4องค์กรแม่โจ้ยันโปร่งใส โต้กลุ่มอจ.ร้องขอม.44จัดการผู้บริหารมหา'ลัย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สืบเนื่องจากที่ก่อนหน้านี้ กลุ่มอาจารย์มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ได้ยื่นหนังสือถึงคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) ขออาศัยอำนาจมาตรา 44 เข้าควบคุมการบริหารงานของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ โดยระบุว่าสภามหาวิทยาลัย และ อธิการบดี ขาดธรรมาภิบาล จากข้อร้องเรียนการนำรถยนต์ส่วนกลางของมหาวิทยาลัยไปใช้ ทั้งที่ได้เลือกรับเงินค่าตอบแทนเหมาจ่ายในการจัดหารถประจำตำแหน่งอธิการบดีไปแล้ว รวมทั้งเรื่องของการขอใช้รถยนต์ส่วนกลาง พนักงานขับรถ และ เบิกเบี้ยเลี้ยงพนักงานขับรถ ไปใช้ในงานทำบุญทอดผ้าป่าที่จังหวัดลำพูน เมื่อวันที่ 19-21 ธันวาคม 2557

ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ ( 4 มิ.ย. 61) 4 องค์กรหลักของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ที่ประกอบด้วย สภามหาวิทยาลัยแม่โจ้ ผู้บริหารมหาวิทยาลัยแม่โจ้ สมาคมศิษย์เก่าแม่โจ้ และ องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยแม่โจ้ นำโดย รศ.ดร.วีระพล ทองมา รองอธิการบดี ผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนเลขานุการสภามหาวิทยาลัย , ดร.สุดเขต สกุลทอง ผู้ช่วยอธิการบดี มหาวิทยาลัยแม่โจ้ , ผศ.พาวิน มโนชัย นายกสมาคมศิษย์เก่าแม่โจ้ และนายอภิสิทธิ์ เสนามาตย์ นายกองค์กรนักศึกษา ม.แม่โจ้ ร่วมกันแสดงจุดยืนและแสดงเจตนารมย์ถึงความถูกต้องและโปร่งใสในการบริหารงานของมหาวิทยาลัย

พร้อมชี้แจงข้อเท็จจริงต่อข้อร้องเรียนที่เกิดขึ้นกับสื่อมวลชน โดยระบุว่าข่าวที่ถูกนำเสนอไปเป็นการนำเสนอข้อมูลด้านเดียว ทำให้เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียงและภาพลักษณ์ของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ โดยทั้ง 4 องค์กร จะร่วมมือกันเพื่อดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ที่แสดงและเผยแพร่ข้อความบิดเบือนเป็นที่เสียหายต่อมหาวิทยาลัย โดยมีผู้บริหาร บุคลากรและประชาคมมหาวิทยาลัยแม่โจ้ จำนวนกว่า 50 คนเข้าร่วมในห้องประชุมครั้งนี้

รศ.ดร. วีระพล ทองมา รองอธิการบดี ผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนเลขานุการสภามหาวิทยาลัย ชี้แจงว่า ข้อกล่าวหาที่มีการร้องเรียนไปยัง สกอ. และ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แต่ภายหลัง ป.ป.ช. พิจารณาแล้วมีมติไม่รับเรื่องและให้สภามหาวิทยาลัยแม่โจ้ ดำเนินการตรวจสอบ ขณะที่การไต่สวนข้อเท็จจริงได้ข้อสรุป การทอดผ้าป่าดังกล่าวเป็นกิจกรรมตามวัตถุประสงค์ของมหาวิทยาลัย ไม่ใช่เป็นการจัดทอดผ้าป่าเสริมบารมีของอธิการบดีแต่อย่างใด ซึ่งเรื่องนี้ได้รายงานผลให้ สกอ. และสำนักงาน ป.ป.ช. ได้ทราบตามลำดับแล้ว

ซึ่งงานดังกล่าวชื่อว่า ผ้าป่าสามัคคี แม่โจ้-แม่ทา ณ วัดทาศาลา จังหวัดลำพูน เมื่อวันที่ 19-21 ธันวาคม 2557 ซึ่งเป็นไปตามวัตถุประสงค์แห่งพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยแม่โจ้ พ.ศ.2539 ซึ่งกำหนดว่า มหาวิทยาลัยแม่โจ้มีวัตถุประสงค์ให้การศึกษา ส่งเสริมวิชาการและวิชาชีพชั้นสูง ทำการสอน การวิจัย ให้บริการวิชาการแก่สังคม และทะนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม ซึ่งเป็นภารกิจหลักในการดำเนินการของมหาวิทยาลัย

ซึ่งกรณีนี้ผู้ร้องเรียนยังได้ดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์ต่อสถานีตำรวจภูธรแม่โจ้ด้วย แต่พนักงานสอบสวนได้พิจารณาหลักฐานแล้วมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง ส่วนกรณีที่ 2 กล่าวหาเรื่องมีการใช้รถยนต์ส่วนกลางของมหาวิทยาลัยเป็นรถประจำตำแหน่งของอธิการบดี สภามหาวิทยาลัยแม่โจ้ กรรมการสภาผู้ทรงคุณวุฒิได้มีการตรวจสอบ ได้ผลว่าข้อกล่าวหาไม่มีมูล และได้ส่งผลการตรวจสอบไปให้ สกอ.แล้ว

“ปัญหาการร้องเรียนที่เกิดขึ้น ไม่ได้ร้องเข้ามาที่สภามหาวิทยาลัย หรือผู้บริหารตามขั้นตอน แต่กลับร้องเรียนไปยัง สกอ .และ ป.ป.ช. ขณะที่การนำเสนอข่าวของบางสื่ออย่างต่อเนื่องเพียงฝ่ายเดียว ได้สร้างความเสียหายแก่ชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยที่สั่งสมมาอย่างยาวนานกว่า 85 ปี หลังจากนี้มหาวิทยาลัยจะดำเนินการตามกฎหมาย เพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของมหาวิทยาลัยแม่โจ้อย่างถึงที่สุด”