นำร่องสิงห์บุรีปลอดแชร์ลูกโซ่100%

นำร่องสิงห์บุรีปลอดแชร์ลูกโซ่100%

"ดีเอสไอ" จับมือ "ผู้ว่าฯสิงหบ์บุรี" นําร่องเขตปลอดแชร์ลูกโซ่ 100 % ในพื้นที่ภาคกลาง ขณะที่สถิติแชร์ลูกโซ่ปี47-60 สูงกว่า 150คดี มูลค่าความเสียหายกว่า 20,000 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 12 มิ.ย.61 พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ กับ จังหวัดสิงห์บุรี โดย นายสุทธา สายวาณิชย์ ผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อบูรณาการความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน หรือแชร์ลูกโซ่ซึ่งเป็นวาระแห่งชาติเพื่อผลักดันให้จังหวัดสิงห์บุรีจะเป็นจังหวัดนำร่องเขตปลอดแชร์ลูกโซ่ 100 % ในพื้นที่ภาคกลาง

พ.ต.อ. ไพสิฐ กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้จะบูรณาการการทำงานอย่างเป็นระบบทั้งในระดับนโยบาย และระดับปฏิบัติการ ซึ่งได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการร่วมในการป้องปรามธุรกิจการเงินนอกระบบ โดยใช้กลไกคณะกรรมการ ป้องปรามธุรกิจการเงินนอกระบบและอนุกรรมการป้องปรามธุรกิจการเงินนอกระบบในส่วนภูมิภาคในระดับจังหวัด เพื่อเฝ้าระวัง สอดส่อง ดูแลไม่ให้เกิดการจัดเวทีหลอกลวงฉ้อโกงประชาชน และให้ความรู้เกี่ยวกับการลงทุนและ ผลตอบแทนที่ควรได้รับในการลงทุนปกติแก่ประชาชน โดยมีภาคเอกชนและภาคประชาชนเข้ามาเป็นเครือข่ายเฝ้าระวังแชร์ลูกโซ่เป็นการฉ้อโกงประชาชนที่หลอกลวงให้เหยื่อสมัครเป็นสมาชิกร่วมลงทุนในธุรกิจที่ไม่เน้น การจำหน่ายสินค้าหรือให้บริการ แต่จะอ้างว่ามีผลตอบแทนสูง แต่จะใช้หรือนำเงินของผู้สมัครรายหลังไปจ่ายค่าตอบแทนให้ ผู้ที่สมัครรายแรก ๆ และจะหยุดการจ่ายค่าตอบแทนในเวลาต่อมา แล้วปิดกิจการ พร้อมนำเงินที่ได้จากสมาชิกหนีไป ทำให้เกิดความเสียหายลุกลามในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็น การฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 และหากเป็นเรื่องที่มีความเสียหายในวงกว้าง หรือกระทำผิดซับซ้อนก็จะเป็นคดีพิเศษ จะอยู่ในความรับผิดชอบของดีเอสไอ โดยระหว่างปี พ.ศ. 2547 - 2560 มีคดีพิเศษเกี่ยวกับแชร์ลูกโซ่กว่า 150 คดี มูลค่าความเสียหายไม่น้อยกว่า 20,000 ล้านบาท

อธิบดีดีเอสไอ กล่าวด้วยว่า ดีเอสไอได้พัฒนาแอพพลิเคชัน “แชร์ลูกโซ่” เพื่อให้ประชาชนสามารถตรวจสอบ และประเมินความเสี่ยงเบื้องต้นของธุรกิจที่ตนเองจะไปลงทุนว่ามีความเสี่ยงจะเป็นแชร์ลูกโซ่หรือไม่ โดยการดาวน์โหลดแอพพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือของตนเอง นอกจากนี้ ผู้เสียหายทั่วประเทศสามารถร้องทุกข์ ร้องเรียน ผ่าน 9 ช่องทาง อาทิ การติดต่อด้วยตนเองที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ เว็บไซต์ดีเอสไอ สายด่วนหรือCall Center 1202(โทร.ฟรีทั่วประเทศ)