“อภิสิทธิ์” ยันขอเป็นตัวแทนพรรค ไม่แบ่งกลุ่มศึกชิงเก้าอี้ พร้อมดึงทุกคนเข้าทำงานด้วย
เมื่อเวลา 11.30 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และผู้สมัครชิงหัวหน้าพรรคหมายเลข 1 กล่าวว่า การสมัครชิงหัวหน้าพรรคเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ตนดีใจที่เห็นสมาชิกพรรคตื่นตัวแสดงออกให้เห็นถึงว่าเขาอยากเป็นเจ้าของพรรค หวังว่าจากนี้ไปจนถึงวันที่ 5 พ.ย. การหยั่งเสียงจะมีความคึกคัก ร่วมกันกำหนดอนาคตของพรรค อีกทั้งหวังว่ากระบวนการนี้ของเราจะเป็นแบบอย่างให้พรรคการเมืองอื่นด้วย ซึ่งการแข่งขันก็ต้องมีกระทบกระทั่งกันบ้าง จะหลอกว่าไม่มีเลยเป็นไปไม่ได้ แต่เราต้องเป็นแบบอย่างว่ากระทบกระทั่งอย่างไรก็อยู่ในกติกาอย่างสร้างสรรค์ หากกลัวว่าแข่งขันแล้วมีปัญหา เราจะไม่มีทางเป็นประชาธิปไตยได้ แต่ยืนยันว่าส่วนตัวไม่ได้กระทบกระทั่งกับใคร ส่วนที่มีการพาดพิงถึงตนก็ไม่เป็นไร ถือว่าเป็นนักประชาธิปไตย ขอให้อยู่ในขอบเขต แต่อย่าส่งผลกระทบต่อส่วนรวมและพรรคประชาธิปัตย์
เมื่อถามถึงจุดยืนที่จะไม่นำพาพรรคไปอยู่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหมายความว่าอย่างไรนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า พรรคจะต้องเป็นตัวของตัวเอง และต้องเป็นทางเลือกหลักของประเทศ อย่าปล่อยให้พรรคถูกใครกล่าวหาว่าต้องลากไปอยู่ข้างนั้นข้างนี้ เพราะอุดมการณ์ของพรรคเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ให้ประเทศไทยได้ดีที่สุด ไม่ใช่อิงกับฝ่ายอื่น
ถามย้ำว่าโครงสร้างทางการเมืองมีฝ่ายรัฐบาล กับฝ่ายค้าน พรรคประชาธิปัตย์จะอยู่ฝ่ายไหน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ประชาธิปัตย์จะไปขอประชาชนให้สนับสนุนเราเป็นรัฐบาลด้วยตัวเอง และถ้าตัวเองเป็นรัฐบาลไม่ได้ ก็ต้องเชิญชวนคนอื่นมาร่วมกับเรา โดยเป็นคนที่เชื่อในแนวทางและอุดมการณ์ของเรา ซึ่งหากได้เป็นรัฐบาลต้องมั่นใจ ทำในสิ่งที่บอกกับประชาชนได้ ตนไม่ต้องการนำพรรคไปเป็นรัฐบาลแล้วสุดท้ายทำอะไรไม่ได้เลย ไม่สามารถทำในสิ่งที่บอกกับประชาชนได้ หรือทำในสิ่งที่ขัดกับอุดมการณ์ความเชื่อของเราก็ไม่มีประโยชน์ ดังนั้น ขอให้เวลากับเรา เพราะวันที่ 5 พ.ย.กระบวนการเลือกหัวหน้าพรรคก็จบ และวันที่ 11 พ.ย. ก็ได้คณะกรรมการบริหารชุดใหม่ เราจะมุ่งหน้าเป็นเส้นทางหลักในการเป็นพรรคการเมืองหลักของประเทศ
เมื่อถามถึงสโลแกนของนายอภิสิทธิ์ ในการชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค ในฐานะผู้สมัครหมายเลข 1 กล่าวว่า ตนชัดอยู่แล้วว่า “มุ่งมั่นเรื่องอุดมการณ์ มุ่งหน้าเพื่ออนาคตของประเทศ” นี่คือสิ่งที่สำคัญ วันนี้ประชาชนต้องการพรรคการเมืองที่มีจุดยืนอุดมการณ์ที่ชัดเจน ประชาชนเบื่อการเมืองเพื่อผลประโยชน์ การเมืองเรื่องของการแย่งชิงอำนาจ เขาต้องการการเมืองที่บอกว่าแนวคิดนำพาบ้านเมืองคืออะไร ซึ่งหากตนได้เป็นหัวหน้าพรรคต่อก็จะทำเต็มที่ เพื่อให้พรรคได้รับเสียงสนับสนุนมากที่สุดจนได้เป็นรัฐบาล และนำแนวคิดไปพัฒนาบ้านเมือง ซึ่งเป็นเป้าหมายอันดับที่ 1 อยู่แล้ว และคิดว่าใครเป็นหัวหน้าพรรคต้องทำแบบนี้ ไม่ควรทำแบบอื่น
ถามต่อว่าจะมีการเปิดตัวทีมงานสนับสนุนหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ครั้งนี้เป็นเพียงการหยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรค ซึ่งจะต้องมีการประชุมเลือกกก.บห.จึงไม่มีการแบ่งกลุ่ม พรรคประชาธิปัตย์จะต้องเป็นหนึ่งเดียว หากตนได้เป็นหัวหน้าพรรคต่อก็จะให้ทุกคนทำงานตามความสามารถของตัวเอง จึงไม่จำเป็นต้องแบ่งกลุ่ม แม้ผู้สมัครคนอื่นจะมีกลุ่มเพื่อนทั้งกลุ่มเพื่อนอลงกรณ์ และกลุ่มเพื่อนหมอวรงค์ แต่ตนยืนยันว่าเป็นอาสาและตัวแทนของทั้งพรรค ไม่มีกลุ่ม ทั้งนี้ในช่วงหาเสียงหัวหน้าพรรคตั้งใจจะเดินทางไปพบสมาชิกให้มากที่สุด ส่วนมั่นใจหรือไม่ว่าจะได้เป็นหัวหน้าพรรคนั้น ตนคิดว่าอยู่ที่สมาชิกพรรค แต่ส่วนตัวก็มั่นใจว่าสมาชิกสนับสนุนเป็นจำนวนมาก แต่เมื่อแข่งขันกันก็ต้องให้เกียรติซึ่งกันและกัน
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการจับฉลากผู้สมัครชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคคนใหม่ของพรรคประชาธิปัตย์ ทั้ง3คน ได้หารือร่วมกันเพื่อเลือกคณะกรรมการเลือกตั้งพรรค(กกต.) ที่จะดูแลการหยั่งเสียงจำนวน 5 คน โดยตัวแทนของนายอลงกรณ์คือ นายเมฆินทร์ เอี่ยมสะอาด ส่วนนพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส่งนายชัยวุฒิ ผ่องแผ้ว ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ส่งนายธนา ชีรวินิจ สำหรับกกต.พรรคอีก 2 คน คือ นายพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค และนายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ โดยจะมีการนำรายชื่อทั้ง 5 คน เข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคในวันที่ 9 ต.ค. เวลา 09.30 น. เพื่อแต่งตั้งอย่างเป็นทางการต่อไป