลงทุนภาครัฐติดลบ 20% เนื่องจากงบประมาณยังไม่เบิกใช้ ซึ่งส่งผลกระทบต่อเนื่องไปยังภาคเอกชน ที่ไม่มั่นใจจะลงทุน

โจทย์ใหญ่ของรัฐบาลเศรษฐา จึงอยู่ที่การแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชน ด้วยการเร่งคลอดมาตรการต่างๆออกมา เพื่อกระตุ้นในทุกภาคส่วนให้เกิดผลบวกขึ้นมา

โดยวาง 5 แนวทางหลักแก้วิกฤติเศรษฐกิจ ประกอบด้วย 1. มาตรการฟื้นฟูอสังหาริมทรัพย์ 1.1 ปรับปรุงมาตรการลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมสำหรับที่อยู่อาศัย ปี 2567 1.2 ลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับผู้ที่ต้องการปลูกสร้างบ้าน หักลดหย่อนภาษีได้ 1 หมื่นบาทต่อทุกจำนวนค่าก่อสร้าง 1 ล้านบาท

1.3 โครงการสินเชื่อบ้าน Happy Home วงเงินโครงการ 20,000 ล้านบาท 1.4 โครงการสินเชื่อบ้าน Happy Life วงเงินโครงการ 10,000 ล้านบาท 1.5 ส่งเสริมกิจการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย 

ทั้งนี้มาตรการฟื้นฟูอสังหาริมทรัพย์ รัฐบาลวางเป้าหมายว่าจะสามารถเพิ่มจีดีพีได้ 1.58%
 

2. โครงการดิจิทัลวอลเล็ต 5 แสนล้านบาท โดยแจกให้กับผู้มีอายุ 16 ปีขึ้นไป คนละ 10,000 บาท มีผู้มีสิทธิ์ 50 ล้านคน วางเป้าหมายเพิ่มจีดีพี 1.2% - 1.8%

3. กดดันธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ลดดอกเบี้ยนโยบาย โดยที่ผ่านมา “เศรษฐา” พยายามส่งสัญญาณให้คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ลดดอกเบี้ย แต่กนง.กลับมีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 2.50% ต่อไป

4. แก้หนี้ครัวเรือน ซึ่งยังเป็นปัญหาที่แก้ไขยาก เนื่องจากรัฐบาลประสบปัญหาหนี้ครัวเรือนมากที่สุด แม้จะมีการปรับโครงสร้างหนี้อยู่ก็ตาม

5. ฟื้นฟูตลาดหุ้น ด้วยการออกมาตรการจัดการกับกระบวนการฉ้อโกงในตลาดหุ้น เพราะสถานการ์ตลาดหุ้นเป็นตัวสะท้อนความเชื่อมั่นของรัฐบาล

ต้องยอมรับว่ารัฐบาลจาก “เพื่อไทย” ถูกตั้งความหวังให้เข้ามากอบกู้วิกฤติทางเศรษฐกิจ เพราะความสำเร็จในอดีตตั้งยุคพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน เป็นเครื่องการันตีความสำเร็จมาโดยตลอด

ยิ่งยี่ห้อ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี จากนักโทษที่ได้รับการพักโทษ เดินเกมเปิดตัวหน้าฉากเป็นศูนย์รวมอำนาจรัฐบาล แค่เที่ยวเทศกาลสงกรานต์ จ.เชียงใหม่ กลับมี “รัฐมนตรี” จากพรรคเพื่อไทยทุกคนแห่ต้อนรับ ความคาดหวังจากฐานเสียง “เพื่อไทย” ยิ่งมีสูง

“ทักษิณ” เชื่อว่า หลังดิจิทัลวอลเล็ตเศรษฐกิจคงกระเตื้องขึ้นเยอะ เพราะเงินที่มีอยู่ในระบบไม่พอ หลายฝ่ายเป็นห่วงแต่ธนาคาร เงินจึงถูกดูดไปจำนวนมาก หลักการของรัฐบาล เนื่องจากไทยโตช้ากว่าประเทศเพื่อนบ้านอาเซียนทั้งหมด และที่โตช้าเพราะเงินในระบบไม่เพียงพอที่จะไปหล่อเลี้ยงเศรษฐกิจ

“รัฐบาลจึงต้องเติมเงินเพื่อไปหล่อเลี้ยงให้เศรษฐกิจเดินหน้าต่อไปได้ รัฐบาลอาจจะเพิ่มหนี้ชั่วคราว แต่ก็มีตัวลดหนี้ของภาครัฐบาลได้อีก ถ้าหนี้เพิ่มทางหนึ่งและลดลงทางหนึ่ง ก็ถือว่าทุกอย่างสมดุลกัน”

ความเห็นของ “ทักษิณ” สะท้อนแนวคิดของ “เพื่อไทย” เนื่องจากทุกสายคอนเฟิร์มว่า นโยบายแจกหมื่นดิจิทัลวอลเล็ต มาจากมันสมองของ “ทักษิณ-ทีมยุทธศาสตร์” ไม่ใช่แนวคิดของ “เศรษฐา”

มีกระแสข่าวว่า “บิ๊กรัฐบาล” ได้ไฟเขียวจาก “เครือข่ายอนุรักษนิยม” ให้ดำเนินโครงการแจกหมื่นดิจิทัลวอลเล็ต แม้ในช่วงแรกจะมีแรงต้านจาก กฤษฎีกา-ป.ป.ช. ที่ไม่เห็นด้วยหากรัฐบาลจะออกกฎหมายกู้เงิน 5 แสนล้านบาท

ทว่าเมื่อมีการปรับวิธีการหาเงินมาดำเนินโครงการ มี “บิ๊กอนุรักษนิยม” การันตีความปลอดภัยให้รัฐบาลในระดับหนึ่ง ทำให้รัฐบาลค่อนข้างมั่นใจในการเดินหน้าโครงการ

ด้าน “วอร์รูมเพื่อไทย” ซึ่งประเมินสถานการณ์ทางการเมืองตลอดเวลา ยังเชื่อว่าหากรัฐบาลกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวกลับมาได้ จะสามารถกอบกู้แต้มทางการเมือง และเรียกศรัทธาจากฐานเสียง “เพื่อไทย” กลับคืนมาได้เช่นกัน

เพราะในช่วงจัดตั้งรัฐบาล “เพื่อไทย” เสียคะแนนการเมืองไปมาก เนื่องจากผิดสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชนว่าจะไม่จับมือกับ “พรรค 2 ลุง” และจัดตั้งรัฐบาลประชาธิปไตย แต่กลับต้องทอดทิ้ง “พรรคก้าวไกล” พลิกขั้วจัดตั้งรัฐบาล

เดิมพันสูงลิบของ “รัฐบาล-เพื่อไทย-ตระกูลชินวัตร” ที่ต้องจับมือกับ “หัวขบวนอนุรักษนิยม” จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทำทุกทางให้ประชาชนกลับมาอยู่ดีกินดี เก็บแต้มการเมืองไว้สำหรับการเลือกตั้งรอบหน้า

เร่งแก้เศรษฐกิจเดิมพัน \'รัฐบาล\' วาง 5 แนวทางหลักปั๊ม ‘จีดีพี’ แก้วิกฤติ