'ไกก้อน-มาริโมะเมืองไทย' ดูดสารปนเปื้อนฟื้นฟูแหล่งน้ำ

'ไกก้อน-มาริโมะเมืองไทย' ดูดสารปนเปื้อนฟื้นฟูแหล่งน้ำ

นักวิจัย วิทยาศาสตร์ฯ มธ. เปิดตัว “ไกก้อน-มาริโมะ เมืองไทย” ทรงโดม ช่วยดูดซับสารเคมีปนเปื้อนแหล่งน้ำในภาคอุตสาหกรรมและการเกษตร

ไม่กระทบสัตว์น้ำหรือทิ้งสารพิษตกค้างในสิ่งแวดล้อม เผย 7 แม่น้ำสายหลักมีสารเคมีเกินค่ามาตรฐาน ฝากรัฐเดินหน้าหนุนผลิตไกก้อน เป็น “อีโค่บอลพันธุ์ใหม่” ฟื้นฟูแหล่งน้ำ เชื่อยกระดับมูลค่า “สาหร่ายไก” สู่พืชเศรษฐกิจที่สร้างรายได้มหาศาลแก่ไทย

“ไกก้อน”สาหร่ายดูดสารพิษในน้ำ

น.ส.สุเปญญา จิตตพันธ์ อาจารย์ประจำสาขาวิชาเทคโนโลยีชีวภาพคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มธ. ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีชีวภาพของสาหร่ายและแพลงก์ตอนกล่าวว่า การพัฒนาและคิดค้นไกก้อน มาริโมะเมืองไทย นวัตกรรมสาหร่ายทรงกลมพันธุ์ไทย ถือเป็นการต่อยอดจุดเด่นของสาหร่ายไก ซึ่งเป็นพืชน้ำรูปแบบใหม่ที่สามารถดูดซับสารเคมีในแหล่งน้ำ ควบคู่ไปกับใช้ตกแต่งตู้ปลา และเป็นอาหารของสัตว์น้ำขนาดเล็ก ที่สามารถปรับตัวเข้ากับในสภาพอากาศของไทยได้เป็นอย่างดี

โดยจากการศึกษาวิจัย พบว่า ไกก้อนมีศักยภาพทั้งในแง่ของการเป็นตัวช่วยดูดซับสารเคมีในแหล่งน้ำ และแหล่งอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง ดังนั้น ผลการทดสอบและพัฒนาประสิทธิภาพชี้ชัดว่าไกก้อน สามารถดูดซับสารเคมีที่ปนเปื้อนในแหล่งน้ำ จากทั้งภาคอุตสาหกรรมและภาคการเกษตรได้โดยเฉพาะในกลุ่มโลหะหนัก อาทิ ไนเตรต ฟอตเฟส เป็นต้น โดยไม่กระทบสัตว์น้ำหรือทิ้งสารพิษตกค้างในสิ่งแวดล้อม

ทั้งนี้ โครงการวิจัยดังกล่าวได้มีการพัฒนามากว่า1 ปี โดยเป็นการดัดแปลงรูปแบบจาก2องค์ประกอบสำคัญ คือ เซลล์สาหร่ายไกในระยะพัก(Resting Stage) และสารขึ้นรูป (Alginate)มาทำปฏิกิริยาและสร้างโครงข่ายร่วมกันในอัตราส่วนที่เหมาะสม และขึ้นรูปเป็นทรงกลมพร้อมบรรจุขวดทดลองและบิกเกอร์ที่มีอาหารเลี้ยงเชื้อสาหร่าย ตั้งทิ้งไว้ในอุณหภูมิและมีแสงสว่างเหมาะสม เพียง 2-3 สัปดาห์เท่านั้น สาหร่ายจะจับตัวเป็นก้อนกลม และมีขนยาวสวยพร้อมใช้งานทันที

