บันไดอีกขั้นสู่ดาวดวงเดิม ‘ZmyHome’

บันไดอีกขั้นสู่ดาวดวงเดิม ‘ZmyHome’

เดินมาไกลพอควรจากจุดสตาร์ทเมื่อ 2 ปีก่อน แต่ ZmyHome (ซีมายโฮม) ยังคงมุ่งไปยังเป้าหมายปลายทางเดิม ก็คือ “ Multiple Listing System”

ซีมายโฮมเริ่มต้นจากการขายและให้เช่าคอนโดมีเนียมเพียงอย่างเดียว “ณัฐพล อัศว์วิเศษศิวะกุล” ผู้ก่อตั้ง เคยให้สัมภาษณ์กับกรุงเทพธุรกิจไว้ว่า วิถีของสตาร์ทอัพ เป็นเรื่องของการ “โฟกัส” เนื่องจากตลาดคอนโดแอคทีฟมากกว่า ทั้งทีมงานยังมีความเชี่ยวชาญอีกด้วย แต่จากนั้นก็จะไปต่อที่ตลาดบ้าน เพราะตลาดมือสองแนวราบใหญ่นั้นกว่าคอนโด 3-4 เท่า


ปัจจุบัน ผู้ที่มาลงประกาศขายและให้เช่าในซีมายโฮม นอกจากเจ้าของคอนโดแล้วยังมีเจ้าของบ้านทั้งที่เป็นรายบุคคล รวมทั้งเจ้าของโครงการอสังหาริมทรัพย์ อาทิ แอลพีเอ็น, ริชี่เพลซ, ชีวาทัย เป็นต้น


ล่าสุดซีมายโฮมประกาศระดมเงินลงทุน 4 แสนเหรียญ จากกองทุน KK Fund ซึ่งณัฐพลกล่าวให้เครดิตแอลพีเอ็นว่า “ถ้าไม่ได้รับการสนับสนุนของแอลพีเอ็นก็คงไม่มีวันนี้”

ทั้งได้เผยถึงแผนในการใช้เงินดังนี้หนึ่ง นำเอาไปใช้พัฒนาเว็บไซต์เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ เพื่อตอบโจทย์คนต่างชาติที่ต้องการจะซื้อหรือเช่าที่อยู่ในอาศัยในเมืองไทย สอง จะพัฒนาระบบเอไอ ให้เรียนรู้ถึงพฤติกรรมความต้องการ ความสนใจของผู้ซื้อ เพื่อสามารถตอบสนองได้อย่างแม่นยำ และสาม จะนำไปพัฒนาเอพีไอเพื่อให้บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์นำข้อมูลของบ้านและคอนโดที่ต้องการขายขึ้นสู่ระบบได้สะดวกและง่ายขึ้น


"ทุกวันนี้อาจยังยากสำหรับดีเวลลอปเปอร์ โดยเฉพาะในการเอาคอนโดมาลงบนเว็บของเราทีละห้องๆ ความต่างของเว็บเราก็คือการให้เจ้าของเอาห้องจริง ๆมาลงในเว็บจริง ๆ เพราะโดยทั่วไปผู้ซื้อมักจะได้เห็นแค่บิลบอร์ด เห็นราคาเริ่มต้นแต่ไม่เห็นห้องจริง ว่าอยู่ที่ชั้นนี้ มุมนี้ มีราคาเท่าไหร่"


ณัฐพล พูดถึงเป้าหมายที่อาจยังอยู่ไกลว่าเป็นเรื่องเดิมนั่นคือ Multiple Listing System ซึ่งในประเทศที่เจริญนิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย เช่นที่สหรัฐอเมริกาการซื้อขายที่อยู่อาศัยถึง90% จะผ่านระบบนี้ทั้งหมด


โดยระบบดังกล่าวจะมีการทำงานเสมือนเป็นฐานข้อมูลกลาง ข้อมูลจะถูกอัพเดทอยู่ตลอดเวลา เมื่อมีการซื้อขายเกิดขึ้น ระบบสามารถบันทึกการซื้อขายได้ทันที


