โตโยต้าปักหลักฉะเชิงเทรา ลงทุน 2.1 หมื่นล้าน
“อีอีซี” ตั้ง 4 เขตส่งเสริมพิเศษ ยกระดับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์พัทยา เป็นเขตส่งเสริมพิเศษด้านการแพทย์ ยกระดับพื้นที่โรงงานโตโยต้า 2 แห่ง เป็นเขตส่งเสริมพิเศษอุตสาหกรรม ตั้งเขตส่งเสริมพิเศษพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ รองรับการลงทุนของ อาลีบาบา มีมูลค่าลงทุนรวมกว่า 4.2 หมื่นล้านบาท พร้องปรับปรุงแผนพัฒนา อีอีซีไอ ดึงการลงทุนกว่า 1.4 แสนล้านบาท
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจเพื่อบริหารการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กบอ.) ว่า กบอ.ได้พิจารณาโครงการต่างๆ ที่จะนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ในวันที่ 23 ม.ค. 2562 โดยจะเสนอตั้งเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษในระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) เพิ่ม 4 พื้นที่ โดยมีพื้นที่รวม 3,063 ไร่ เงินลงทุน 42,480 ล้านบาท คือ
1.เขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษเพื่อกิจการพิเศษ หรือ EECmd ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์พัทยา มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมนวัตกรรมการแพทย์ ยานยนต์ ดิจิทัล มีพื้นที่ 566 ไร่ พื้นที่ลงทุน 322 ไร่ เงินลงทุน 8,000 ล้านบาท ภายใน 10 ปี
เตรียม 120 ไร่ให้อาลีบาบา
2.เขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษเพื่อกิจการอุตสาหกรรม รูปแบบ Cluster ในฉะเชิงเทรา 3 แห่ง ได้แก่ พื้นที่โตโยต้า บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา พื้นที่ 1,640 ไร่ พื้นที่ลงทุน 1,353 ไร่ เงินลงทุน 1,000 ล้านบาท ภายใน 5 ปี มุ่งเน้นในอุตสาหกรรมยานยนต์แห่งอนาคต
พื้นที่โตโยต้า ในนิคมอุตสาหกรรมเกตเวย์ จ.ฉะเชิงเทรา มีพื้นที่ลงทุน 625 ไร่ เงินลงทุน 20,000 ล้านบาท ภายใน 5 ปี มุ่งเน้นอุตสาหกรรมยานยนต์แห่งอนาคต และพื้นที่พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จ.ฉะเชิงเทรา ที่บริษัท ดับบลิวเอชเอ เวนเจอร์ โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) เป็นเจ้าของโครงการ มีพื้นที่ 232 ไร่ พื้นที่ลงทุน 120 ไร่ เงินลงทุน 13,480 ล้านบาท ภายใน 5 ปี มุ่งเน้นอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ ดิจิทัล และโลจิสติกส์ ซึ่ง อาลีบาบา จะเข้ามาลงทุนในพื้นที่นี้
“ในเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษเหล่านี้ที่ไม่ได้อยู่ในนิคมอุตสาหกรรม จะมอบหมายให้การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เป็นเป็นผู้เข้าไปดูแลในเรื่องของโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ และด้านสิ่งแวดล้อมให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดไว้”
กบอ.ปรับแผนแม่บทอีอีซีไอ
นอกจากนี้ กบอ.เห็นชอบปรับปรุงแผนแม่บทการพัฒนาเขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซีไอ) ที่กระทรวงวิทยาศาสตร์ และสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เป็นผู้รับผิดชอบ โดยอีอีซีไอจะเน้นในอุตสาหกรรมที่เพิ่มมูลค่าให้กับผลิตผลการเกษตร การทำเกษตรสมัยใหม่ และเคมีชีวภาพ ซึ่งจะใช้เทคโนโลยีทำการวิจัยผลิตภัณฑ์ใหม่ครบวงจร โดยคาดว่าช่วง 20 ปี ภาครัฐและเอกชนจะร่วมลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและห้วงปฏิบัติการชั้นสูง 33,160 ล้านบาท และภาคเอกชนจะลงทุนอีก 1.1 แสนล้านบาท รวมแล้วมีเงินลงทุน 143,160 ล้านบาท และจะส่งผลต่อเศรษฐกิจ 2.71 แสนล้านบาท
