'ไทย–จีน' ผนึกความร่วมมือดันเป้ายอดการค้า 1.4 แสนล้านดอลล์

'ไทย–จีน' ผนึกความร่วมมือดันเป้ายอดการค้า 1.4 แสนล้านดอลล์

"ไทย–จีน" ผนึกความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้า ดันเป้ายอดค้าทวิภาคี 1.4 แสนล้านดอลล์ ภายในปี 2021

นายหวัง หย่ง มนตรีแห่งรัฐของสาธารณรัฐประชาชนจีน และ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีของไทย ได้ร่วมเป็นประธานและกล่าวปาฐกถาพิเศษในงานสัมมนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีน-ไทย "Thailand-China Business Forum 2018 : Comprehensive Strategic Partnership through the Belt and Initiative and the EEC" โดยมีตัวแทน ผู้บริหารจากภาคอุตสาหกรรมและการพาณิชย์ ทั้งจีน-ไทย และจากหลากหลายวงการจำนวนกว่า 600 ท่านเข้าร่วมงาน วันที่ 24 สิงหาคม 2561 ณ โรงแรม แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค สุขุมวิท 22 กรุงเทพฯ

โดยดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ได้กล่าวถึง นโยบาย Belt and Road Initiative (BRI) ของประเทศจีนได้กลายเป็นพลังสำคัญที่ทำให้กลุ่มประเทศอาเซียนกลายเป็นทำเลอันเป็นยุทธศาสตร์ที่เชื่อมโยงภูมิภาคสำคัญของโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศไทยซึ่งตั้งอยู่ในกลางของภูมิภาคอาเซียน ทางรัฐบาลไทยจึงเห็นว่าสถานการณ์ในวันนี้เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการขยายการลงทุนของจีนในประเทศไทย งานนี้จึงเป็นโอกาสที่ดียิ่งที่รัฐบาลไทยจะได้มีโอกาสแนะนำนโยบายเศรษฐกิจที่สำคัญของรัฐบาลโดยเฉพาะนโยบายความร่วมมือทางด้านอุตสาหกรรม การค้า และการลงทุนของไทยกับจีน คณะนักธุรกิจจีนจะได้รับทราบข้อมูลความคืบหน้าเกี่ยวกับโครงการเชื่อมไทยกับภูมิภาคเอเชียและจีนภายใต้โครงการ EEC

นายหวัง หย่ง ได้กล่าวว่า ความร่วมมือระหว่างประเทศจีนและประเทศไทยมีรากฐานอันมั่นคงและยั่งยืน เปี่ยมไปด้วยพลวัตรและประสบผลสำเร็จอย่างสวยงาม นับเป็นแบบอย่างของความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ต่อกันระหว่างประเทศ และนำมาซึ่งพลังขับเคลื่อนที่ยิ่งใหญ่มาสู่การพัฒนาเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ ยอดมูลค่าการค้าระหว่างจีนและไทยในปี 2017 ได้ทะลุ 8 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ภายใต้กรอบการค้าเสรีจีน-อาเซียน จีนได้ยกเว้นภาษีนำเข้าสำหรับสินค้าไทยกว่า 90% และส่งเสริมการค้าขายข้าวและยางพาราต่อกันได้อย่างสำเร็จ โครงการรถไฟความเร็วสูงจีน-ไทยได้เริ่มก่อสร้างขึ้นอย่างเป็นทางการ ส่วนดาวเทียมที่ทั้งสองฝ่ายร่วมกันออกแบบและสร้างขึ้นนั้นกำลังจะถูกปล่อยจรวดออกสู่อวกาศในเร็วๆ นี้ จีนและไทยล้วนเป็นประเทศกำลังพัฒนา โครงสร้างอุตสาหกรรมของทั้งสองสามารถสอดรับและเสริมสร้างซึ่งกันและกันได้ ยุทธศาสตร์ในการพัฒนาประเทศก็มีความสอดคล้องกันในระดับสูง สมควรที่จะผลักดันให้ความร่วมมือระหว่างสองประเทศก้าวหน้าไปสู่ขนาดยิ่งใหญ่ ขอบเขตกว้างขวาง และระดับลึกซึ้งมากยิ่งขึ้นต่อไป และพยายามบรรลุเป้าหมายยอดมูลค่าการค้าทวิภาคีให้ได้ 140,000 ล้านเหรีญสหรัฐฯ ภายในปี 2021

จีนยินดีส่งเสริมความร่วมมือกับไทยภายใต้กรอบความร่วมมือระหว่างประเทศตามข้อริเริ่ม “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” สนับสนุนวิสาหกิจและองค์กรการเงินของจีนที่มีศักยภาพและน่าเชื่อถือเข้ามาลงทุนใน“โครงการระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก” โดยบนหลักการ “วิสาหกิจภาคเอกชนเป็นหลัก รัฐบาลเป็นผู้ส่งเสริม ปฏิบัติตามกลไกการตลาด” และพยายามขยายความร่วมมือทั้งด้านอิเล็กทรอนิกส์ดิจิทัล การเกษตรเชิงนิเวศ อุตสาหกรรมดิจิทัล บริการท่องเที่ยว วัฒนธรรมและการศึกษา เป็นต้น

จีนจะดำเนินการปฏิรูปอย่างลึกซึ้งต่อไป ลดเงื่อนไขเข้าถึงตลาดจีนให้น้อยลง เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ดึงดูดการลงทุนจากประเทศไทยมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ จีนยินดีและพร้อมที่จะร่วมมือกับฝ่ายไทยอย่างใกล้ชิดในการรักษาไว้ซึ่งระบบการค้าพหุภาคีโดยมีองค์การการค้าโลกเป็นศูนย์กลาง และผลักดันสร้างการค้าการลงทุนอย่างอิสระเสรีและสะดวกสบายมากขึ้น