คุก30ปี! คดี2บิ๊กUDBPแม่ข่ายยูฟัน

คุก30ปี! คดี2บิ๊กUDBPแม่ข่ายยูฟัน

คุก30ปี! คดี2บิ๊กUDBPแม่ข่ายยูฟัน-ปรับกว่า3ล้าน ฉ้อโกงอีกคดีเปิดธนาคาร หลอกลงทุน ส่วนคดีแชร์ยูฟัน อ่านอุทธรณ์ม.ค.ปีหน้า

เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.61 ที่ห้องพิจารณา 813 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาคดีที่พนักงานอัยการคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 1 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายเค วิน ลัย อายุ 52 ปี สัญชาติมาเลเซีย ผู้จัดการธนาคาร UDBP และนายหยาง หยวน เฉา อายุ 51 ปี สัญชาติจีน รองผู้จัดการธนาคาร UDBP และบริษัท ยูดีบีพี แมนเนจเม้นท์ จำกัด โดยนายหยาง หยวน เฉา ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-3 ฐานกระทำผิดพ.ร.บ.ธุรกิจสถาบันการเงิน พ.ศ.2551 มาตรา 12, 123 พ.ร.บ.การทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2551 มาตรา 26, 27, 52, 54 พ.ร.ก.กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 มาตรา 3, 4, 12

กรณีเมื่อปี 2556 -14 พ.ค.58 จำเลยทั้งสามได้ร่วมกันใช้และก่อตั้งธนาคาร United Development Bank Of Pacific Limited (UDBP BANK) หรือธนาคารยูดีบีพี โดยไม่ได้รับอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จนคนทั่วไปเข้าใจว่าเป็นธนาคารพาณิชย์ ซึ่งเป็นสาขาตั้งอยู่ที่ประเทศสาธารณรัฐวานูอาตู และร่วมกันหลอกลวงชักชวนให้บุคคลจำนวนมากสมัครเป็นสมาชิกเข้าร่วมลงทุนฝากเงิน หรือลงทุนซื้อหุ้นกับยูดีบีพี แบงก์ ตั้งแต่ 200 - 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ โดยมีเงื่อนไขพาคนมาสมัครสมาชิกเพิ่ม จะได้รับเงินค่าคอมมิชชั่นตั้งแต่ร้อยละ 15-45 ซึ่งล้วนเป็นการหลอกลวงประชาชน เหตุเกิดที่ 198/2 อาคารไดมอนด์-รัชดา แขวง-เขตห้วยขวาง กทม. และที่อื่นเกี่ยวพันกัน จำเลยทั้งสาม ให้การปฏิเสธ โดยระหว่างพิจารณาจำเลยก็ไม่ได้รับการประกันตัว ขณะที่วันนี้จำเลยทั้งสองถูกเบิกตัวจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เพื่อมาฟังคำพิพากษา

โดยศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์-จำเลย นำสืบหักล้างแล้วเห็นว่า การกระทำของจำเลยทั้งสามเป็นความผิดตามฟ้องซึ่งเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป จึงพิพากษาให้จำคุกจำเลยที่ 1-2 คนละ 6 เดือนฐานร่วมกันใช้ชื่อหรือแสดงชื่อในธุรกิจทางการเงินว่าธนาคารโดยมิใช่สถาบันการเงิน ส่วน บจก.ยูดีบีพีฯ จำเลยที่ 3 ให้ปรับ 50,000 บาทและให้จำคุกจำเลยที่ 1-2 อีกคนละ 6 เดือนร่วมกันรับคนต่างด้าวที่ไม่มีใบอนุญาตทำงานให้ทำงาน และปรับจำเลยที่ 3 จำนวน 5,000 บาท กับให้ปรับจำเลยทั้งสามคนละ 4,000 บาทฐานร่วมกันรับคนต่างด้าวที่มีใบอนุญาตทำงานให้ทำงานกับตนผิดไปจากเงื่อนไขที่กำหนดใบอนุญาตทำงาน และฐานเป็นคนต่างด้าวได้รับอนุญาตให้ทำงาน ทำงานผิดไปจากเงื่อนไขที่ได้รับอนุญาตให้ทำงาน ปรับจำเลยที่ 1-2 คนละ 3,000 บาท

ส่วนความผิดฐานร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชนเป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักสุด ก็ให้จำคุกจำเลยที่ 1-2 รวม 6 กระทงๆละ 5 ปี เป็นจำคุกคนละ 30 ปี และปรับจำเลยที่ 3 ด้วย 6 กระทงๆละ 500,000 บาท รวมเป็นเงิน 3 ล้านบาท

รวมจำคุก "นายเค วิน" และ "นายหยาง" จำเลยที่ 1-2 คนละ 30 ปี 12 เดือน และปรับคนละ 7,000 บาท โดย "บจก.ยูดีบีพีฯ" จำเลยที่ 3 รวม 3,059,000 บาท พร้อมกับให้จำเลยที่ 1-3 ร่วมกันคืนเงินแก่ผู้เสียหายที่ 1 จำนวน 48,000 บาท , ผู้เสียหายที่ 2 จำนวน 160,000 บาท, ผู้เสียหายที่ 3 จำนวน 1,550,500 บาท, ผู้เสียหายที่ 4 จำนวน 32,000 บาท, ผู้เสียหายที่ 5 จำนวน 160,000 บาท และผู้เสียหายที่ 6 จำนวน 800,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ให้กู้ยืมเป็นต้นไป โดยให้นับโทษ "นายเค วิน" และ "นายหยาง" จำเลยที่ 1-2 ต่อจากคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.2279/2558 หมายเลขแดงที่ อ.713/2560 ของศาลนี้ด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับนายเค วิน และนายหยาง ก็เป็นแม่ข่ายระดับสูงยูฟันสโตร์ ที่บรรยายชวนลงทุนขายหน่วยลงทุนทางอิเล็กทรอนิกส์ จำหน่ายสินค้าผ่านระบบออนไลน์ หรือที่เรียกว่า U-TOKEN จำเลยร่วมคดียูฟันที่ศาลอาญา มีคำพิพากษาจำคุกคนละ 50 ปี ไปเมื่อวันที่ 20 มี.ค.2560 ด้วย โดยคดีแชร์ลูกโซ่ บริษัท ยูฟัน สโตร์ จำกัด มีจำเลย 22 รายถูกศาลตัดสินลงโทษและให้ร่วมกันคืนตัวเงินที่กู้ยืม และฉ้อโกงไปดังกล่าว รวมเป็นเงิน 356,211,209 บาท ให้กับผู้เสียหาย 2,451 คนนั้นศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในช่วงเช้าวันที่ 17 ม.ค.2562