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ออกแบบโครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณูปโภค และ สวทช.ได้ออกแบบกลุ่มอาคารอีอีซีไอ ระยะที่ 1A แล้ว โดยทั้ง 2 รายการกำลังจัดซื้อจัดจ้างก่อสร้าง และคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในเดือน ก.พ.2562 มีวงเงินก่อสร้างรวม 4,000 ล้านบาท รวมทั้ง ปตท.ได้โอนกรรมสิทธิ์ที่ดินวังจันทร์วัลเลย์ 153 ไร่ ที่ยังประกาศเป็นเขตส่งเสริมไม่ครบถ้วน เนื่องจากติดเงื่อนไขการโอนสิทธิครอบครองที่ดินเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งทำให้อีอีซีไอมีเนื้อที่รวม 3,455ไร่
ส่วนคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ได้ขยายพื้นที่ให้สิทธิประโยชน์ในอีอีซีไอ ให้ครอบคลุมการลงทุนในอุทยานวิทยาศาสตร์อื่น ซึ่งที่ผ่านมามี 4 บริษัทได้แก่ 1.ปตท.สผ. 2.พีทีที โกลบอลเคมิคัล 3.บางกอก อินดัสเทรียลแก๊ส และ 4.BioLASCOได้แสดงเจตจำนงลงทุนอาคารนวัตกรรมใน อีอีซีไอ เพิ่มเติมจากที่มี 4 บริษัทตั้งห้องปฏิบัติการในสถาบันวิทยสิริเมธีแล้ว รวมทั้งมหาวิทยาลัยเกียวโตได้ตั้งห้องปฏิบัติการด้านวัสดุสมัยใหม่ร่วมกับสถาบันวิทยสิริเมธีแล้ว
“อีอีซีไอ ไม่เพียงแต่จะพัฒนาอุตสาหกรรมเทคโนโลยีชั้นสูง แต่ช่วยพัฒนาเทคโนโลยีให้กับเอสเอ็มอีในภาคตะวันออก 101 ราย บ่มเพาะผู้ประกอบการ 13 ราย ถ่ายทอดเทคโนโลยีให้แก่ 63 ชุมชน และเกษตรกร 1,432 คน รวมถึงนำร่องการใช้ Plant Factory ซึ่งเป็นเทคโนโลยีสำคัญภายใต้เขตอุตสาหกรรมชีวภาพร่วมกับจังหวัดนครพนม”
เร่งดันเมืองดิจิทัล “อีอีซีดี”
ส่วนโครงการเขตส่งเสริมอุตสาหกรรมและนวัตกรรมดิจิทัล (อีอีซีดี) จะเร่งผลักดันโครงการพัฒนาเมืองดิจิทัลตัวอย่าง ภายใต้แนวคิดเมืองอัจฉริยะและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะยกระดับมาตรฐานความเป็นอยู่ของประชาชนและชุมชน โดยโครงการฯ ตั้งอยู่บนพื้นที่เขตส่งเสริมอุตสาหกรรมและนวัตกรรมดิจิทัล (Digital Park Thailand) โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1.งานการออกแบบ ก่อสร้าง ให้บริการ และบำรุงรักษาโครงสร้างพื้นฐาน ระบบสาธารณูปโภค ภายใต้แนวคิดเมืองอัจฉริยะ (สมาร์ทซิตี้) 2.การจัดสรรพื้นที่โครงการฯ และการดำเนินการประชาสัมพันธ์และทำการตลาดเพื่อสนับสนุนและดึงดูด นักลงทุนเป้าหมายเข้ามาลงทุนและเป็นผู้ใช้ประโยชน์ในพื้นที่
“การพัฒนาเมืองดิจิทัลนอกจากจะมีความสอดคล้องกับความพร้อมและมีความเชื่อมโยงกับโครงการสำคัญในการพัฒนาอีอีซีแล้ว ยังช่วยเพิ่มศักยภาพของไทยให้เป็นศูนย์กลางการลงทุนและพัฒนานวัตกรรมดิจิทัล ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในอุตสาหกรรมต่างๆ”
เตรียมชงแผนสิ่งแวดล้อม
นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก กล่าวว่า กบอ.เห็นชอบร่างแผนสิ่งแวดล้อมในอีอีซี ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำ เพื่อให้เกิดความมั่นใจเรื่องสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ โดยและมอบหมายให้คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) รวบรวมเสนอ กพอ.
ทั้งนี้ ร่างแผนสิ่งแวดล้อม อีอีซี พ.ศ. 2561-2564 มีสาระสำคัญ ดังนี้ 1.สถานการณ์คุณภาพสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติในอีอีซี 2.กรอบแนวคิดและทิศทางการจัดทำแผน 3.กรอบแนวทางการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในอีอีซี 4. วิสัยทัศน์ เป้าประสงค์ ยุทธศาสตร์ และมาตรการ ของแผนสิ่งแวดล้อมอีอีซี 5.แผนปฏิบัติการและโครงการเร่งด่วน 6.การขับเคลื่อนแผน โดยในช่วงเริ่มต้นได้เตรียมของบ 8.5 พันล้านบาท จากงบกลางปี 2562 เพื่อใช้ในโครงการด้านสิ่งแวดล้อมเร่งด่วน