วัตถุประสงค์ที่ณัฐพลต้้งซีมายโฮมขึ้นมาก็เพื่อช่วยแก้ปัญหาในเรื่องที่อยู่อาศัยเมืองไทยที่ซื้อขายกันยากยิ่ง ดูจากสถิติแล้วมักใช้เวลากันเป็นปี ตรงกันข้ามกับต่างประเทศซึ่งจะใช้เวลาไม่นานนัก เช่น สหรัฐอเมริกา ใช้ระยะเวลาประมาณ 79 วัน อังกฤษประมาณ 46-55 วัน ขณะที่ออสเตรเลียใช้เวลาแค่ 37 วัน เท่านั้น


"ถ้าเปิดดูเว็บที่ขายคอนโด ขายบ้านในเมืองไทย จะเห็นว่ามีนายหน้ามาลงประกาศกันเยอะมาก และเจ้าของบ้านและคอนโดคนไทยเวลาขายมักไม่ได้เซ็นเอ็กคลูซีพขายกับนายหน้ารายใดรายหนึ่ง เขาจะบอกผ่านนายหน้า 10-20 เจ้า เพราะอยากขายได้ภายในเวลาที่ต้องการ มันก็เกิดเหตุุการณ์ที่นายหน้าเอาบ้าน คอนโดหลังเดียวกันไปลงในเว็บเดียวกัน ประกาศซ้ำกัน บางทีขายไปแล้ว แต่บ้านหรือคอนโดก็ยังประกาศขายอยู่บนเว็บเพราะไม่รู้ว่าขายได้แล้ว อีกเหตุผลหนึ่งก็คือนายหน้าไม่เอาออกจากระบบเองเพราะหวังจะมีคนโทรมาหาเพื่อเสนอขายโครงการอื่น" ณัฐพลเคยเล่าให้ฟัง


ประเด็นสำคัญก็คือ ข้อมูลที่ผิดพลาด ได้ส่งผลให้คนที่ต้องการจะซื้อ/เช่าบ้านหรือคอนโดเลยต้องใช้เวลาเป็นแรมเดือนแรมปี ในการเสิร์ซหาว่าข้อมูลว่ามีบ้านหรือคอนโดทำเลนี้ ขายในราคาเท่านี้


ที่ลำบากกว่าก็คือ คนขาย ที่ไม่รู้ว่าควรตั้งราคาขายเท่าไหร่ แต่แน่นอนส่วนใหญ่ก็ไม่อยากขายถูก ก็เลยตั้งราคาเผื่อเอาไว้แล้วค่อยๆ ให้ตลาดขึ้นมาชนเอง กว่าจะขายได้มักต้องใช้เวลาที่เนิ่นนาน


ขณะที่ซีมายโฮม ต้องการเป็นตัวกลางที่มีความน่าเชื่อถือ ด้วยข้อมูลที่อัพเดต ถูกต้อง ครบถ้วน เป็นตัวช่วยทำให้เจ้าของขายบ้านและคอนโดได้อย่างรวดเร็ว ในเวลาเดียวกันผู้ซื้อเองก็สามารถเช็คหาบ้านที่ถูกใจไม่ว่าจะเป็นเรื่องทำเลและราคา ทั้งยังได้ซื้อตรงจากเจ้าของไม่ต้องเสียค่านายหน้า


ยกตัวอย่างก็เหมือนการจองโรงแรม ที่คนโดยทั่วไปมักจะต้องเสิร์ซรายชื่อโรงแรมในทำเลที่ต้องการ อยู่ในงบประมาณที่ต้้งไว้ แล้วก็ไปค้นดูว่าห้องที่ไหนดีไม่ดี เรตติ้งเป็นอย่างไร พอถูกใจก็จอง พอจองเสร็จกลายเป็นว่าเว็บไซต์กลับขึ้นข้อความว่ากรุณาตรวจสอบราคาอีกครั้งกับทางโรงแรม และเมื่อโทรไปก็ได้รับชี้แจงว่าราคาต้องบวกเพิ่มขึ้นอีก แน่นอนอาจต้องค้นหาโรงแรมใหม่ เกิดความรู้สึกไม่พอใจสุดแสนจะซัพเฟอร์


