ปัจจัยการลงทุนช่วยหนุนการฟื้นตัว มีโอกาสขึ้นทดสอบ 1600 จุด

ปัจจัยการลงทุนช่วยหนุนการฟื้นตัว มีโอกาสขึ้นทดสอบ 1600 จุด

ราคาสินทรัพย์เสี่ยงยังขึ้นได้ต่อ แม้มีข่าวลบเกี่ยวกับการสอบสวนบริษัทหัวเว่ยของสหรัฐฯ

โดยหุ้นสหรัฐฯยังสามารถปิดบวกได้ทั้ง 3 ตลาด เป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน แม้เกิดความผันผวนในช่วงระหว่างการซื้อขายหลังมีรายงานว่าสหรัฐฯกำลังดำเนินการสอบสวนหัวเว่ยฐานขโมยความลับทางการค้าจากบริษัทที-โมบายล์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการเครือข่ายไร้สายของสหรัฐ รวมถึงบริษัทสหรัฐรายอื่นๆ (เพิ่มความซับซ้อนต่อการเจรจาการค้า) อย่างไรก็ตาม พฤติกรรมตลาดได้สะท้อนให้เห็นว่าประเด็นดังกล่าวส่งผลกระทบต่อตลาดจำกัด จากราคาสินทรัพย์ความเสี่ยงต่ำ อาทิ ทองคำ พันธบัตร ยังคงลดลง ขณะที่ ค่าดัชนีความกลัว (VIX Index) ปรับตัวลงทดสอบค่าเฉลี่ยรอบ 1 ปี ขณะที่ ข่าวสหรัฐฯเตรียมยกเลิกภาษีจีนบางส่วนหรือทั้งหมดตลาดยังตอบรับจำกัดเนื่องจากประเด็นดังกล่าวยังอยู่ในช่วงการถกเถียงทางนโยบาย

ราคาหุ้นกลุ่มธนาคารอาจถูกกดดันจากตัวเลขผลประกอบการที่ค่อนข้างแย่กว่าคาด ตัวเลขผลประกอบการไตรมาส 4/61 ของ TISCO, SCB, KBANK อยู่ในโทนกลาง-ลบ (TISCO: ตามคาด, SCB-KBANK: ต่ำกว่าคาด) ซึ่งอาจส่งผลให้ตลาดมีความกังวลที่เพิ่มขึ้นต่องบของธนาคารที่เหลือ BBL, KTB, TMB, BAY เราแนะหลีกเลี่ยงการเก็งกำไรหุ้นกลุ่มธนาคารในช่วงนี้โดยเฉพาะหุ้นที่ราคา Perform ดีกว่ากลุ่มมาก อาทิ BBL, KTB เนื่องจากราคามีโอกาสลงแรงหากงบแย่กว่าคาด โดยแนะนำให้รอจังหวะเข้าซื้ออีกครั้งหลังราคาปรับฐานจากการประกาศงบเสร็จ     

บรรยากาศการลงทุนช่วยหนุนการฟื้นตัว แต่ยังต้องลุ้นผ่าน 1600 จุด นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทยติดต่อกันเป็นวันที่ 6 ท่ามกลางเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นต่อ ขณะที่ปัจจัยภายในประเทศ การกำหนดวันเลือกตั้งที่ชัดเจนของรัฐบาล (24 มี.ค.) และคาดประกาศ พ.ร.ฎ.เลือกตั้งได้ภายในสัปดาห์หน้า มองเป็นปัจจัยบวกต่อจิตวิทยาการลงทุนภายใน คาดหนุนดัชนีขึ้นทดสอบ 1600 จุด อย่างไรก็ตาม เรายังไม่แนะนำเพิ่มน้ำหนักการลงทุนตราบใดที่ SET Index ยังขึ้นไม่ผ่าน 1600 จุด โดยในระยะสั้นเรามองโมเมนตัมการฟื้นตัวของตลาดยังค่อนข้างอ่อนแอจากราคาน้ำมันดิบที่ยังไม่ขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ ขณะที่นักลงทุนรอประเมินตัวเลขผลประกอบการหุ้นกลุ่มธนาคารที่เหลือ

เน้นค้าปลีก อาหาร เก็งกำไรโรงกลั่น ดิจิตอลทีวี เรามองหุ้นกลุ่ม ค้าปลีก อาหาร ท่องเที่ยว มีแนวโน้มฟื้นตัว หุ้นที่เราชอบ ได้แก่ ค้าปลีก CPALL ROBINS BJC, อาหาร TU CPF, ท่องเที่ยว MINT ERW AOT ส่วนกลุ่มไฟฟ้าและสาธารณูปโภค เราชอบ EGCO BEM แต่ไม่ไล่ ทยอยสะสมหรือซื้อเมื่ออ่อนตัว รวมถึงหุ้น PE ต่ำ อื่นๆ อาทิ TISCO ERW QH

ภาพรวมกลยุทธ์: มีโอกาสฟื้นตัวขึ้นทดสอบ 1590-1600 จุด แต่ยังไม่แนะนำเพิ่มน้ำหนักตราบใดที่ดัชนียังไม่ผ่าน 1600 จุด ระยะสั้นปัจจัยเก็งกำไรเป็นบวกในกลุ่มอาหาร ท่องเที่ยว ดิจิตอลทีวี โรงกลั่น แนะหลีกเลี่ยงหุ้นกลุ่มธนาคาร // หุ้นแนะนำวันนี้ TOP, CPF, MAJOR /เก็งกำไร VGI* (เป้า 7.95 ตัดขาดทุน 7.3), BA* (เป้า 13.50 ตัดขาดทุน 12.00)

แนวรับ 1566-1570 / แนวต้าน : 1585-1590 จุด สัดส่วน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%

ประเด็นการลงทุน

CHOW – ราคาร่วงติดฟลอร์กว่า 29.73% หลังแจ้งโครงการขนาด 8 MW เข้าข่ายรับผลกระทบจากกรณีที่ญี่ปุ่นมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายการรับซื้อไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ แต่ในส่วนของโครงการที่จำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์แล้ว อยู่ระหว่างก่อสร้าง และอื่นๆ ไม่เข้าข่าย

โอเปกลดผลิตน้ำมัน – โอเปกเผยตัวดลขการผลิตน้ำมันเดือน ธ.ค. ลดลง 7.51 แสนบาร์เรล/วัน สู่ระดับ 31.6 ล้านบาร์เรล/วัน โดยซาอุฯเป็นผู้นำในการปรับลดกว่า 4.68 แสนบาร์เรล/วัน

ประเด็นติดตาม: 18 ม.ค. – กสทช. เผยแพร่ร่างหลักเกณฑ์คืนคลื่น 700MHz / 22 ม.ค. – ครม.พิจารณาเกณฑ์คุมราคายา

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)