ขยายประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน 3 จว.ชายแดนภาคใต้ อีก 3 เดือน

ขยายประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน 3 จว.ชายแดนภาคใต้ อีก 3 เดือน

รัฐบาลขยายประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน 3 จว.ชายแดนภาคใต้ อีก 3 เดือน ให้ “สุคิริน” ใช้พ.ร.บ.มั่นคงฯแทน

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 16 พ.ย.61 ที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.วัลลภ รักเสนาะ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน ครั้งที่ 4 ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมว่า วันนี้มีการรายงานสถานการณ์ในพื้นที่ให้รับทราบ ซึ่งสถานการณ์ความรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ดีขึ้น และมีการพูดถึงการทำงานของหน่วยงานต่างๆในภาคใต้ โดยเฉพาะกองทัพภาคที่ 4 พล.อ.ประวิตรได้กำชับให้มีการเน้นย้ำเรื่องของศูนย์ปฏิบัติการร่วมระดับอำเภอ โดยจะเป็นการบูรณาการทั้งทหาร ตำรวจ พลเรือน เพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่ เพราะถือเป็นปัญหาสำคัญในรัฐบาล ซึ่งจากการปฏิบัติที่ผ่านมาถือว่าได้รับการตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี ส่วนการดำเนินการของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ปีหน้าจะมีการดำเนินการร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขในการรณรงค์การรักษาโรคหัด ที่ปัจจุบันกำลังมีการระบาดในพื้นที่ภาคใต้

เลขาธิการสมช. กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ในที่ประชุมได้เห็นชอบให้มีการขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อเป็นเครื่องมือของเจ้าหน้าที่รัฐในการปฏิบัติงาน โดยขยายออกไปอีก 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 20 ธ.ค.61 ถึง 19 มี.ค.62 นอกจากนี้ยังได้มีการพิจารณาปรับลดพื้นที่ อ.สุคิริน จ.นราธิวาส ออกจากพื้นที่การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน และนำพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 มาบังคับใช้แทน เพราะ อ.สุคิรินได้ผ่านเกณฑ์การประเมินแล้ว เมื่อถามว่ามีพื้นที่ไหนอีกหรือไม่ ที่จะปลดจากการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน เลขาฯสมช. กล่าวว่า วันนี้ที่พิจารณามีอยู่ 4-5 อำเภอ ซึ่งยังไม่ผ่านเกณฑ์ ก็ต้องพิจารณาต่อไปจนกว่าจะผ่านตัวชี้วัด

เลขาธิการสมช. กล่าวถึงความคืบหน้าการพูดคุยสันติสุขว่า ตอนนี้ต้องเดินหน้าต่อไป ซึ่งมีแนวทางในการดำเนินการอยู่แล้ว เมื่อถามว่าปลายเดือนนี้มีกำหนดการที่จะพบกันหรือไม่ เลขาฯสมช.กล่าวว่า มีกำหนดการพบกันอยู่เรื่อยๆอยู่แล้ว ซึ่งเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการพูดคุยที่ดำเนินการอยู่