"แม่เอ็กซ์" น้ำตาเอ่อ ยอมรับคิดถึงหลาน 2 คน ย้ำอโหสิกรรม "หมอนิ่ม" แต่แรก ชมเลี้ยงหลานได้ดีทุ่มเทมาก เห็นใจต้องใช้เงินเยอะหลานกำลังโต
ที่ศาลจังหวัดมีนบุรี ถ.สีหบุรานุกิจ ภายหลังศาลมีคำสั่งให้เลื่อนนัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีจ้างวานฆ่า เอ็กซ์ จักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม อดีตนักยิงปืนทีมชาติ เป็นวันที่ 26 มิ.ย.นี้ เวลา 10.00 น.แล้ว
เมื่อเวลา 11.00 น. นางบุญคิด พณิชย์ผาติกรรม มารดาของ เอ็กซ์-จักรกฤษณ์ ที่เดินทางมาร่วมฟังคำพิพากษา ได้เปิดเผยถึงความรู้สึกต่อ พญ.นิธิวดี หรือหมอนิ่ม ภู่เจริญยศ ลูกสะใภ้ที่ตกเป็นจำเลยในคดีนี้ว่า ไม่เคยโกรธเขาเลย อโหสิตั้งแต่แรกแล้ว ไม่เคยโกรธเขาเลย เป็นห่วงเขาด้วยซ้ำ เขาต้องเลี้ยงหลาน 2 คน ที่กำลังโต แล้วก็ใช้เงินเยอะ เขาเลี้ยงหลานได้ดีมีคุณภาพ เขาทุ่มเทกับหลานมาก เรารู้เพราะเราเลี้ยงเขามาตั้งแต่แบเบาะ 2 คนนี้ไปอุ้มมาตั้งแต่โรงพยาบาล เขาไปคลอดหลาน 2 คน เราก็ไปเฝ้าไปดูแลเขาตลอด วันนี้เขามาไหว้เราก็ไหว้ตอบ ไม่ได้โกรธ เห็นใจเขาด้วย เขาก็ดีต่อแม่ ตอนที่อยู่ด้วยกันเขาก็ดีมากๆ
ทั้งนี้ นางบุญคิด มารดาของเอ็กซ์ ยังบอกถึงความรู้สึกต่อหลานๆ ด้วยว่า ก็อยากเจอหลาน แต่เห็นว่าหมอนิ่มมีศักยภาพในการเลี้ยงดูหลานมากกว่า ดังที่หมอนิ่มแถลงต่อศาลขอเลื่อนคดีไปวันที่ 26 มิ.ย.นี้ เพราะติดประชุมผู้ปกครองต้องไปทำหน้าที่ทั้งเป็นแม่และพ่อ พอพูดอย่างนี้ตนก็น้ำตาคลอ ซึ่งตนแก่แล้วสุขภาพไม่ค่อยดี เลี้ยงหลานก็ใช้เงินเยอะมาก ซึ่งหลานทั้ง 2 คน เรียนหลักสูตรอินเตอร์และเรียนเปียโนด้วย
เมื่อถามถึงคดีข้อพิพาทที่ดิน ใน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ว่าผลเป็นอย่างไร นางบุญคิด เปิดเผยว่า ศาลตัดสินมาแล้วให้เป็นผู้จัดการมรดกในที่ดินนั้นร่วมกัน
ขณะที่ นายเอกชัย จิตรบาล ทนายความของนางบุญคิด ได้กล่าวเสริมว่า ได้ร้องจัดการมรดก ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างรวบรวมทรัพย์สิน เจรจาพูดคุย คดีได้คุยกันแล้ว นางบุญคิดได้อโหสิกรรม อยากให้ทุกอย่างไปตามขั้นตอนของศาล ศาลจะว่าอย่างไรก็ตามนั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อย่างไรก็ดีเมื่อถามย้ำถึงหลานๆ นางบุญคิด แม่ของเอ็กซ์ ก็เริ่มจะน้ำตาคลอก่อนที่จะยุติการให้สัมภาษณ์
ด้าน นายชำนาญ ชาดิษฐ์ ทนายความของหมอนิ่ม กล่าวถึงความพร้อมของหมอนิ่มในการฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์นัดหน้าว่า ไม่ว่าผลคำพิพากษาอุทธรณ์จะออกมาพิพากษายืนหรือแก้โทษ หมอนิ่มก็ได้เตรียมหลักทรัพย์ไว้เพื่อจะประกันตัวสู้คดีจนถึงชั้นฎีกา จากหลักทรัพย์เดิม 1 ล้านบาทก็เพิ่มเป็น 2 ล้านบาทแต่ทุกอย่างขึ้นอยู่กับดุลพินิจและความเมตตาของศาล ส่วนสภาพจิตใจของหมอนิ่มนั้นก็เหมือนคนที่ถูกดำเนินคดีทั่วไป ซึ่งหากผลคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์จะไม่ได้ยกฟ้อง เราก็จะสู้จนถึงศาลฎีกาชั้นสุดท้าย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังได้เลื่อนการอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์แล้ว หมอนิ่ม และ น.ส.สุรางค์ ดวงจินดา อายุ 75 ปี มารดาของหมอนิ่ม ที่ตกเป็นจำเลยร่วมด้วย (ศาลชั้นต้นยกฟ้องแม่หมอนิ่ม) พร้อมกับกลุ่มคนใกล้ชิดที่เดินทางมาให้กำลังใจวันนี้ 2-3 คน ก็รีบเดินทางกลับทันที โดย หมอนิ่ม พยายามขอร้องสื่อมวลชนที่จะไม่ให้ถ่ายภาพตน ก่อนที่ครอบครัวจะนั่งรถยนต์ฮอนด้าซีวิค สีดำ กลับออกไปโดยไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