เวลานี้จุดแข็งของซีมายโฮม คือการช่วยให้ลูกค้าที่เป็นเจ้าของโครงการ รวมถึงเจ้าของบ้านรายย่อยขายได้เร็วขึ้นเพราะรับรู้ความต้องการที่แท้จริงของตลาด ซีมายโฮมยังช่วยโปรโมททรัพย์สินที่ตรงกลุ่มเป้าหมาย หมายถึง ผู้ที่มีแผนจะซื้อบ้าน หรือเช่าในทำเลที่ตั้งของโครงการให้ได้ภายในเวลา 3 เดือน

ซึ่งผู้ขายยังสามารถศึกษาถึงวิธีการ แนวทางของผู้ที่ขาย-เช่า แล้วประสบความสำเร็จก่อนลงประกาศ และภายหลังจากที่ลงประกาศก็จะได้รับรู้ถึงความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นในโครงการเดียวกันหรือในชุมชนรอบ ๆ ผ่านทางเฟซบุ๊กแมสเซ็นเจอร์ ไม่ว่าจะเป็นจำนวนคนสนใจโครงการที่ได้ลงประกาศขาย หรือประกาศที่มีผู้สนใจซื้อที่อยู่ในโครงการเดียวกันกับเราที่สามารถขาย-เช่าได้แล้ว เปรียบเหมือนมีมืออาชีพคอยให้คำแนะนำอยู่ตลอดเวลา


ในปีที่ผ่านมาแอลพีเอ็นเองก็สามารถปิดยอดขายได้จริงผ่านเว็บไซต์ซีมายโฮมถึง 100 ล้านบาท และภายในปี2561 ตั้งเป้าหมายจะปิดยอดขายที่ 300 ล้านบาท


"เราอยากทำซีมายโฮมให้กลายเป็นเรียลไทม์ดาต้าเบสของตลาดเรียลเอสเตทประเทศไทย ตัวผมเองเคยเป็นคอนเซาท์มาก่อน ก็พบว่าลูกค้าที่เป็นบริษัทพัฒนาอสังหาฯเวลาจะขึ้นโครงการเขาไม่ทราบว่าทำเลนี้มีดีมานด์จริงๆเป็นอย่างไร ความต้องการมีมากแค่ไหน คนสนใจที่ราคาเท่าไหร่ ซึ่งแพลตฟอร์มสามารถบอกได้"


ในมุมของนักลงทุน “โคอิชิ ไซโตะ” ผู้ก่อตั้ง KK Fund บอกว่าที่เลือกลงทุนในซีมายโฮมเพราะเห็นโอกาสของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในเอเชียตะวันออกเฉียงที่มีสภาพคล่องต่ำ มีความต้องการแพลตฟอร์มที่มีข้อมูลถูกต้อง เพื่อช่วยให้การซื้อขายเกิดขึ้นได้รวดเร็วยิ่งขึ้นเหมือนประเทศที่พัฒนาแล้ว


“ทีมผู้ก่อตั้งซีมายโฮมมีความข้าใจโครงสร้างของปัญหานี้เป็นอย่างดี และทุ่มเทตลอดมาที่จะทำให้ผู้ซื้อ ผู้ขาย ซื้อขายสำเร็จได้ตามต้องการ เป็นแพลตฟอร์มเดียวในไทยที่แก้ปัญหาได้ตรงจุด”


ด้าน “สมโภชน์ จันทร์สมบูรณ์” กรรมการผู้จัดการ ดีแทค แอคเซอเลอเรท กล่าวแสดงความยินดีกับผู้ก่อตั้งและทีมงานซีมายโฮม ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพในครอบครัวของ ดีแทค แอคเซอเลอเรทแบตซ์ที่3 ที่ใช้เวลาเพียง2 ปี ก็สามารถช่วยเจ้าของบ้านประกาศขายและให้เช่าได้จริงกว่า 1 หมื่นรายการ มีการเติบโตเฉลี่ย 18% ต่อเดือน และต่อเดือนเว็บไซต์ถูกเปิดดูมากว่า 1 ล้านครั้ง กระทั่งได้รับความไว้วางใจจาก KK Fund