ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น

ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น

ขณะซาอุดีอาระเบียส่งสัญญาณโอเปกเดินหน้าลดการผลิตเกินสิ้นปีนี้

สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าเวสต์เท็กซัส  ปิดตลาดวันจันทร์ (22ม.ค.)ตามเวลาท้องถิ่น ปรับตัวขึ้น โดยได้แรงหนุนจากการที่ซาอุดิอาระเบียส่งสัญญาณว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศผู้ผลิตอื่นๆ จะยังคงให้ความร่วมมือในการปรับลดกำลังการผลิตต่อไป แม้ในช่วงเวลาหลังจากสิ้นปีนี้ ซึ่งเป็นกำหนดเวลาสิ้นสุดการปรับลดกำลังการผลิตตามข้อตกลงของโอเปก

นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้รับปัจจัยหนุนจากการที่สหรัฐลดการขุดเจาะน้ำมันในสัปดาห์ที่แล้ว รวมทั้งการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกที่แข็งแกร่ง

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนก.พ. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาดไนเม็กซ์  เพิ่มขึ้น 25 เซนต์  ปิดตลาดที่ 63.62 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ บวก 24 เซนต์ ปิดตลาดที่ 68.85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล 

ทั้งนี้ เบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐ เปิดเผยว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐที่มีการใช้งาน มีจำนวนลดลง 5 แท่น สู่ระดับ 747 แท่นในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นการลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 2 ในรอบ 3 สัปดาห์ แม้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 3 ปี แต่แท่นขุดเจาะน้ำมันยังคงมีจำนวนมากกว่าระดับ 551 แท่นในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

ขณะที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้ และปีหน้า สู่ระดับ 3.9% โดยปรับเพิ่มขึ้น 0.2% พร้อมระบุว่า การปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์ครั้งนี้ มีสาเหตุจากแรงผลักดันการขยายตัวในระดับโลกที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งจากอานิสงส์ของการที่รัฐบาลสหรัฐภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ทำการปฏิรูประบบภาษี

อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันไม่สามารถดีดตัวขึ้นได้มาก โดยถูกกดดันจากการผลิตน้ำมันที่มากขึ้นของลิเบีย และความกังวลที่ว่าช่วงขาขึ้นของราคาน้ำมันที่เคยหนุนราคาพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2557 กำลังชะลอตัวลง