'กบง.'รีดเงินLPGเข้ากองทุนน้ำมันฯ1.41บาทต่อกก.

'กบง.'รีดเงินLPGเข้ากองทุนน้ำมันฯ1.41บาทต่อกก.

"กบง." รีดเงินแอลพีจีเข้ากองทุนน้ำมันฯ 1.41 บาทต่อกิโลกรัม เหลือชดเชย 3.37 บาทต่อกิโลกรัม หวังรักษาเสถียรภาพกองทุนน้ำมันฯหลังต้นทุนตลาดโลกลดลง

นายเพทาย หมุดธรรม รองผู้อำนวยการสำนักงานโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เมื่อวันที่ 9 ก.พ. 2561 ที่มี นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเป็นประธาน มีมติให้เรียกเก็บเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ในส่วนของบัญชีก๊าซปิโตรเลียมเหลว (แอลพีจี) จำนวน 1.4126 บาทต่อกิโลกรัม ส่งผลให้กองทุนน้ำมันฯที่เดิมต้องจ่ายชดเชยราคาขายปลีกแอลพีจี อยู่ที่ 4.7880 บาทต่อกิโลกรัม เป็นเหลือชดเชย 3.3754 บาทต่อกิโลกรัม โดยมีผลตั้งแต่วันนี้(13 ก.พ.) เป็นต้นไป โดยมติดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อราคาขายปลีกแอลพีจี ที่ยังคงราคาอยู่ที่ 19.82 บาทต่อกิโลกรัม เท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ การเรียกเก็บเงินส่งเข้ากองทุนแอลพีจีเพิ่มครั้งนี้ เป็นผลมาจากสถานการณ์ราคาแอลพีจีตลาดโลก (CP) เดือนก.พ.นี้ อยู่ที่ 515 ดอลลาร์ต่อตัน ปรับตัวลดลงจากเดือนม.ค.ที่ผ่านมา 65 ดอลลาร์ต่อตัน ขณะที่ราคา LPG Cargo เฉลี่ยสัปดาห์นี้ อยู่ที่ 463 ดอลลาร์ต่อตัน ปรับตัวลดลงจากสัปดาห์ก่อน 46.50 ดอลลาร์ต่อตัน และอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทได้อ่อนค่าลงจากสัปดาห์ก่อน 0.2499 บาทต่อดอลลาร์ มาอยู่ที่ 31.7896 บาทต่อดอลลาร์ ส่งผลให้ราคาแอลพีจี ณ โรงกลั่นที่อ้างอิงราคานำเข้า(Import Parity) ซึ่งเป็นราคาซื้อตั้งต้นก๊าซแอลพีจี ปรับตัวลดลง 1.3490 บาทต่อกิโลกรัม จาก 17.6034 บาทต่อกิโลกรัม มาอยู่ที่ 16.2544 บาทต่อกิโลกรัม กบง.จึงเห็นควรให้เรียกเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯเพิ่มเพื่อรักษาเสถียรภาพกองทุนน้ำมันฯในระยะต่อไป

อย่างไรก็ตาม ผลจากการปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ดังกล่าว ทำให้กองทุนน้ำมันฯ มีรายจ่ายสุทธิประมาณ 857 ล้านบาทต่อเดือน