พท. ดักคอ 'ประยุทธ์' ขอให้รักษาสัจจะวันเลือกตั้ง

เมื่อวันที่ 13 พ.ย 61 นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เมื่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ไปรับปากกับประชาคมโลกแล้วว่าประเทศไทยจะมีการเลือกตั้งในวันที่ 24 ก.พ.62 ในระหว่างการประชุมอาเซม ก็ถือเป็นคำมั่นสัญญาที่ต้องยึดถือ ไม่ควรบิดพลิ้ว เพราะคนที่ พล.อ.ประยุทธ์ ไปรับปากเรื่องวันเลือกตั้งนั้นล้วนแต่เป็นบุคคลสำคัญระดับผู้นำประเทศ ไม่เช่นนั้นคนที่เสียหายจะเป็นตัว พล.อ.ประยุทธ์ เองเพราะเคยเลื่อนเลือกตั้งมาแล้วหลายครั้ง ท่านจะไม่เหลือเครดิตในสายตาชาวโลกและคนไทยทั้งประเทศ เนื่องจากจะถูกมองว่าไม่รักษาคำพูด ไม่มีสัจจะ ที่สำคัญ ขณะนี้คนไทยส่วนใหญ่เฝ้ารอการเลือกตั้งและเตรียมตัวจะออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งกันในวันที่ 24 ก.พ 62 อย่างคึกคัก

นางลดาวัลลิ์ กล่าวต่อว่ากกต. มีหน้าที่ต้องสร้างความมั่นใจว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นจริงๆ ในวันที่ 24 ก.พ 62 อย่างที่ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ประกาศไว้ ไม่ใช่ว่ากกต. เป็นฝ่ายแสดงความไม่ชัดเจนเรื่องวันเลือกตั้งเสียเอง และกกต.ไม่ควรนำประเด็นความไม่พร้อมของพรรคการเมืองบางพรรค มาเป็นเหตุผลของการเลื่อนเลือกตั้ง ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง กกต. ต้องทำหน้าที่ด้วยความเป็นกลางในฐานะองค์กรอิสระ ควรคำนึงถึงความต้องการของคนส่วนใหญ่ที่ต้องการเลือกตั้งในวันที่ 24 ก.พ 62 เพื่อให้ประเทศเกิดความเชื่อมั่น และมีรัฐบาลจากการเลือกตั้งมาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบต่อคนส่วนใหญ่ในขณะนี้

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ อดีตส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการเปิดประชุมพรรคพลังประชารัฐที่เพื่อรับสมัครสมาชิกวันนี้ว่า ขอแสดงความยินดีกับพรรคการเมืองใหม่ที่มีรากมาจากบุคคลในรัฐบาลและคสช. ที่สุดท้ายก็ต้องเดินตามระบบประชาธิปไตยที่ประชาชนทั่วโลกยอมรับ แต่วันนี้ประชาชนคนไทยคงอยากเห็นการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรม ไม่อยากเห็นการเอารัดเอาเปรียบในโอกาสที่ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่บอบประชาธิปไตย

แต่วันนี้กลับเห็นได้ชัดเจนว่า 3 รัฐมนตรีของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ กลับไปทำงานการเมือง แม้จะออกมาบอกว่าไปช่วงเช้าและทำพรรคการเมืองวันหยุดเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ แต่ภาพที่เห็นไม่สง่างามเพราะไม่ใช่แค่ตัว 3 รมต.แต่มีองค์คาพยพของหน่วยงานกระทรวงที่ต้องรอการบริหารจัดการให้คุ้มภาษีประชาชนเพราะรังแต่จะทำให้ประชาชนเคลือบแคลงใจ ว่าถ้าเป็นอย่างนี้จะมีความเป็นกลางและบริหารราชการแผ่นดินอย่างไร

"วันนี้ประเทศไทยกำลังก้าวไปในโลกแห่งความเจริญ กำลังจะเป็นที่ยอมรับหาก มีรัฐบาลที่มาจากประชาชนโดยแท้ 4รมต.ไม่ควรยื้อเวลาออกไป หากจะเข้าสู่สนามเลือกตั้งที่สง่างามไม่ควรดันทุรังยึดติดเก้าอี้ รมต."

นายจิรายุกล่าวอีกว่า เห็นด้วยกับนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ที่บอกว่านายกรัฐมนตรี ไม่เหมาะที่จะไปพูดเชียร์ พรรคการเมืองในขณะที่ดำรงตำแหน่งในรัฐบาล ตนไม่ทราบว่านายวิษณุมองเห็น3รัฐมนตรี ที่ไปนั่งรับสมาชิกพรรคพปชร.เมื่อเช้าหรือไม่ ถ้าเห็น นายวิษณุควรจะทำอย่างไร หากยังมีการปากว่าตาขยิบแบบนี้ จะให้ชาวโลกมองว่าประเทศไทยมี “การเลือกตั้งอย่างมีความบริสุทธิ์ยุติธรรม” ได้อย่างไร