อย่างไรก็ตาม สาหร่ายไก(Cladophora) เป็นสาหร่ายน้ำจืดสีเขียวสายพันธุ์ไทย ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติและสามารถพบได้ทั่วไปในแหล่งน้ำจืด ทั้งที่เป็นแหล่งน้ำไหล และน้ำนิ่ง ในระดับความลึกไม่เกิน1เมตร โดยจะมีลักษณะเป็นเส้นสายขนาดยาว มีผิวสัมผัสลื่น จับตัวกันเป็นแพสีเขียว และไม่สวยงาม

แม่น้ำ7สายหลักสารเคมีเกินมาตรฐาน

นายราเมศ จุ้ยจุลเจิม นักศึกษาระดับปริญญาเอก สาขาวิชาเทคโนโลยีชีวภาพทีมวิจัยนวัตกรรมสาหร่าย“ไกก้อน” มาริโมะเมืองไทยกล่าวว่ากระทรวงอุตสาหกรรม ระบุว่าปี 2560 ยังพบสารเคมีเกินค่ามาตรฐานในแม่น้ำทั้ง 7 สายหลักของไทยประกอบด้วย แม่น้ำท่าจีน เจ้าพระยาตอนบนและล่าง น้ำพอง บางปะกง แม่กลอง และทะเลสาบสงขลา จากการปล่อยน้ำเสียของโรงงานอุตสาหกรรม โดยรอบจำนวน 68 โรงจากจำนวนโรงงานที่ผ่านการตรวจสอบแล้วทั้งหมด 1,044โรง ซึ่งไกก้อน จะมีประโยชน์ต่อการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมของโรงงาน ภาคอุตสาหกรรมต่างๆ อย่างมาก เพราะหากได้รับการพัฒนาและผลิตให้มีปริมาณเพียงพอต่อแหล่งน้ำเสีย จะสามารถช่วยบำบัดและฟื้นฟูแหล่งน้ำให้มีคุณภาพยิ่งขึ้น อีกทั้ง เป็นการยกระดับสาหร่ายไกสู่พืชเศรษฐกิจที่สร้างรายได้มหาศาลแก่ประเทศไทยได้ในอนาคต หลังจากนี้ ทีมนักวิจัยจะพัฒนาคุณสมบัติการดูดซับสารเคมีให้มีเสถียรภาพยิ่งขึ้นเพื่อวางจำหน่ายเชิงพาณิชย์นอกจากนี้ ทีมนักวิจัย ยังสามารถตรึงสาหร่ายไกให้ขึ้นรูปเป็น “ทรงโดม” ที่มีคุณสมบัติ และความสามารถพิเศษเช่นเดียวกับไกก้อน เพื่อสะท้อนถึงตึกโดมอัตลักษณ์อันโดดเด่นของมธ.ด้วย

ยกระดับงานวิจัยช่วยแก้ปัญหา

นายสมชาย ชคตระการ คณบดีคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มธ.กล่าวว่า คณะวิทยาศาสตร์ฯ มธ. เล็งเห็นถึงความสำคัญของปัญหาสังคมในทุกมิติ จึงมีนโยบายส่งเสริมกระบวนการเรียนการสอนแบบบูรณาการ เพื่อบ่มเพาะทักษะให้แก่นักศึกษา ผ่านภาคทฤษฎีและปฏิบัติ โดยใช้โครงงานเป็นฐาน (Project-based Learning)และใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem-based Learning)สู่งานวิจัยที่บูรณาการองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ที่สามารถช่วยแก้ปัญหา และยกระดับคุณภาพสังคมไทย ได้หลากหลายด้าน ดังนั้น งานวิจัยของคณะวิทยาศาสตร์ฯ มธ. ล้วนมีศักยภาพในการใช้งานได้จริง และต่อยอดได้ในเชิงพาณิชย์ได้ สำหรับอุตสาหกรรม การเกษตร หน่วยงานที่สนใจสามารถสอบถามเพิ่มได้ที่ สาขาวิชาเทคโนโลยีชีวภาพ โทรศัพท์02-564-4440ต่อ2452 หรือเฟสบุ๊คเพจwww.facebook.com/ScienceThammasatและเว็บไซต์www.sci.tu.ac.th