หุ้นกลุ่มเทคโนฯหนุนดาวโจนส์ปิดบวก

หุ้นกลุ่มเทคโนฯหนุนดาวโจนส์ปิดบวก

ราคาหุ้นเฟซบุ๊ค ปรับตัวขึ้น 2.31% ส่วนราคาหุ้นของอัลฟาเบท บริษัทแม่ของกูเกิ้ล ปรับตัวขึ้น 1.23%  หนุนให้ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดตลาดในแดนบวก หลังจากดัชนีปิดตลาดในแดนลบติดต่อกัน 4 วัน

ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดวันพฤหัสบดี(7ธ.ค.)ตามเวลาท้องถิ่น ในแดนบวก เพราะได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ทั้งราคาหุ้นบริษัทเฟซบุ๊ค และอัลฟาเบท ขณะที่นักลงทุนจับตาผลประกอบการ, ความคืบหน้าของร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีสหรัฐ รวมทั้งการพิจารณาร่างกฎหมายงบประมาณในสภาคองเกรสเพื่อหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานรัฐบาล

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับตัวขึ้น  0.29% ปิดที่ 24,211.48  จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500  เพิ่มขึ้น 0.29% ปิดที่ 2,636.98 จุด และดัชนีแนสแด็ก ปรับตัวขึ้น 0.54% ปิดที่ 6,812.84 จุด

นอกจากนี้ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา วุฒิสภาสหรัฐมีมติรับรองร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีด้วยคะแนนเสียง 51-49 โดยวุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกันทุกคนยกเว้นนายบ็อบ คอร์กเกอร์ ต่างลงคะแนนเสียงรับรองร่างกฎหมายฉบับนี้ ขณะที่วุฒิสมาชิกจากพรรคเดโมแครตทุกคนลงคะแนนเสียงไม่รับรองร่างกฎหมายดังกล่าว

หลังจากนี้ สภาคองเกรสสหรัฐจะต้องรวมร่างกฎหมายที่ผ่านความเห็นชอบของวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรเป็นร่างเดียวกัน และให้การอนุมัติ ก่อนที่จะส่งต่อไปให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ลงนามเป็นกฎหมายต่อไป

ความแตกต่างสำคัญระหว่างร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีในฉบับของวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรคือ ร่างกฎหมายของสภาผู้แทนราษฎรจะกำหนดให้การปรับลดภาษีมีผลบังคับใช้ทันทีในปีหน้า ในขณะที่ร่างของวุฒิสภาจะชะลอการปรับลดภาษีจนกว่าจะถึงปี 2562

ขณะเดียวกัน ปธน.ทรัมป์ เตรียมจัดการประชุมกับแกนนำของพรรคเดโมแครตในวันนี้ เพื่อหาทางประสานความขัดแย้งเกี่ยวกับร่างงบประมาณรายจ่ายของรัฐบาล โดยหวังหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานของรัฐบาล อันเนื่องจากการขาดแคลนงบประมาณ หากสภาคองเกรสไม่อนุมัติร่างงบประมาณรายจ่ายของรัฐบาล

นางแนนซี เปโลซี ซึ่งเป็นผู้นำพรรคเดโมแครตในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ และนายชัค ชูเมอร์ ผู้นำพรรคเดโมแครตในวุฒิสภา จะประชุมกับปธน.ทรัมป์ และแกนนำของพรรครีพับลิกันในวันนี้ เพื่อขจัดความเห็นที่แตกต่างกันเกี่ยวกับร่างงบประมาณรายจ่าย โดยการประชุมดังกล่าวจะมีขึ้นในเวลา 15.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือคืนนี้เวลา 03.00 น.ตามเวลาไทย

ปธน.ทรัมป์ และสภาคองเกรสเผชิญเส้นตายในเวลาเที่ยงคืนวันศุกร์ ตามเวลาสหรัฐ ในการอนุมัติงบประมาณรายจ่ายของรัฐบาล ซึ่งหากสภาคองเกรสไม่สามารถบรรลุข้อตกลง ก็จะส่งผลให้มีการปิดหน่วยงานรัฐบาลบางแห่ง

ทั้งนี้ สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจะจัดการประชุมเพื่อลงมติต่อร่างกฎหมายงบประมาณในวันนี้ ซึ่งจะช่วยให้รัฐบาลสามารถมีงบใช้จ่ายจนถึงวันที่ 22 ธ.ค. ขณะที่สมาชิกสภานิติบัญญัติหารือกันเพื่อหาทางออกในระยะยาว

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาปัจจัยการเมืองสหรัฐ หลังจากที่สื่อรายงานว่า นายไมเคิล ฟลินน์ อดีตที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้เตรียมให้การซัดทอดนายทรัมป์ว่า เป็นผู้สั่งการให้เขาทำการติดต่อกับเจ้าหน้าที่รัสเซียในช่วงที่มีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปีที่แล้ว

นายฟลินน์ยังยอมรับว่า เขาได้ให้การเท็จต่อสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (เอฟบีไอ) เกี่ยวกับการสนทนาของเขากับนายเซอร์เก คิซยัค เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำสหรัฐ